วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2564

สิ่งที่เคยมีหายไป

 

สิ่งที่เคยมีหายไป

>>>สะสม เก็บกอบโกย เอาไปกองไว้จนลืม

ไขว่คว้าอยากจะได้มีอยากจะได้เป็นเช่นคนอื่น

แต่ละเลยที่จะใส่ใจคนรอบข้าง สักวันถ้าสิ่งที่เคยมี หายไป>>>

ข้อความจากบ้านเกิดแจ้งข่าวว่า เมื่อคืนน้ำเอ่อล้นเข้าบ้าน จนถึงที่นอน ต้องรีบตื่นมาเก็บข้าวของ ถอดปลั๊กไฟกันอลหม่าน แล้วก็ส่งรูปการขึ้นของน้ำมาเรื่อย ๆ เพียงไม่ถึงสัปดาห์ทั่วหมู่บ้านริมน้ำนั้น ก็จมอยู่ในน้ำเป็นที่เรียบร้อย หวนกลับไปเมื่อในวันวาน บ้านทุกหลังสร้างให้ชั้นล่างโล่ง เรียกกันติดปากว่า “ใต้ถุนบ้าน” และมีเรือลำเล็ก ๆ แขวนเตรียมไว้ จนเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วภาครัฐมีนโยบายให้ทำถนนผนังกั้นน้ำ ในช่วงแรกทำไม่สูงและไม่แข็งแรง ในช่วงฤดูน้ำหลากน้ำล้นในเดือนตุลาคมเช่นนี้ ถนนก็พัง น้ำเข้าท่วมเช่นเคย ต่อมาจึงจัดสรรงบทำใหม่ให้แข็งแรง และสูงขึ้นกว่าเดิม เป็นความหวังว่าต่อไปหมู่บ้านเราจะไม่มีน้ำท่วม คนทั้งหมู่บ้านเห็นว่าเมื่อมีถนนกั้นน้ำแล้ว ก็ทำชั้นล่าง ให้เป็นห้องหับ ใช้หลับนอนแทน เพราะสะดวกไม่ต้อองขึ้นไปนอนบนชั้นสอง เพราะบางทีข้างบนร้อนกว่าชั้นล่าง ที่ตลกร้ายกว่านั้นคือ ถนนทำไม่สุดหมู่บ้าน (งบหมดในตอนนั้น ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีงบมาทำต่อ กี่ฤดูฝน กี่ฤดูเลือกตั้ง ก็ยังไม่ต่อให้เสร็จ) แล้วผลที่ตามมา คือ น้ำมิได้ล้นถนน มันไปไหลเข้าตรงที่ไม่มีถนนกั้นนั่นแหละ 

 


 

โดยปกติแล้ว เรามักจะคุ้นเคยกับการท่วมของน้ำเจ้าพระยาอยู่แล้ว 4-5 ปีท่วมครั้ง สมัยเป็นเด็กก็สนุกสนานได้ว่ายน้ำทั้งวัน ได้พ่ายเรือ ได้จับปลา ตกเบ็ด ตามประสาเด็กริมน้ำ แต่เมื่อเราโตขึ้นก็รู้สึกไม่น่าสนุก มีแต่ความลำบากในการกินการอยู่ เราจะห้ามฟ้าห้ามฝนห้ามน้ำเป็นเรื่องยาก ถึงจะจัดการบริหารเก่งอย่างไรก็มิอาจจะล่วงรู้ธรรมชาติได้ เป็นเรื่องที่ต้องปรับตัวกันไป เราอาจจะหลงลืมวิถีเก่าก่อน เพราะเห็นการพัฒนาเครื่องไม้เครื่องมือที่สูงขึ้น แต่เราต้องไม่ละทิ้งภูมิปัญญาเก่าก่อน นำมาประยุกต์ใช้

ในวันที่ต้องกลับไปบ้านเพื่อให้กำลังใจพี่น้องที่อยู่ที่บ้านริมน้ำนั้น นั่งคุยถึงเรื่องราวสมัยครั้งก่อน ยังจำคำของพ่อผู้ล่วงลับไปแล้วได้ พ่อเคยบอกว่า ถ้าเห็นมดดำขนไข่ย้ายรัง ขนอาหารเป็นทิวแถว เราต้องเตรียมตัวย้ายสิ่งของที่จำเป็นขึ้นมันที่สูงเลย เพราะน้ำต้องท่วมแน่ ๆ วันนี้ไม่มีพ่อค่อยบอก คอยสังเกต มีแต่การคาดการณ์เอาเอง และบางทีก็อยู่บนความประมาท หลายอย่างจึงไม่ทันการณ์ น้ำมันมักจะท่วมล้นในเวลากลางคืน มาในตอนที่เราไม่ทันตั้งตัว การเตรียมตัวจึงเป็นสิ่งจำเป็นเสมอ แม้ที่บ้านจะเตรียมขนย้ายหลายสิ่งอันแล้ว ก็ยังมีหลายสิ่งที่เสียหาย และกับคนที่ไม่ทันหรือชะล่าใจ ไม่ต้องกล่าวถึงว่าจะต้องประสบภัยเช่นไร


ระหว่างนั่งเรือเพื่อเข้าบ้าน เห็นเศษซากสิ่งของลอยเกลื่อนอยู่ตามบ้านเรือน บางสิ่งที่เก็บกันจนลืมเลือน และไม่นำออกมาใช้ วันนี้ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้แล้ว ในชีวิตเราก็เป็นเช่นนั้น เราสะสมหลายสิ่งหลายอย่าง เราเก็บกักตุนไว้มากมายจนเกินความจำเป็นของเรา สะสมจนจมหายไปกับกาลเวลา จากที่สิ่งไขว่คว้าหามาให้ได้ จากของต้องมี กลายเป็นขยะต้องทิ้ง มานั่งพิจารณาดี ๆ เรามีเกินกันทุกคน เหตุใดเรายังวิ่งวุ่นดิ้นรนหามาอีก จนไม่มีเวลาที่จะอยู่กับตัวเอง สำหาอะไรกับเวลาที่จะมอบให้พระ ให้กับคนรอบข้าง หลายครั้งน้ำท่วมชีวิตเรา ท่วมด้วยความโลภ ความหลง ความอยากได้อยาก อยากเด่นอยากดัง พอท่วมท้นแล้วก็อึดอัด เรียกหาใครก็ไม่เห็น หลายคนจมหายไปในกระแสนี้ เราต้องเตรียมตัว ตระหนักรู้ว่า วันหนึ่งเราก็ต้องจากไป โดยมิมีอะไรติดตัวไปได้เลย น้ำท่วมยังมีวันลดลง แต่น้ำท่วมชีวิตที่เสพติดกับทรัพย์สินลดลงยากมาก การมีทรัพย์สินเป็นสิ่งที่ดีถ้าเราใช้มันเพื่อประโยชน์ วันนี้เราต่างละทิ้งคนอื่น หาใช่ละทิ้งทรัพย์สินที่ไม่นานจะกลายเป็นสิ่งไร้ค่า 

ไม่มีความคิดเห็น: