เมื่อว่างจึงกว้าง
>>>
อย่าคิดว่าตัวเองดี จนไม่มีที่ว่างให้สำนึก <<<
มีเวลากลับมาเยี่ยมบ้านริมน้ำ เมื่อเดือนที่แล้วน้ำเต็มล้นจนลุ้นกันทุกนาทีว่าจะท่วมบ้านหรือไม่
มาวันนี้มวลน้ำก้อนใหญ่นั้นหายไป กลับมองเห็นความกว้างของท้องน้ำ
เห็นคนหาปลามีช่วงเวลาหากิน ความเกื้อกูลกันระหว่างคนกับธรรมชาติกลับคืนมา
มิได้ขัดแย้งรุนแรงเหมือนเดือนที่ผ่านมาในฤดูน้ำหลาก
ความขัดแย้งของผู้คนวันนี้ก็น่าจะมีเวลาที่กลับมาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสันติบ้าง
หากเราต่างมีที่ว่างในใจเพียงพอ
ความขัดแย้งในกลุ่มชนของผู้คนวันนี้ ต่างก็มาจากไม่ได้รับผลประโยชน์
หรือ สูญเสียผลประโยชน์ของตน จึงเรียกร้องทุรนทุรายหมายจะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
เราต่างไม่มีที่ว่างมากพอเพื่อจะทำเพื่อผู้อื่น เพราะเรายึดโยงพื้นที่ของตัวเองไว้อย่างเหนียวแน่น
ใครจะมากระทบกระทั่งเป็นอันต้องกระเทือน เอาเป็นเอาตายกันไปข้าง สังคมที่เต็มไปด้วยคนแบบนี้จะเกิดสันติได้เช่นไร
เราต่างไม่มีที่ว่างให้แก่กัน เพราะเราต่างจับจ้องจองเวรจองกรรมกันมากเกินไป
ไม่ปล่อยผ่านไม่มองข้าม ไม่เห็นพระเจ้าในตัวผู้อื่น มั่วแต่คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าเสียเอง
ความวังเวงในหัวใจจึงเกิดขึ้น เอาความแค้นเคือง เป็นเรื่องนำพาชีวิต
หมายมั่นแก้แค้นในวันที่มีอำนาจ จะเอาคืนให้สาสม จมอยู่ในความอาฆาตมาดร้าย
ไม่มีพื้นว่างให้ความดีงอกงาม ไม่มีที่ทางให้ความเมตตาเบ่งบาน
ไม่ให้เวลากับการอภัยได้ผลิดอกออกรวง ชีวิตเรามุ่งอยู่ที่คนมากกว่าอยู่ที่พระ
จึงไร้ที่ว่าง
ชายคนหนึ่งลากจูงเรือสองลำเพื่อข้ามแม่น้ำ ปรากฏว่ามีเรือว่างเปล่าลำหนึ่งลอยมาปะทะชนกับเรือของเขา แม้ชายผู้นั้นจ
ะมีอารมณ์ร้อนเพียงใด เขาย่อมไม่โกรธ แต่หากมีคนนั่งอยู่ในเรือที่แล่นมาชน เขาก็ตะโกนให้เบี่ยงหลบ หากอีกฝ่ายไม่สนใจไยดี เขาก็ร้องตะโกนอีกครั้ง และหากอีกฝ่ายยังนิ่งเฉย เขาก็ลุกขึ้นร้องด่าผรุสวาท ในกรณีแรก เขาไม่มีความโกรธแต่อย่างใด แต่ในกรณีหลังกลับมีความโกรธ เนื่องจากในกรณีแรกนั้นเขาพบกับความว่างเปล่า ทว่าในกรณีหลังเขาพบคนอยู่ในเรือ หากคนบรรลุถึงความว่างเปล่า และท่องไปในโลกกว้าง ผู้ใดจะสามารถทำร้ายเขาได้? (แปลเรียบเรียงตัดตอนจากหนังสือจวงจื่อ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น