เปิดวิหารในตัวตน
>>>
บทหนึ่งซึ่งจริงเสมอคือคนที่ชอบโอ้อวด
เมื่อถึงเวลาต้องลงมือทำมักทำไม่ได้ดังคุยไว้
เป็นธรรมดาของโลกใบนี้ที่จะมีผู้วิจารณ์
ใส่ความเห็น ชอบติ
โดยที่ไม่เห็นใจคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างสุดความสามารถ
และเป็นสัจจธรรมที่คนอวดฉลาดเกินใคร
มักจะกลายเป็นตัวตลกในสายตาของผู้คน <<<
โลกนี้บางทีก็มีอะไรที่ย้อนแย้งกันเสมอ
ในวันที่เราไม่สามารถมาเข้าร่วมพิธีมิสซาที่วัด ต้องร่วมแบบออนไลน์ที่บ้าน
จนบางคนเสพติดก็ร่วมมิสซาออนไลน์ชนิดที่ต้องวนดูที่นั่นที่นี่ทั้งวัน
และก็นำมาเปรียบเทียบว่าวัดนั้นวัดนี้ถ่ายทอดดีกว่า
หรือหนักหน่อยก็วิจารณ์ว่าทำไมไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมนักขับร้องไม่ใช้เพลงนั้นเพลงนี้
ทำไมคุณพ่อเทศน์เหมือนไม่ได้เตรียม ทำไม ทำไม เยอะแยะไปหมด แท้จริงเราเข้าร่วมมิสซาออนไลน์เพื่ออะไร? เพื่อความบันเทิงหรือ!! เพื่อลดความว่างหรือ!! มองในอีกด้านหนึ่ง นี่เป็นทางเลือกที่ดีทีเดียวในโลกยุคสื่อครองเมือง เพื่อเพิ่มพูนความเชื่อความศรัทธา
โดยไม่จำเป็นต้องไปอวดฉลาด วิจารณ์ นินทากันลับหลัง
แต่เมื่อวัดเปิดแล้ว ก็อย่างลืมเปิดใจ เปิดวิหารในตัวเรามาหาพระที่วัด ปล่อยวางอคติ ปล่อยวางความอวดเก่ง ลดละเลิกความอวดรู้ลง เข้ามาอ่อนน้อมกับพระเจ้าด้วยห้วใจอันอ่อนโยน และมองดูการจัดการของแต่ละวัดด้วยความเห็นใจ เข้าใจกัน ในยามที่เราต้องเผชิญหน้ากับสภาพของวิถีใหม่ไปด้วยกัน เพราะแท้จริงแล้ว พระเจ้าไม่ปรารถนาสิ่งใดจากเราเลย อย่าหลงใหลความฉลาด อย่างหลงไปในกระแสแห่งการสะสมทรัพย์สินเงินทอง เปิดวิหารในตัวเราออกให้กว้างขึ้น สำคัญกว่าการเปิดวัด
หนุ่มนายหนึ่งขึ้นสวรรค์เข้าเฝ้าพระเจ้า เขารู้สึกน้อยใจ จึงตัดพ้อว่า “ไม่เห็นบอกกล่าวล่วงหน้า
ก็เรียกมาขึ้นสวรรค์ ไม่ได้เตรียมการอะไรเลย หลายเรื่องยังไม่ได้สะสาง” พระเจ้าตอบว่า
“เราบอกล่วงหน้าแล้วนะ ส่งอีเมล์ไป 3 ฉบับ
เธอไม่ได้รับหรือ?” หนุ่ม “เปล่าครับ
ผมไม่ได้รับ” พระเจ้า
“เธอรู้สึกเหนื่อย เครียด
ไม่มีชีวิตชีวาบ้างหรือเปล่า?” หนุ่ม “อ้อ
นี่ก็คืออีเมล์จากพระองค์เหรอครับ ผมได้รับครับ” พระเจ้า “เธอรู้สึกเหงา เศร้า
ยามอยู่คนเดียวบ้างมั๊ย ?” หนุ่ม “ครับ
ผมได้รับครับ” พระเจ้า
“เธอรู้สึกว่าฉลาดเกินใคร ๆ
บ้างจนหลงในความเก่งของตัวเองบ้างหรือเปล่า จนพูดคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง?” หนุ่ม “ใช่ครับ
นี่ก็เป็นอีเมล์ 3 ฉบับของท่าน” พระเจ้า
“ถูกต้องแล้ว เราก็บอกเธอล่วงหน้า แต่เธอไม่สนใจอ่านเอง”
หนุ่มจนแต้ม ก็เลยขอร้องพระเจ้าว่า “ขอเวลาผมสักหน่อย ให้ผมกลับไปสะสางเรื่องต่าง ๆ ท่านจะเอาเท่าไหร่ก็ได้” พระเจ้าชู 1 นิ้ว คนหนุ่ม “ 1หมื่น ? 1แสน หรือ 1ล้าน ? ผมสามารถหาให้ท่านได้ด้วยสมองอันฉลาดของผม” พระเจ้าสั่นหัว ตอบว่า “1 บาท” หนุ่มได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจมาก “1 บาท ง่ายมาก ผมจะถวายให้เดี๋ยวนี้เลยครับ”
แต่เขาค้นหากระเป๋ากางเกง
กระเป๋าเสื้อ คิดหาวิธีให้ได้เงิน 1 บาทนั้นมา
ก็หาไม่ได้สักบาท พระเจ้า “นี่แหละคือชีวิต เงินทอง
เกิดมาไม่สามารถเอามาได้ ความฉลาดของเธอก็เช่นกัน
ตายแล้วไม่สามารถเอาไปได้ ตอนมีชีวิตอยู่ มัวหาแต่เงินไม่สนใจใจคนรอบข้าง
ถึงจะเห็นอีเมล์ 3 ฉบับของพระเจ้า ก็สายเกินไปแล้ว”
พระเจ้าเตือนเราเสมอ
แต่เราไม่สนใจ เพราะใจเราสาละวนกับการกอบโกย การอวดรู้ อวดฉลาด บางทีเราฉลาดที่จะโต้ตอบกับพระเจ้า
มีข้ออ้างสารพัดสารพัน คิดว่าสวรรค์อยู้แค่เอื้อม คิดว่ารู้วิธีที่จะไปสวรรค์
เพราะฉลาดพอ แต่บางครั้งเวลาของพระเจ้า
การเตือนของพระเจ้าก็มาแบบที่เราไม่ทันตั้งตัว เพราะในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นของเรา
แม้แต่เวลา…
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น