วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554

หรือทิ้งไว้เพียงแค่ขยะ


หรือทิ้งไว้เพียงแค่ขยะ
น้ำลดตอผุด สำนวนไทยที่ได้ยินมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ แต่ในยุคสมัยของเรา ตอไม้นั้นหายากยิ่ง เพราะถูกตัดถูกโค่นจนกลายเป็นต้นตอหนึ่งของสาเหตุน้ำท่วมเมือง วันนี้พอน้ำลด น้ำแห้งเรากลับเห็นขยะผุดเต็มบ้านเต็มเมืองแทนตอไม้ ภาพกองขยะริมสองข้างทางระหว่างไปเยี่ยมบ้านพี่สาวหลังน้ำลดไปหมาดๆในย่านดอนเมือง ถนนสรงประภาที่เคยกว้างขวางบัดนี้ยังไม่พอสำหรับขยะที่ล้นเหลือ กองเป็นภูเขาเลากา กองยาวเหยียดจวบจนถึงทางเข้าหน้าหมู่บ้าน ทางกรุงเทพฯประกาศว่าจะจัดการขยะให้เสร็จภายใน 24 ชั่วโมง แต่พอเอาเข้าจริงก็เก็บได้ไม่ถึงครึ่ง เพราะตามหมู่บ้านที่รถขยะเข้าไม่ได้ ชาวบ้านก็ขนมากองๆไว้ที่ถนนสรงประภาเพื่อให้ กทม.เก็บไปอีกที (ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว)

ขยะนั้นมีมากมายจริงๆตั้งแต่ถุงพลาสติกเล็กๆ กระดาษ ที่นอนเก่าๆ ตู้ เตียงและเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ต่างๆมากมาย โอ้... เรามีของที่พร้อมจะกลายเป็นขยะมากขนาดนี้เลยหรือ คิดถึงบ้านที่อาศัยของตัวเองที่รอดพ้นจากภาวะน้ำท่วม ของที่วางไว้เฉยๆก็มากมี ของเก่าเก็บก็มากหลาย ของที่พร้อมจะถูกทำลายแต่เจ้าของยังไม่พร้อมจะสูญเสียก็ใช่น้อย สิ่งเหล่านี้มันคือวัตถุภายนอกที่เราต่างสะสมไว้นานปีดีดัก จนบางชิ้นบางสิ่งหลงลืมไปแล้วว่าเคยมีอยู่มีใช้ น้ำมาพาให้เราพบของบางสิ่งที่เหลือใช้ หรือที่จัดหามาแล้วไม่ได้ใช้ กลายเป็นวัตถุเสื่อมค่า นอนนิ่งๆวางไว้ให้เปลืองพื้นที่โลกใบนี้...
น้ำท่วมครั้งนี้อาจจะทำให้หลายคนสูญเสียสิ่งที่สะสมไว้ บางสิ่งอาจจะเสียหาย แต่มองโลกในเชิงปลอบประโลม เหตุการณ์ครั้งนี้ก็อาจจะเป็นการปรับสมดุลในการดำรงชีวิตของผู้คนผู้หลงไปกับวัตถุ ปรับสมดุลในการใช้สิ่งของที่อาจจะมากเกินตัวตามยุคสมัยบริโภคนิยม อาจจะปรับสมดุลทางจิตใจของหลายคนให้คำนึงถึงความไม่เที่ยงแท้ของสรรพสิ่ง และทำให้เข้าใจสรรพสิ่งสร้างที่พระเจ้าทรงมอบให้โลก หาได้มอบให้กับใครคนหนึ่งคนใดเก็บไว้ใช้เพียงลำพัง มองในมุมแห่งความเชื่อแล้ว ใช่หรือไม่ พระเจ้ามิทรงทอดทิ้งเรา พระองค์กำลังสอนเรา และทรงพระเมตตาผ่านทางมนุษย์ด้วยกัน จากที่เคยสุขกับการเก็บสะสมเงินทองก็มารับรู้ถึงการที่มิอาจจะใช้เงินซื้อสิ่งของได้ มิอาจจะใช้เงินเป็นสินบนกับน้ำมิให้ท่วมถึงบ้านช่องของตัวเองได้ สำหรับผู้ทุกข์ยากลำบากอยู่แล้ว ยิ่งดูเหมือนถูกซ้ำเติม แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ นี่ก็เป็นการพิสูจน์ความเข้มแข็งและความมั่นคงของจิตใจ สอนให้เราเป็นผู้ดูแลผู้อื่น แม้ว่ายากไร้แต่หาได้ไร้ค่าเสมอไปไม่ เรามีภูมิที่ต้านแรงเสียดทุกข์ได้อย่างสบาย...
หลังน้ำลดผู้คนเริ่มกลับเข้าสู่บ้านเก่า ได้เห็นสภาพบ้านแบบใหม่ๆในพื้นที่เดิมๆ แผนการปรับปรุง ฟื้นฟู ซ่อมแซม เริ่มก่อเกิด ซึ่งแน่นอนอาจจะคิดเลยไปถึงการป้องกันสำหรับปีต่อๆไปไว้ด้วย อย่างน้อยบทเรียนการรับมือกับน้ำก็มีมากขึ้น การเก็บกวาดขยะคือสิ่งแรกที่ต้องทำ ฉะนั้นแล้วจึงไม่แปลกอะไรที่ขยะในแต่ละชุมชนจึงมีมากเหลือเกิน บ้านแต่ละหลังขยะมีมิใช่น้อย กว่าจะปรับสภาพบ้านใหม่ก็ต้องใช้เวลา มันก็เหมือนกับการจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นก็ต้องใช้เวลา แต่สิ่งแรกที่ต้องทำคือจัดการกับสิ่งเน่าเสีย  ขยะ ในชีวิตก่อน...
เมื่อเห็นกองขยะกองแล้วกองเล่าไหลผ่านเข้ามาในโสตประสาทขณะขับรถ มีหลายสิ่งที่ไหลเข้าพร้อมๆกัน มีคำถามคำถามหนึ่งดังก้องขึ้นในใจว่า แล้วหลังจากชีวิตของเราในโลกนี้ดับสูญไปแล้ว อะไรที่ผุดขึ้นมา ใช่ขยะที่สะสมหมักหมมมานานหรือเปล่า ความไม่ดีในชีวิตที่โถมทับไว้หลายสิบปีหรือไม่ หรือว่า...เป็นสิ่งที่งดงามสดใส ทิ้งไว้ซึ่งคุณงามความดีให้ผู้คนกล่าวถึง นึกแล้วก็เสียวสันหลังว่า เราจะมีสิ่งใดให้คนกล่าวถึง หรือมีสิ่งใดมอบไว้เป็นที่จารึกให้กับผู้เป็นผู้อยู่ภายหลังเราบ้าง
แล้วตอนมีชีวิตล่ะ มิตรภาพที่หล่นหาย เพื่อนพี่น้องมากมีที่จากลากัน เพราะความขัดแย้ง เพราะรอยบาดหมางที่ยากจะประสาน เพราะความเห็นที่แตกต่าง หรือเพราะการถูกทรยศหักหลังโดยไม่ทราบสาเหตุ เราต่างก็ทิ้งขยะแห่งความโกรธเคือง ขัดข้องหมองใจต่อกัน มีคนเคยกล่าวไว้มาก โลกนี้กว้างใหญ่ แต่มิตรภาพนั้นมโหราฬ แต่ว่าขณะนี้ เหลียวไปทางใด เพื่อนแท้สักคนช่างหาได้ยากยิ่ง โลกวันนี้ดูจะแคบลง มิตรภาพหลงหาย หดตัวเหลือน้อย เป็นเพราะเราต่างคนต่างก็คิดว่าเป็นผู้ฉลาดล้ำเหลือ เก่งกาจ ครอบโลกครอบครองชีวิตตัวเองและผู้อื่นได้  เมื่อทุกคนถือครองคติเดียวกัน สังคมเราจึงเต็มไปด้วยการไม่ยอมกัน ไม่มีรักและไร้แล้งการให้อภัย ใช่หรือ... ที่เราไม่จำเป็นต้องพึ่งพากัน ไม่ต้องอาศัยกันและกัน วันนี้ผู้คนมีจำนวนไม่น้อยต่างดูถูกดูแคลนน้ำใจผู้อื่นโดยใช้มาตรฐานส่วนตัวว่า ทุกคนทำอะไรโดยหวังสิ่งตอบแทนกันทั้งนั้น แต่เราก็ลืมนึกไปว่า เมื่อเราได้รับก็ต้องให้กลับผู้อื่นบ้าง สิ่งตอบแทน คือ ความหวังดี คือความสุขที่ได้มอบให้  โลกใบนี้จึงจะกว้าง มิตรภาพจึงมากมาย หรือว่าเราจะปล่อยให้โลกนี้มีแต่ขยะแห่งความเกลียดชังและแค้นเคือง
พระเยซูเจ้าผู้ทรงบังเกิดมานั้นก็เพื่อมอบความรักและการอภัย แล้วเราที่เกิดมามีชีวิตอยู่ ผ่านไปปีแล้วปีเล่า เก่าไปใหม่กำลังจะมา เราสะสมอะไรไว้ในชีวิต กองขยะเน่าเหม็นหรือคุณงามความดีที่มอบให้กัน เพื่อส่งให้เกิดดอกผลไปจนรุ่นลูกรุ่นหลาน ชีวิตนี้หรือเพียงแค่กองขยะเน่าๆ คงไม่ใช่แน่ๆ ฉะนั้น อย่าทำให้ชีวิตเป็นขยะ แต่จงทำให้ชีวิตมีความดีเกิดขึ้นทุกขณะจะดีกว่า....

ไม่มีความคิดเห็น: