วันเสาร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ปิดกายเปิดใจ


ปิดกายเปิดใจ
ในขณะที่โลกกำลังพยายามเร่งการเปลี่ยนผ่านเพื่อสู่ยุคใหม่อย่างสมบูรณ์ แต่แล้วสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน เร็วจนกระทั่งทั่วโลกรับมือแทบไม่ทันนั่นคือ การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า จากประเทศหนึ่งสู่ประเทศหนึ่ง แพร่กระจายไปจนขนาดที่ว่าแค่นั่งเขียนบทความนี้อยู่ ตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาแทบทุกชั่วโมงจนไม่อาจจะระบุตัวเลขได้อย่างชัดเจน ถึงแม้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเชื้อ COVID-19 และการแพร่ระบาดจะถูกค้นพบเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ชั่วโมงที่ผ่านไป รวมทั้งการเร่งผลิตยารักษาที่เริ่มมีความหวังชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ก็มีอีกหลายปรากฏการณ์ โดยเฉพาะการพบผู้ป่วยเพิ่มเติมในประเทศยุโรปและตะวันออกกลาง


หลายคนบอกว่านี่คือการแพร่ระบาดของโรคที่มีผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของพวกเราเลยทีเดียว เริ่มจากประเทศจีนที่มีการระบาดรุนแรงใช้มาตรการปิดเมืองเพื่อยับยั้งและควบคุมโรค แต่เจ้าเชื้อไวรัสจอมซนเที่ยวหลบหลีกไปตามภูมิภาคต่าง ๆ หลายประเทศจึงใช้วิธีการเดียวกันคือปิดเมือง จนถึงเกือบปิดประเทศ จากการที่โลกติดต่อไปมาหาสู่กันอย่างง่ายดาย มีสายการบินรับส่งคนเข้าออกเต็มน่านฟ้า มาวันนี้เงียบเหงา สนามบินเหลือผู้โดยสารเพียงน้อยนิดชนิดว่าโลกทั้งโลกกำลังเข้าสู่โหมดอยู่กับเย้าเฝ้ากับประเทศ บ้านเมืองใครบ้านเมืองเรา ส่งผลกระทบถึงการท่องเที่ยว โรงแรม บริษัทจัดทัวร์ การค้าการขาย ร้านรวงไร้เงาผู้ซื้อ เป็นช่วงวิกฤตของสังคมโลกอย่างแท้จริง หรือว่านี่เป็นสัญญาณบอกโลกว่าก้าวโตเร็วเกินไปแล้ว หยุดพักแล้วปิดเพื่อจะได้มีเวลาคิดใคร่ครวญ มาทบทวนวิถีทางกันใหม่ จากที่เคยติดต่อสื่อสารกันเพื่อการค้าขายเปลี่ยนมาเป็นติดต่อเชื่อมกันเพื่อช่วยเหลือกัน เป็นช่วงเวลาแห่งการเยี่ยวยาชีวิตของมวลมนุษย์ด้วยกัน


ในทุกวิกฤติในทุกเหตุการณ์ย่อมมีบทเรียนบทสอนให้เราเสมอ บ่อยครั้งที่ชีวิตเราพลาดพลั้งไปเราจำต้องหยุด ต้องปิด ลด ละ เลิกบางอย่าง เพื่อล้างจิตชำระใจ เพิ่มความเข้มแข็งให้กับตัวเอง ในวันข้างหน้าเมื่อพร้อมแล้วก็เปิดออกเพื่อถ่ายเทพลัง เพื่อให้ความหวัง จะได้เดินหน้าต่อไป บางทีการปิดก็นำไปสู่การเปิดในครั้งต่อไปเสมอ ใช่หรือไม่ เมื่อเราออกจากบ้านเราเปิดเพื่อปิด และเปิดใหม่เมื่อเรากลับเข้ามา ประตูจึงเป็นทางออกและทางเข้าและเป็นหนทางแห่งการปิดและการเปิดในที่เดียวกัน การปิดเมืองปิดประเทศเพื่อชำระเพื่อจัดการกับโรคระบาดในครั้งนี้ก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยปลอดภัย การเปิดเมืองเปิดประเทศจะเริ่มต้นด้วยความสดใสและรอบคอบมากยิ่งขึ้น ทำให้โลกมีความระมัดระวังในการพัฒนามากยิ่งขึ้น มีการคัดกรองจัดการที่ดียิ่งขึ้นไปอีกและที่สำคัญจะทำให้เรา ๆ ท่าน ๆ หันกลับมามองความสำคัญของการมีชีวิตที่งดงามมากขึ้นกว่าเดิม จะใช้เวลานานแค่ไหนไม่มีใครรู้ ครึ่งปีหรือเป็นปีก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือกันของสังคมโลก
ในด้านส่วนตัวเราก็ต้องรู้จักที่จะปกปิด ใช้หน้ากากอนามัย ปิดปากปิดจมูก ล้างมือ รักษาความสะอาด และหมั่นใส่ใจต่อสุขภาพ ร่างกายที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว จากที่เคยตามใจปากกินนั่นนี่อย่างไม่ระมัดระวัง ปากที่เคยกล่าวร้ายถึงคนอื่น การนินทา จากที่เราเคยใช้ปากทำร้ายคนอื่น จากที่ใช้ปากเพื่อยกย่องตัวเอง วันนี้เราต้องปิดปากลง ทำให้ต้องระมัดระวังในการพูดคุยกับคนอื่น อยู่กับตัวเองมากขึ้น อยู่ในบ้านให้ความสำคัญกับครอบครัวดูแลกันและกันมากขึ้น ไม่ต้องออกไปไขว่คว้าแสวงหาอย่างบ้าคลั่ง จากที่มองเห็นแต่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ต้องกลับมาดูแลสุขภาพร่างกาย เพราะเอาเข้าจริงวันที่เจ็บป่วยต่อให้มีเงินทองกองตรงหน้าเพื่อแลกกับชีวิต ทุกคนก็ปรารถนาอยากจะมีชีวิต และเห็นความสำคัญของชีวิตมากกว่า
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ หน้ากากอนามัย
หันกลับมามองดูชีวิตแห่งความเชื่อของเรากันบ้าง เราก้าวสู่เทศกาลมหาพรตกันอีกปีหนึ่ง เป็นช่วงที่เราปิด ลด ละ เลิกความเป็นตัวเอง เพื่อที่จะเปิด เพื่อที่จะแบ่งปันให้คนอื่นบ้าง ปิดเพื่อเปิด ออกจากตัวเองเพื่อสู่คนอื่น มิใช่ปิดเพื่อตัวเอง มิใช่เป็นการปิดแบบไม่ต้อนรับผู้อื่น หากแต่เป็นการปิดความเห็นแก่ตัว ความอวดดีอวดเก่ง ความสุขส่วนตัว ปิดการหาความสบายฝ่ายกาย เพื่อจะได้มีพื้นที่ทางจิตทางใจให้กับเพื่อนพี่น้องคนรอบข้าง เพื่อจะได้มีเวลาสำรวจตรวจสอบตัวเอง เพื่อจะได้มีห้วงแห่งการไต่ตรองและวิเคราะห์ตัวเอง นำไปสู่การรู้จักวิเคราะห์สังเคราะห์ในทุกเหตุการณ์ของชีวิต ในการติดต่อ ในความสัมพันธ์กับผู้คน เราจะได้เข้าจิตเข้าใจผู้คนมากยิ่งขึ้น จะได้ลดทิฐิ ลดอคติ เพิ่มทัศนคติที่ดีต่อคนรอบข้าง หากเรามีจิตใจที่แข็งแกร่งขึ้นเราก็จะมองโลก มองคนในด้านงดงามมากยิ่งขึ้น อาจจะเห็นคนที่โอ้อวดความเก่งกาจ กลายเป็นรู้สึกสงสารและเห็นใจมากกว่ารู้สึกหงุดหงิดหมั่นไส้ เห็นคนมาแสดงความหยิ่งผยอง สนองความใหญ่โต เราก็ใช้การนิ่ง ความอ่อนโยน เพื่อชโลมให้จิตใจคนเหล่านั้นอ่อนลงบ้าง เราปิดความโกรธ ความโมโห ปิดอคติให้เป็น เพื่อที่เราจะได้เปิดใจของเราและผู้อื่น
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Lent

40 วันไม่ใช่การกักขังตัวเอง แต่เป็นการกักขังและกำจัดตัวตนเพื่อให้สามารถเปิดรับการมีหนทางชีวิตแบบใหม่ที่เป็นชีวิตของการช่วยเหลือ แบ่งปัน ไม่เบียดเบียนกัน สิ่งนี้น่าจะแพร่ขยายออกไป เพื่อช่วยให้ไวรัสร้ายได้ลดหายไปกลายเป็นเชื้อดีแทน ในวันข้างหน้าท้องฟ้าย่อมมีวันสดใสเสมอ ภาวนาให้แก่กันและกัน ภาวนาให้กับโลกที่กำลังเผชิญกับโรคร้าย แล้วเราจะได้สังคมที่เปิดออกต้อนรับวันใหม่วันแห่งสันติสุขไปด้วยกัน นั่นคือปัสกาของปีนี้ ปีที่แสนยากลำบากจริง ๆ 


ไม่มีความคิดเห็น: