วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2567

อยู่กับจุดที่เรายืน

 

อยู่กับจุดที่เรายืน

>>> จุดที่เรายืนอยู่อาจจะไม่เห็นอีกด้านหนึ่ง เผื่อใจในมุมมองอื่นไว้บ้าง <<<

บ้างก็ว่าเพราะความคิดเห็นไม่ตรงกันจึงเป็นที่มาของความขัดแย้ง แต่อีกมุมหนึ่งมันนำมาซึ่งการพัฒนา บ้างก็ว่าหากทุกคนคิดเห็นเหมือนกันหมด โลกนี้คงเต็มไปด้วนสันติสุข อีกด้านก็มองว่าโลกคงไร้สีสัน โลกนี้เต็มไปด้วย “คน” ที่ปะปนกัน คละเคล้ากันไปมา ตีกันบ้าง ดีกันบ้าง สร้างสรรค์จรรโลงโลกให้งดงาม ความแตกต่างบางทีก็แค่เรายืนกันคนละที่ มองกันคนละมุม มีฐานะคนละแบบ พอดีไปพบภาพ ๆ หนึ่ง เห็นแล้วต้องหยุดคิดพิจารณา ความเป็น “คน” ของเรา ที่เคยยึดติดกับความคิดตัวเอง ที่เคยไม่ยอมใคร เพราะคิดว่าเราถูก เราเก่ง เราเจ๋ง สุดท้ายก็เจ้ง ความคิดพลันสลาย ยิ่งเมื่ออ่านข้อความประกอบภาพนี้ยิ่งตระหนักถึงความแตกต่างและมุมมองที่เราควรจะมีต่อทุกสรรพสิ่งให้มากขึ้น หาใช่ในมุมมองของเราหรือมองในจุดที่เรายืนอยู่เท่านั้น

หนูขโมยข้าวของคน คนว่ามันเจ้าเล่ห์!! มนุษย์ขโมยน้ำผึ้งของผึ้ง กลับบอกว่ามนุษย์ขยัน !! งูไม่รู้ว่าตนมีพิษร้าย...คนก็ไม่รู้ว่าตนมีความผิด...

สิ่งใดมีประโยชน์ต่อเรา ล้วนเรียกว่าดี..สิ่งใดไม่มีประโยชน์ต่อเรา ล้วนเรียกว่าเลว..เมื่อคุณเดินถนน รังเกียจรถ...เมื่อคุณขับรถ รังเกียจคนเดินถนน

เมื่อคุณทำงาน...รู้สึกว่าเจ้านายใช้อำนาจ งกเกิน เมื่อคุณเป็นเจ้านาย...รู้สึกว่าคนงานไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีประสิทธิภาพ

เมื่อคุณเป็นลูกค้า ก็ว่าพ่อค้ารุนแรง เมื่อคุณเป็นพ่อค้า ก็รู้สึกว่าลูกค้าจู้จี้เกิน ที่จริงแล้ว เราล้วนไม่ผิด

ที่ผิด คือ ที่ยืนเราต่างกัน  ดังนั้นแล้ว ถูกกับผิดก็เป็นเพียงหัวข้อไม่จริงแท้ จุดยืนต่าง มุมมองปัญหาย่อมต่าง ย่อมมีข้อสรุปแตกต่างกันไป ตามพื้นฐานและสภาพแวดล้อมของแต่ละทุกสรรพสิ่งทุกสรรพเรื่องราวในโลกไม่มีความสมบูรณ์ เป็นเพียงยืนคนละจุด ลองสละตัวตน ความเห็นของเราเข้าร่วมในความรู้สึกคนอื่น ใจเขาใจเราดูบ้าง ก็จะทำให้การดำเนินชีวิตของเรามีความสุขมากยิ่ง


ในยุคสมัยใหม่ในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูล เราสามารถที่จะรับรู้ได้ง่าย และแน่นอนข้อมูลที่เรารับรู้ เราเห็น เราอ่าน เราได้สัมผัสแรกสุด เราก็มักจะยึดสิ่งนั้นว่าเป็นสิ่งที่เชื่อถือ ตัวอย่างง่าย ๆ ในเรื่องสุขภาพ  ต้องทานนั่นทานนี่จะทำให้เราแข็งแรงสมบูรณ์ เราก็ปฏิบัติติตาม มาวันหนึ่งก็พบเจอข้อมูลอีกด้านหนึ่งซึ่งดูจะขัดแย้งกัน เราก็มักมีคำถามในใจว่า อันนี้มั่วหรือเปล่า ไปพบคุณหมอ ก็บอกอีกแบบหนึ่ง ตกลงจะต้องทำตัวอย่างไรดี
? ถ้าเรายึดข้อมูลใดข้อมูลหนึ่ง เราก็จะไม่มั่นใจในการที่จะรับประทาน ที่สุดบทสรุปก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเรานั่นเองที่จะรับรู้ว่า อันไหนถึงจะเหมาะสมกับเราที่สุด ข้อมูลที่ต่างกันอาจจะทำให้เรามีมุมมองที่กว้างขึ้นได้

วันนี้เราสมโภชนักบุญเปโตรและเปาโล ทั้งสองท่านนักบุญล้วนมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัที่เป้าหมาย คือ การทำให้คำสอนของพระเยซูเจ้าเข้าไปในชีวิตของคริสตชนอย่างสมบูรณ์ นักบุญเปโตรวางรากฐานพระศาสนจักรให้แข็งแรงที่กรุงโรม เป็นศูนย์กลางมาจนถึงปัจจุบัน ท่านนักบุญเปาโลออกไปทุกที่ที่ห่างไกล และตั้งกลุ่มคริสตชนที่นั่นที่นี่ หากจะเปรียบพระศาสนจักรเป็นต้นไม้ใหญ่ นักบุญเปโตรทำให้รากแก้วแข็งแรง เพื่อให้ลำต้นเจริญเติบโตมั่นคง ท่านนักบุญเปาโลดูแลกิ่งก้านสาขา เพื่อให้ต้นไม้ใหญ่นี้เป็นร่มเงาให้คนได้มาพักพิง ทั้งสองท่านมีจุดยืนที่แตกต่างกันที่มิเคยแตกแยกจากองค์พระคริสตเจ้าเลย แน่นอนเราจำเป็นต้องมีจุดยืนในความเชื่อของเรา แต่เราก็ต้องไปยืนในจุดของคนอื่นด้วย เพื่อทำให้ความเชื่อของเราเจริญเติบโตขึ้น  โดยมิต้องไปขัดแย้งกับผู้อื่น เพราะนั่นมันไม่ใช่หนทางสร้างสันติในชีวิตเรา.....

ไม่มีความคิดเห็น: