ใหม่ในเก่า
ตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจยิ่ง
ในขณะที่ทั่วโลกและบางประเทศมีแนวโน้มที่สูงขึ้น
ทำให้เห็นว่าเราคนไทยเมื่อยามที่ต้องร่วมมือกันทำอะไรบางอย่างเพื่อฝ่าฟันวิกฤตการณ์นั้น
ก็มักจะทำได้ดีทีเดียว แม้จะมีการขัดแย้ง ทักท้วงกันบ้าง ก็เป็นธรรมดาในความเป็นธรรมชาติของคนเรา
บ่อยครั้งเราก็มักว่าคนไทยไร้ระเบียบ ไร้วินัย ทำอะไรตามใจชอบ มาวันนี้เราคงรู้สึกแล้วว่า
เอาเข้าจริง วินัยของชนชาติไทยก็เป็นหนึ่งในสากลโลกได้เหมือนกัน ในสถานการณ์แบบนี้
ถ้าเรารักษาวินัยทำตามสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ ย่อมนำพาสังคมคืนสู่ความสงบสุขได้ในเร็ววัน
อีกไม่นานเราจะสามารถออกจากบ้านได้ แต่จะเป็นการออกมาแบบมีวินัย มีความอดทน รู้จักเคารพกฎเกณฑ์กันมากขึ้น
นี่จึงเป็นที่มาของวิถีทางสังคมใหม่ ที่เราเรียกขานกันว่า New
Normal เหตุการณ์ครั้งนี้เสมือนเป็นการตระเตรียมการจัดระเบียบสังคมกันใหม่
ในโลกใบเดิม สิ่งดีงามที่เป็นของคู่โลกนี้คงจะยังมีมาและมีต่อไป
เพียงแต่ว่า ในแต่ละยุคสมัยจะนำออกมาใช้อย่างไร??? และเมื่อผู้คนในสังคมออกนอกลู่นอกทาง ย่อมจะมีสิ่งที่เกิดขึ้นมาเพื่อปรับ
เพื่อชักใยให้กลับคืนสู่สิ่งเดิม วิถีชีวิตที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่ได้ยินกันบ่อย
ๆ ในห้วงยามนี้ มันก็คือการกลับคืนสู่สามัญ โดยอาศัยเครื่องไม้เครื่องมือสมัยใหม่มาเป็นตัวขับเคลื่อน
เราเคยมีตำรับตำราบันทึกสมัยก่อนถึงขั้นตอนการทำสิ่งนั้นสิ่งนี้
มายุคนี้เราอยากจะทำอะไร ตำราดิจิทัล บนอากาศถ่ายทอดให้เรียนรู้ได้อย่างฉับพลัน
อยากทำอาหารอะไรทาน จากห้องครัวที่ว่างเว้นเป็นเพียงห้องเก็บจานชาม บัดนี้หม้อ
กระทะ ตะหลิว หิ้วกันออกมา เปิดยูทูป ใส่เครื่องปรุงตามเขาว่า วัตถุดิบ หยิบผสม
เติมรสตามใจปากคนในบ้าน สำราญจานข้าวพูนกันทั่วหน้า หลายบ้านกลับมาสู่ครอบครัวที่ทำอะไรทานด้วยกัน
มาอยู่พร้อมหน้ากัน แบ่งปันวันคืนที่ผ่านพ้นในวงอาหาร แม้จะมีระยะห่าง
แต่มิได้อ้างว้างดังแต่ก่อน
หรือแม้วันไหนไม่อยากจะทำทานเอง เพียงแค่หยิบโทรศัพท์ถามไถ่ใครอยากทานอะไร
กดสั่งผ่านทางสายลมไป ไม่นานก็มีคนมาส่ง ไม่ต่างจากเมื่อก่อน หน้าบ้านจะมีแม่ขายพ่อค้าหาบกับข้าวกับปลาผ่านไปมา
ส่งเสียงเรียกกันเจื้อยแจ้วแว่วมาแต่ไกล ยิ่งบ้านริมคลองริมน้ำ ก๋วยเตี๋ยวเรือค่อย
ๆ ลอยละล่องตามลำน้ำมา ยืนรอด้วยความเปรี้ยวปากกว่าจะมาถึงท่าน้ำบ้านเรา
ก็ต้องจัดให้คุ้มชามแล้วชามเล่า วิถีแบบนี้ก็เปลี่ยนมาเป็นรถพ่วง รถพุ่มพวง
รถซุปเปอร์มาร์เก็ตวิ่งตุเลง ๆ ตามตรอกซอกซอย เอาเข้าจริงเราอยู่บ้าน
ของกินก็มีให้เลือกซื้อเลือกหากันได้ตลอด
และนี่อาจจะทางเลือกใหม่ของเราในวันข้างหน้า ยิ่งมาพิจารณาถึงงบที่จับจ่าย วิถีแบบนี้อาจจะได้จ่ายน้อยกว่าที่เราไปซื้อหาที่ห้างร้าน
เพราะเมื่อเราไปถึงห้างคงไม่ใช่จะไปซื้อสิ่งที่เราต้องการอย่างเดียว เดี๋ยวก็ได้สิ่งอื่นที่ต้องตา
ถูกกิเลสติดตามมาเสมอ งบงอกออกมาตรงนี้มาเท่าไรแล้ว วิถีชีวิตใหม่จะทำให้เราสนใจไตร่ตรองการจับจ่ายมากขึ้น
มากล่าวถึงเรื่องของความเชื่อความศรัทธา เรื่องของทางจิตใจ ยามที่เราต้องกักตัวอยู่กับบ้าน
แต่จิตวิญญาณเรานั้นกลับมีเสรีมากขึ้น มีเวลาที่จะสวดภาวนา มีเวลาที่จะอ่านพระวาจา
มีเวลาไตร่ตรองตัวตน มีเวลาว่างที่จะคิดถึงความงามความเมตตาต่อคนอื่นมากขี้น
ใช่หรือไม่ แม้ประตูวัดจะถูกสั่งปิดลงกลอน
แต่ประตูหัวใจเราต่างถูกเปิดออกอย่างไม่รู้ตัว ตรงประตูหัวใจเรานี่แหละ คือ พระคริสตเจ้า
ที่พร้อมจะให้เราก้าวผ่านเข้าไปหาพระองค์เสมอในห้วงยามแห่งความทุกข์ยากเช่นนี้ เรารู้ว่าเมื่อผ่านประตูนี้เราจะได้พบความสงบ
เราจะพบกับสันติสุข ประตูนี้ไม่เคยลั่นลงกลอน แต่ก่อนนั้น เราผ่านไปผ่านมา เราก็ไม่เคยจะแวะเวียนเข้ามาทางประตูนี้เลย
เราเห็นประตูชัยแห่งความร่ำรวย ประตูที่ประดับด้วยทองและเหรียญตราแห่งเกียรติยศ
เราจึงมุ่งหน้าแข่งขันกันไปให้ถึงเป็นคนแรก ๆ วันนี้วันที่ประตูเหล่านั้นปิดลง
ไม่มีใครคิดจะเร่งรีบเข้าไป เราจึงมีเวลาที่จะมองมาทางประตูนี้ ที่เมื่อเราเข้ามาแล้ว
เรารู้สึกอบอุ่น เรารู้สึกมีพลัง และทำให้เราพร้อมที่จะออกไปเพื่อคนอื่น
เพราะรับรู้แล้วว่าพระองค์จะเคียงข้างเราไปทุกที่ ในความรักเดิมของพระเจ้า
ทำให้เรามีชีวิตใหม่เสมอ ในคำสอนเดิม ๆ เพิ่มเติมคือใส่ใจ
เราก็ได้แนวทางใหม่ที่พร้อมจะเผชิญโลกในวันข้างหน้าได้เสมอ
โลกดูสวยงามขึ้นหลังเราหยุดใช้โลก ความดีงามจะงอกงามขึ้นถ้าเรายิ่งใช้
และใช้อย่างมีวินัย เตรียมชีวิตจิตใจจิตวิญญาณให้พร้อม
ซ้อมรับกับวิถีชีวิตใหม่ในโลกใบเก่าที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ใครพร้อมก่อนคนนั้นจะพบกับสันติสุขในชีวิตได้ง่ายกว่าใคร
ๆ ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น