วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2565

เก้าอี้ตัวนี้

 

เก้าอี้ตัวนี้

>>> บางทีเมื่อเวลาหนึ่งมาถึง ทุกสิ่งก็ไม่มีค่าพอ ถ้าวันนั้นไม่มีใครเคียงข้าง <<<

บนเก้าอี้รถเข็นที่ว่างเปล่าตั้งอยู่หน้าบ้าน ไม่มีคนนั่ง มันเป็นเก้าอี้สำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ซึ่งใคร ๆ  ก็ไม่ปรารถนาจะใช้นั่ง ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า วิถีชีวิตของผู้คนหลากหลายบนโลกใบนี้ ที่มักมีความหวัง ที่มักจะช่วงชิงกันเพื่อเก้าอี้ อันแสดงถึงตำแหน่งแห่งหน ถึงบารมีคน ต่างก็หวังว่าวันหนึ่งเก้าอี้ตัวนั้น ในตำแหน่งแบบนี้ต้องเป็นของข้าฯ หัวใจมันพร่ำเพรียกเรียกหา ไขว่คว้า ก่อให้เกิดความโลภ ความทนงก็เข้าครอบงำ นำไปซึ่งการแข่งขัน นำไปซึ่งทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา เราต่างก็เหมือนเด็ก ๆ ที่กำลังแย่งชิงในเกมส์เก้าอี้ดนตรี กระแทก เบียด บัง ยัน ถีบ ใส่กำลังกันเต็มเหนี่ยว ไม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์อันใด เพื่อเข้าเป็นผู้ครบครอง เพื่อได้ชัยชนะ ความสำเร็จ และถ้าวันหนึ่ง เปลี่ยนเป็นเก้าอี้รถเข็นแบบนี้จะมีใครมารุมแย่งกันหรือเปล่า ???


สักวันหนึ่ง...ใครจะไปรู้ว่า เก้าอี้รถเข็นแบบนี้ คือ ตำแหน่งประจำของเราเมื่อวันเวลานั้นมาถึง ใช่หรือไม่ วันนี้เราอาจจะดิ้นรนเพื่อเก้าอี้สูงส่ง เพื่อให้ดูสูงสง่า เพื่อให้คนนับหน้าถือตา แต่ไร้ซึ่งความดีงาม ชีวิตก็ไร้ค่า ไร้ความหมาย บางทีการได้รับคำสรรเสริญ ความชื่นชมยินดีของผู้คนรอบข้างอย่างจริงใจ ย่อมมาจากความดีงามที่เรากระทำ เป็นความเมตตาที่เราเผื่อแผ่ออกไป บางครั้งเก้าอี้ที่นั่งในใจผู้คนดูจะมั่นคงสง่างามกว่าที่นั่งบัลลังก์กลางฝูงชนที่สาปส่งเป็นไหน ๆ แล้วเราจะเลือกนั่งแบบไหนกัน ถึงแม้กระแสสังคมมักจะสอนสั่ง ปลูกฝังให้เราต้องเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ เพื่อมีตัวตน ต้องเป็นที่รู้จัก ต้องไม่ตกกระแส ดูดีเด่นดังบนเก้าอี้จอมปลอม หากวันหนึ่งเราต้องนั่งบนเก้าอี้รถเข็นตัวนั้น จะเหลือใครช่วยเข็น ช่วยประคอง ช่วยดูแลบ้างหรือเปล่า!!! อย่ากลายเป็นคนเดียวดายภายใต้ชื่อเสียงที่มีวันสูญหายไปตามกาลเวลาเลย

เก้าอี้ตัวนี้แม้ไม่มีใครต้องการ แต่มันจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นในวันที่สังขารไม่พร้อม แต่หากหัวใจพร้อม และไว้ใจในพระเจ้า ก็ไม่มีสิ่งใดที่จะน่ากลัว… เชื่อเถอะ

ไม่มีความคิดเห็น: