วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2564

เปิดวิหารในตัวตน

 

เปิดวิหารในตัวตน

>>> บทหนึ่งซึ่งจริงเสมอคือคนที่ชอบโอ้อวด เมื่อถึงเวลาต้องลงมือทำมักทำไม่ได้ดังคุยไว้

เป็นธรรมดาของโลกใบนี้ที่จะมีผู้วิจารณ์ ใส่ความเห็น ชอบติ

โดยที่ไม่เห็นใจคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างสุดความสามารถ

และเป็นสัจจธรรมที่คนอวดฉลาดเกินใคร มักจะกลายเป็นตัวตลกในสายตาของผู้คน <<<

โลกนี้บางทีก็มีอะไรที่ย้อนแย้งกันเสมอ ในวันที่เราไม่สามารถมาเข้าร่วมพิธีมิสซาที่วัด ต้องร่วมแบบออนไลน์ที่บ้าน จนบางคนเสพติดก็ร่วมมิสซาออนไลน์ชนิดที่ต้องวนดูที่นั่นที่นี่ทั้งวัน และก็นำมาเปรียบเทียบว่าวัดนั้นวัดนี้ถ่ายทอดดีกว่า หรือหนักหน่อยก็วิจารณ์ว่าทำไมไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมนักขับร้องไม่ใช้เพลงนั้นเพลงนี้ ทำไมคุณพ่อเทศน์เหมือนไม่ได้เตรียม ทำไม ทำไม เยอะแยะไปหมด แท้จริงเราเข้าร่วมมิสซาออนไลน์เพื่ออะไร? เพื่อความบันเทิงหรือ!! เพื่อลดความว่างหรือ!! มองในอีกด้านหนึ่ง นี่เป็นทางเลือกที่ดีทีเดียวในโลกยุคสื่อครองเมือง เพื่อเพิ่มพูนความเชื่อความศรัทธา โดยไม่จำเป็นต้องไปอวดฉลาด วิจารณ์ นินทากันลับหลัง


แต่เมื่อวัดเปิดแล้ว ก็อย่างลืมเปิดใจ เปิดวิหารในตัวเรามาหาพระที่วัด
ปล่อยวางอคติ ปล่อยวางความอวดเก่ง ลดละเลิกความอวดรู้ลง  เข้ามาอ่อนน้อมกับพระเจ้าด้วยห้วใจอันอ่อนโยน และมองดูการจัดการของแต่ละวัดด้วยความเห็นใจ เข้าใจกัน ในยามที่เราต้องเผชิญหน้ากับสภาพของวิถีใหม่ไปด้วยกัน เพราะแท้จริงแล้ว พระเจ้าไม่ปรารถนาสิ่งใดจากเราเลย อย่าหลงใหลความฉลาด อย่างหลงไปในกระแสแห่งการสะสมทรัพย์สินเงินทอง เปิดวิหารในตัวเราออกให้กว้างขึ้น สำคัญกว่าการเปิดวัด

หนุ่มนายหนึ่งขึ้นสวรรค์เข้าเฝ้าพระเจ้า เขารู้สึกน้อยใจ จึงตัดพ้อว่า ไม่เห็นบอกกล่าวล่วงหน้า ก็เรียกมาขึ้นสวรรค์ ไม่ได้เตรียมการอะไรเลย หลายเรื่องยังไม่ได้สะสาง” พระเจ้าตอบว่า เราบอกล่วงหน้าแล้วนะ ส่งอีเมล์ไป 3 ฉบับ เธอไม่ได้รับหรือ?” หนุ่ม เปล่าครับ ผมไม่ได้รับ  พระเจ้า  เธอรู้สึกเหนื่อย เครียด ไม่มีชีวิตชีวาบ้างหรือเปล่า?” หนุ่ม อ้อ นี่ก็คืออีเมล์จากพระองค์เหรอครับ ผมได้รับครับ  พระเจ้า  เธอรู้สึกเหงา เศร้า ยามอยู่คนเดียวบ้างมั๊ย ?” หนุ่ม ครับ ผมได้รับครับ  พระเจ้า เธอรู้สึกว่าฉลาดเกินใคร ๆ บ้างจนหลงในความเก่งของตัวเองบ้างหรือเปล่า จนพูดคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง?” หนุ่ม  ใช่ครับ นี่ก็เป็นอีเมล์ 3 ฉบับของท่าน พระเจ้า ถูกต้องแล้ว เราก็บอกเธอล่วงหน้า แต่เธอไม่สนใจอ่านเอง


หนุ่มจนแต้ม ก็เลยขอร้องพระเจ้าว่า ขอเวลาผมสักหน่อย ให้ผมกลับไปสะสางเรื่องต่าง ๆ ท่านจะเอาเท่าไหร่ก็ได้  พระเจ้าชู 1 นิ้ว คนหนุ่ม “ 1หมื่น ? 1แสน หรือ 1ล้าน ? ผมสามารถหาให้ท่านได้ด้วยสมองอันฉลาดของผม  พระเจ้าสั่นหัว ตอบว่า “1 บาท หนุ่มได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจมาก “1 บาท ง่ายมาก ผมจะถวายให้เดี๋ยวนี้เลยครับ

แต่เขาค้นหากระเป๋ากางเกง กระเป๋าเสื้อ คิดหาวิธีให้ได้เงิน 1 บาทนั้นมา ก็หาไม่ได้สักบาท พระเจ้า นี่แหละคือชีวิต เงินทอง เกิดมาไม่สามารถเอามาได้ ความฉลาดของเธอก็เช่นกัน ตายแล้วไม่สามารถเอาไปได้ ตอนมีชีวิตอยู่ มัวหาแต่เงินไม่สนใจใจคนรอบข้าง ถึงจะเห็นอีเมล์ 3 ฉบับของพระเจ้า ก็สายเกินไปแล้ว

พระเจ้าเตือนเราเสมอ แต่เราไม่สนใจ เพราะใจเราสาละวนกับการกอบโกย การอวดรู้ อวดฉลาด  บางทีเราฉลาดที่จะโต้ตอบกับพระเจ้า มีข้ออ้างสารพัดสารพัน คิดว่าสวรรค์อยู้แค่เอื้อม คิดว่ารู้วิธีที่จะไปสวรรค์ เพราะฉลาดพอ แต่บางครั้งเวลาของพระเจ้า การเตือนของพระเจ้าก็มาแบบที่เราไม่ทันตั้งตัว เพราะในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นของเรา แม้แต่เวลา

ไม่มีความคิดเห็น: