วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2554

คนดีของเรา


คนดีของเรา
ในชีวิตเราเคยคาดหวัง เคยไว้ใจ เชื่อใจ ศรัทธา เคยหวังดีอย่างสัตย์จริงไม่มีจริตให้กับคนๆหนึ่งบ้างไหม? และเราเคยคิดว่าเขาคนนั้นเป็นคนแสนดี เป็นคนที่น่านับถือ เป็นคนที่น่ายกย่องเสียนี่กระไร?.... ทุกคนย่อมตอบเหมือนกันว่า มีและอาจจะมากกว่าหนึ่งคนก็ได้ ต่อมาเมื่อคนๆนั้นที่เราคาดหวังทำให้ผิดหวัง ทำให้หมดความไว้วางใจ ไม่อยู่ข้างเรา ชอบโกหกและหลอกลวงเรา (โดยอาจจะมีเหตุผลที่เราไม่รู้และคนๆนั้นมิอาจจะบอกเราได้) เราจะรู้สึกเช่นไร!!!! คำตอบคือ ผิดหวังและโกรธ เกลียด แค้นเคือง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา และถ้าหากว่าเรามีคนที่เรารักมาก นับถือมาก เทิดทูนอย่างสูงส่ง ถูกใส่ความ ถูกนำไปพูดต่อๆกันในด้านไม่ดี แรกๆก็ไม่เชื่อในข้อมูลข่าวสารนั้น แต่เมื่อเรารับรู้บ่อยๆ ถูกป้อนข้อมูลทุกวัน เราจะเอนเอียง เราจะเริ่มมีข้อสงสัยหรือไม่ ซึ่งก็คงขึ้นอยู่กับว่าคนๆนั้นดีจริงหรือเปล่าด้วย และคนดีแบบไหนกันล่ะคือคนดีจริงของเรา...หลายคนคงเริ่มรำคาญแล้ว ถามอะไรกันนักหนา วกไปวนมา
คำถามต่างๆที่ถามมันเกิดขึ้นจากหนังโฆษณาเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับพ่อที่เป็นคนใบ้อยู่กับลูกสาวสองคนพ่อลูก เลี้ยงดูกันมาตั้งแต่เล็กๆ เมื่อลูกสาวโตเป็นวัยรุ่นเริ่มปีกกล้าขาแกร่ง พ่อที่เคยภาคภูมิใจกลายเป็นปมด้อยเป็นจุดด่างให้เพื่อนฝูงล้อเลียน พ่อลูกกลายเป็นคนที่ไม่สามารถสื่อความหมายพูดคุยกันได้(ทั้งๆที่ตลอดเวลาจะสื่อกันด้วยท่าทาง) ลูกสาวจึงไปคบกับหนุ่มคนหนึ่ง และต่อมาก็ถูกหลอก อกหัก จนคิดฆ่าตัวตายในคืนวันเกิด ในขณะนั้นพ่อผู้เป็นใบ้เตรียมของขวัญไว้ให้ลูกสาว พ่อรอแล้วรอเล่าลูกก็ไม่มา ไปพบอีกทีลูกนอนจมกองเลือด พ่อผู้เป็นใบ้จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล ลูกสาวเสียเลือดไปมาก ต้องการเลือดด่วน ผู้เป็นพ่อเข้าไปอธิบายให้หมอฟังด้วยภาษามือ จนหมอเข้าใจว่าเขาต้องการให้เลือดเพื่อช่วยชีวิตลูกสาว เมื่อลูกสาวลืมตาขึ้นมาเห็นคนเป็นพ่อที่เคยเกลียด ที่เคยคิดว่าเป็นผู้ที่ทำให้ชีวิตตกต่ำ ได้เสียสละเลือดช่วยชีวิตตนเอง จึงเอื้อมมือไปจับมือพ่อเพื่อขอโทษ โฆษณาจบด้วยคำพูดที่ลึกซึ้งกินใจว่า อาจจะไม่มีพ่อที่ดีที่สุด แต่มีพ่อที่รักคุณมากที่สุด...
เรื่องนั้นเป็นเรื่องระหว่างพ่อลูก ที่เชื่อมโยงโดยสายเลือด พ่อทุกคนย่อมรักลูกมากที่สุดอยู่แล้ว แต่มองในด้านความสัมพันธ์ของคนทั่วไป ในชีวิตเราย่อมมีคนดีที่ผ่านเข้ามาในชีวิตก็มากมาย แต่น่าเสียดายคนดีๆเหล่านั้นอาจจะผ่านเลยไป โดยที่เรามิได้เก็บเกี่ยวสิ่งดีๆที่เขามอบให้ไว้ในชีวิตเราเลย อาจจะหลงเหลือความดีให้เราระลึกถึง ก็เมื่อวันที่เราไปร่วมในงานศพเขาเพียงเท่านั้น ในยามที่มีลมหายใจเรากลับมองข้ามกันและกัน หรือแม้อาจจะไปตั้งข้อสงสัยว่า เป็นคนดีจริงหรือ หรือไม่ บางครั้งบางคราวเห็นความผิดพลาด ก็เหมารวมว่าไม่ใช่คนดีจริงนี่หว่า.. หรือบางทีสิ่งที่เขาทำดันไม่ถูกจริตถูกใจเรา ก็ว่าไม่เห็นจะดีอย่างที่คิด นั่นเพราะว่าเราแต่ละคนมีมาตรฐาน ยึดมั่นในความคิดจริตติดตัวว่าคนดีต้องเป็นอย่างที่เราคิด มิอาจจะบิดเบี้ยวแม้แต่นิดเดียว เมื่อพิจารณาดูดีๆ แล้วเราหละ ที่เที่ยวตั้งมาตรฐานความดีให้กับผู้อื่น เราเองนะดีแล้วหรือยัง ดีได้ตามมาตรฐาน ตามแนวคิดของเราหรือเปล่า ใช่หรือไม่ การกำหนดขอบเขตให้คนอื่นหน่ะมันง่าย แต่ทีกับตัวเองเรามักละเลยและมีข้ออ้างอยู่เสมอ 
ใช่หรือไม่ บางคนเป็นคนดีจริงๆ เป็นคนเสียสละให้กับทุกคน ก็ยังมิวายต้องมีผู้คนจับผิด ตินิด ตอดหน่อย เพื่อหวังทำลายความดี จนบางครั้งเราก็นั่งงงๆว่า แล้วทำกันไปเพื่ออะไร เช่น ในโลกไซเบอร์วันนี้ที่มีคนรุ่นใหม่ๆเข้าไปโจมตี พ่อหลวง อย่างหยาบคาย และใช้วิธีการที่ฉลาดแต่ใจโฉดหลอกคนให้เข้าไปดูไปติเพื่อเพิ่มยอดจำนวน ให้กลายเป็นที่นิยม เพื่อใช้สถิติตัวเลขไปลบล้างความดีที่พระองค์ท่านทรงกระทำต่อประชาชนคนไทยมาอย่างเหน็ดเหนื่อยและยาวนาน สุดช้ำใจเมื่อมีคนไทยจำนวนไม่น้อยถูกปลูกฝังด้วยชุดข้อมูลเพียงด้านเดียว แล้วก็หลงเชื่อ ความดีมากมีถูกกลบลบหายไปด้วยเรื่องจินตนาการที่ไร้สาระ แล้วคนดีที่ต้องการเป็นอย่างไร มีพ่อคนไหนล่ะที่ไม่รักลูกๆของตัวเอง... 
ในเมื่อเราบอกว่าโลกนี้หาคนดียาก...แต่เรากลับไม่รู้จักรักษาคนดีเอาไว้ ใยยังลอบยังชอบทำร้ายทำลายคนดีๆให้ม้วยมลายหายกันไป และแน่นอนความอดทนของคนดีมักจะได้รับการยอมรับในที่สุด แม้จะต้องทุกข์ระทมข่มขื่น การที่ทำดีแล้วถูกต่อว่า ถูกต่อขาน มันเป็นเรื่องน่าเศร้าของมนุษยโลกเลยก็ว่าได้ แต่คนดีถ้าเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำว่าดีย่อมไม่วอกแวก ยังมั่นคงเสมอ ความดีย่อมแสดงออกด้วยความรักที่ยอมให้วิพากษ์วิจารณ์ ยอมให้ผู้อื่นสนุกปาก เพราะการเป็นคนดีไม่จำเป็นต้องเป็นคนดีที่สุดของทุกคน เพียงแต่มีหัวใจเปี่ยมพร้อมที่จะรักทุกคนต่างหาก นั่นแหละคือคนดี
มองในด้านหนึ่งกระบวนการที่เราต่างตั้งมาตรฐานไว้ สำหรับกรองคนดีในชีวิตของเรา ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้อื่นระมัดระวังตัวมากขึ้น ไม่ใส่คราบคนดีไปหลอกลวงคนอื่น เพราะยุคสมัยเรานี้ต้องยอมรับเลยว่า เราอยู่ร่วมกันยากขึ้น เพราะการตรวจสอบมีวิธีมากและง่ายขึ้น ทำให้ความไว้วางใจต่อกันน้อยลง จริงใจต่อกันน้อยลง ในชีวิตจริงเรามักมีประสบการณ์ที่ถูกคนดีจอมปลอม หลอกให้หลงหลอกให้เชื่อ หลอกให้นับถือ ค่ามาตรฐานของเรามันเลยกลายเป็นดาบสองคม คมหนึ่งอาจจะเชือดคนที่หากินและสวมใส่ความดีมาฉวยประโยชน์จากเราได้ แต่อีกคมหนึ่งบางทีกลับไปเชือดเชือนผิดที่ผิดคนทำเอาคนดีๆต้องทรมานไปก็มาก คนดีจึงหนีหลบหายไปอยู่เงียบในซอกหลืบเร้นกายในมุมเล็กๆของสังคม ฉะนั้นแล้วคนดีไม่ได้มีง่ายๆ ไม่ได้เป็นง่ายๆ ใช่หรือไม่ เราไม่อาจเป็นคนดีที่สุดได้ แต่เราสามารถเป็นคนรักคนอื่นอย่างที่สุดได้ อย่างหลังนี้แหละที่เรามักหลงลืมกันไป....ก็เลยทำให้คนดีของเราหายไปทีละคนสองคน ...คนดีของเราอยู่ไหนหนอ....
http://astore.amazon.com/konkhangwat04-20

ไม่มีความคิดเห็น: