วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2564

ฟ้าสางทางสว่าง

 

ฟ้าสางทางสว่าง

ด้วยว่าอายุขัยเริ่มมากขึ้นจึงคิดว่าเวลาเหลือน้อย ร่างกายจึงตื่นแต่เช้าในทุกวัน ตื่นมายืดเส้นยืดสาย จิบกาแฟอ่านหนังสือ อ่านข่าว ติดตามความเคลื่อนไหวของผู้คนบนสถานการณ์โควิด-19 ที่มันยังคงรักคนในโลกนี้ จึงมิยอมลดลาที่จะจากลาไปอย่างง่าย ๆ อยู่สั่งสอนให้ผู้คนเรียนรู้ที่จะรักตัวเองให้เป็น เพื่อรักคนอื่นหมื่นแสนล้าน ทักทอเป็นสายใยกันต่อไป อากาศเย็น ๆ ยามเช้าทำให้สดชื่นอยู่ไม่น้อย เดินออกมาหน้าบ้านรับลม ฟ้าเริ่มสาง ผู้คนเริ่มค่อย ๆ ออกจากบ้าน หนทางเริ่มสว่างเห็นความหวังรอคอยอยู่ หลายชีวิตออกทำมาหากิน ลุงมอเตอร์ไซต์รับจ้างกล่าวทักทาย แม้ว่านาน ๆ จะใช้บริการสักครั้ง พี่ร้านขายขนมปังที่เคยเป็นขาประจำไถ่ถามทุกข์สุข แม้ว่าวันนี้จะเปลี่ยนไปขายอย่างอื่น  เป็นความสุขเล็ก ๆ ในซอยน้อย ๆ  ทุกชีวิตเริ่มต้นภารกิจแห่งการดำรงอยู่ เห็นผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา ทำให้คิดว่า วันเวลาที่ผ่านมามีความดีงามที่ผ่านพ้นให้เราพบเห็นเป็นประจำ มากมาย ผ่านเข้ามาแต่เรามองไม่เห็น เพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ไม่ถูกใจเรา หลายคนมีอะไรต่ออะไรมากมายเข้ามาในชีวิต แต่แทนที่จะเป็นสุข กลับทุกข์ เพราะมองเห็นแต่สิ่งที่ไม่ดี ไม่งาม


ใช่หรือไม่ ทุกคนล้วนมีสิ่งดีในตัวเองด้วยกันทั้งนั้น บางครั้ง บางจังหวะ เราเป็นผู้เฝ้าดู เราเห็นทั้งด้านดีงามและด้านตรงข้าม หากเราเก็บเพียงด้านดีงามมาเสริมแต่งให้ชีวิตเรา ก็จะเกิดแต่ความงามในชีวิตมิใช่หรือ!!!      ใยจึงต้องเอาด้านมืดดำ ที่นำไปสู่ทางไหนก็ไม่รู้มาใช้ในชีวิตเล่า? แน่นอน คนเรามักมีช่วงจังหวะที่ต้องยืนงง ๆ ในดงที่มืดดำ แต่ต้องไม่ก้าวถลำไป ต้องรู้จักที่จะรอคอย ทุกคนมีจังหวะและโอกาสที่จะพบทางออกเสมอ ฟ้ามืดยังมีเวลาฟ้าสางฉันใด ชีวิตคนเราย่อมมีทางสว่างเวียนแวะมาหาได้เสมอฉันนั้น และก็ขึ้นอยู่กับว่า เราได้มองดูสิ่งเหล่านั้นด้วยสายตาแบบไหนด้วย คนเรามองสิ่งเดียวกันยังไม่เหมือนกันเลย คนที่เคยเจออะไรร้าย ๆ มาก็อาจจะพูดอีกแบบ คนที่พบเจอแต่อะไรดี ๆ ก็อาจพูดอีกอย่าง คนดีก็อาจจะบรรยายอีกแบบ คนไม่ดีก็บรรยายไปอีกทาง คนใจเป็นกลางก็มองอีกแบบ คนใจลำเอียงก็คงมองเบี่ยงเบนไปมา บนโลกใบนี้มีเรื่องราวหลากหลายแบบ ชีวิตของเรา ก็เช่นกัน มีหลายเรื่องราวที่มาจากปากของหลาย ๆ คน ที่เห็นเราในมุมของเขา จะไปเปลี่ยนคนอื่นให้มองเราดังใจหวังไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ถ้าเปลี่ยนที่มุมมอง ที่ความคิดของเรา จะทำให้เรามีความสุขมากขึ้น พูดด้วยความจริง  ใช่หรือไม่ เรามักเอาความรู้สึกเอาความสุขไปผูกยึดโยงไว้กับคนอื่นเสมอ ถ้าเรากลับมาเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนวิธีมองโลกใหม่ เราจะเห็นทุกอย่างในมุมที่ต่างออกไป จากที่เคยต้องรอความสุขจากคนอื่น เรากลับมีความสุขได้ด้วยตัวเอง  แค่เราปรับมุมที่มองมันชีวิตก็เปลี่ยน

สังคมวันนี้ มีคนมากมายทั้งในออนไลน์ ออฟไลน์ ที่มักมองไม่เห็นความดีงามของคนอื่น ทั้ง ๆ ที่บางทีไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เพียงแค่เห็นบางสิ่งบางอย่างก็ตัดสินไปเรียบร้อน ฉะนั้นแล้ว อย่าตัดสินใคร อย่าดูถูกใคร เราไม่มีทางรู้เลยว่าเขาเจออะไรมาบ้าง เป้าหมายชีวิตคนเรานั้นย่อมแตกต่างกัน อย่ามีโลกแคบ เห็นคนอื่นที่คิดไม่เหมือนเรานั้นผิดเสมอ เราต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับความคิดต่างจากผู้อื่น ความงามอย่างหนึ่งของธรรมชาติ คือ ความหลากหลายนั่นมิใช่หรือ


ชีวิตคนเรานั้นมีหลายมุม ในตัวเรามันก็มีทั้งดีและไม่ดี ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ เราต้องอดทน ต้องพยายามและเรียนรู้ เวลาที่มีคนมองชีวิตเรา คิดว่าเรานั้นสุขสบาย มีสิ่งต่าง ๆ มากมาย แต่หารู้ไม่ เราต้องผ่านความเหนื่อยทุกข์ยากมาตั้งเท่าไร เหมือนเมื่อเราเห็นคนอื่นผ่านสายตา เราต้องมองเข้าไปถึงความดีงามของคนเหล่านั้น ที่ล้วนผ่านเรื่องราวมาหนักเบาไม่เท่ากัน แต่สิ่งที่เหมือนกัน คือ ทุกชีวิตมีความงามตามติดมาด้วยกันเสมอ  มองคนอย่ามองเพียงแค่ด้านเดียว เพราะเราทุกคนนั้นมีหลายมุม สิ่งที่จะทำให้เราสว่างทางจิตวิญญาณได้ก็ คือ ต้องหัดมองความดีงามของผู้คนเสมอ ๆ

ไม่มีความคิดเห็น: