วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2564

เปิดได้ เปิด (เปิดเผย)

 

เปิดได้ เปิด (เปิดเผย)

สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศของเรา แม้จะเริ่มควบคุมได้บ้างแล้ว แต่ยังมีผลกระทบจากการติดเชื้อขยายตัวเป็นวงกว้างมากขึ้น อันเนื่องมาจากการไม่ยอมเปิดเผยความจริงของผู้ที่มีเชื้อ ที่ไปอยู่รวมตัวกันจัดงาน จนถูกสังคมกดดันให้เปิดเผยกิจกรรมที่ได้กระทำในวันเวลาที่ผ่านมา แน่นอน หลายคนอาจจะคงไปทำเรื่องที่ไม่ดีไม่งามจึงไม่กล้าเปิดเผย (เข้าบ่อน เข้าบาร์ ปาร์ตี้) จึงเลือกที่จะปิดบัง จนมีคำพูดที่เคยพูดกันติดปากว่า “ตอนทำไม่รู้จักคิดก่อน” อันนี้ไม่ได้ต้องการจะว่ากล่าวหาใครทั้งสิ้น ทุกคนมีวันพลาดมีวันที่ต้องเห็นแก่ตัว มีโลกที่ต้องปกปิดด้วยกันทั้งนั้น แต่กำลังจะมองให้ลึกวิเคราะห์ลงลึกไปว่า วันนี้เรากำลังเห็นสัญญาณบางอย่างอย่างที่กำลังสื่อมาให้เรารับรู้ นั่นคือ ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่จะปกปิดความผิดพลาด นอกเสียจากยอมรับมัน แล้วให้อภัยกัน เพื่อเริ่มต้นใหม่



ใช่หรือไม่ ในการที่เราทำผิดพลาดสิ่งแรกที่เราได้รับ คือ ความทุกข์ใจ เครียด แม้จะยังไม่มีใครรู้ แต่เราย่อมรู้อยู่แก่ใจ หากจะใครคนใดใจกระด้าง ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทำเป็นไร้จิตสำนึก บ่อย ๆ เข้า เขาคนนั้นก็จะเริ่มชินชาในการกระทำนั้น ๆ พร้อมทั้งมักมีข้ออ้าง มีเหตุผลเข้าข้างตัวเองได้เสมอ แต่ก็อีกนั่นแหละ...ไม่ช้าก็เร็ว ความผิดนั้นจะถูกเปิดเผยในที่สุด วันเวลาของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน บางคนบางครั้งเห็นความผิดซึ่งหน้า คนที่ทำกลับไม่ได้รับการลงโทษ ก็คิดไปว่า ทำดีได้ดีมีที่ไหนทำชั่วได้ดีมีถมไป เกิดอาการน้อยใจเบื้องบน คิดจะทำชั่วทำเลวเหมือนคนอื่นบ้าง โลกกำลังสอนเราว่า ไม่ใช่หน้าที่เราในการตัดสินคนอื่น ใครทำอะไรก็จะได้สิ่งนั้นตามกาลเวลาฟ้าดินลิขิต แล้ววันนี้วันที่ชีวิตผู้คนกำลังตกอยู่ในวิกฤติโรคระบาด เหมือนฟ้าเริ่มเปิด สิ่งที่เคยถูกปกปิด ซ่อนเร้น ทำเหมือนว่าไม่มีทางที่ใครจะรู้ ไม่มีวันที่ใครจะเห็น กำลังถูกทำให้ต้องเปิดเผย ไวรัสโควิด-19 กำลังตีสอนผู้คนให้ทำอะไรต่อมิอะไรอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา เพราะเนื้อแท้ของชีวิตแล้ว คือ ความซื่อตรง ซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น

อีกด้านหนึ่งมันก็สอนเราว่า สิ่งที่เราเคยเห็นว่าดีอาจจะไม่ดีอย่างที่คิดก็ได้ เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาการกวาดล้าง รื้อสิ่งใต้พรมที่สะสมมานาน เป็นช่วงเวลาที่ระเบียบกำลังถูกนำมาจัดวางใหม่ ความไม่ดีไม่งามกำลังถูกพลิกกลบ เพื่อฟื้นฟู โลกที่ผ่านมาเราเห็นความย้อนแย้งกันมาเยอะมากแล้ว คนที่ควรจะเป็นต้นแบบมักจะทำอีกแบบอีกด้านหนึ่งที่เราคิดไม่ถึง คนสาธารณะมักแอบทำผิด ทุจริตกันแบบลับหลัง คนครองตนในคราบของผู้สมถะ ก็กลับกลายเป็นคนที่ใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย ผู้ที่มีหน้าที่เพื่อผู้อื่นกลับหยิบฉวยผลประโยชน์เข้าตัวเอง ผู้ที่คนอื่นคิดว่ามีใจยากไร้กลับมีเงินทองแอบซุกซ่อนในซอกหลืบ ผู้ที่ควรเป็นผู้ให้กลับทำตัวเป็นผู้รับที่น่าสงสาร โลกกลับด้านกำลังถูกพลิกให้ความจริงปรากฎ แล้วเราจะได้เห็นเหตุการณ์ลักษณะนี้ออกมาอยู่เรื่อย ๆ ไม่มีการกระทำผิดใดรอดพ้นสายพระเนตรจากพระเจ้าได้...


กลับมาที่ตัวเราบ้าง ในวันนี้วันที่ถูกขนาบด้วยเชื้อในจิต ด้วยมลพิษในใจ เราจ่อจมอยู่กับสิ่งเหล่านี้หรือไม่? ช่วยกันเปิดเผยความดีงามแห่งชีวิตเราออกมา ด้วยความรัก ความเมตตา ความจริงใจ ขับไล่ปีศาจแห่งความโลภความหลง ปีศาจแห่งความอวดรู้แล้วแอบอ้างเพื่อโอ้อวด ปีศาจแห่งความหยิ่งยโส ปีศาจแห่งความคลั่งไคล้ในอำนาจจอมปลอมหัวโขนเท็จเทียม ออกจากตัวเราไปให้พ้น ดีกว่าจะปล่อยให้คนอื่นมาขับไล่ มาเปิดเผยความดีงามของเรา ถ้าไม่เช่นนั้น เมื่อวันเวลานั้นมาถึง เราอาจจะไม่มีที่ยืนหรือต้องหลีกหนีไปแอบนั่งหดตัวงอเข่าในมุมเล็ก ๆ มืด ๆ อย่างเดียวดาย แล้วจากลาโลกไปอย่างคนไร้เกียรติ วันเวลามีไว้ให้เราสร้างความดีงาม หาใช่เพื่อเก็บเกี่ยวสะสมแต้มต่อ วันเวลามีไว้ให้เราเปิดเผยความจริงมิใช่มีให้ไว้เก็บงำความผิดพลาด วันเวลามีไว้ให้แก้ไขหาใช่ไว้แก้ต่างแก้ตัว อย่ามัวเพลิดเพลินจนลืมไปว่า พรุ่งนี้อาจจะถึงเวลานั้นของเราแล้ว มีอะไรบ้างที่จะพิสูจน์คุณค่าความเป็นบุตรของพระเจ้าได้ ...

ไม่มีความคิดเห็น: