วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562

วันหมดอายุ


วันหมดอายุ
ของในตู้เย็นที่บ้านเต็มตู้อยู่บ่อย ๆ เนื่องเพราะมีของกินมาเพิ่มเติมทุกวัน บางอย่างกินไม่หมดก็เอาเก็บใส่ไว้ แล้วก็ลืมจนหมดอายุคาตู้เย็น หรือบ่อยครั้งเราก็ลืมที่จะดูว่าของสิ่งนั้นหมดอายุวันไหนคิดเอาเองว่าคงเก็บไว้ได้นานปล่อยค้างคาอยู่ในตู้เย็น อย่างไรก็ไม่เสีย แต่เมื่อต้องการใช้ต้องการกินเมื่อเอาออกมา พอดูข้างกล่อง บนฝา ถึงได้รู้ว่าเลยวันที่จะใช้งานไปแล้ว จำต้องทิ้งไป ของบางอย่างถ้าไม่ใช้ก็ไม่เคยนึกถึง หลายครั้งเราก็เป็นเช่นนี้ ไม่ใส่ใจในสิ่งเก่า เพราะมีสิ่งใหม่ ๆ มาแทนที่ตลอดเวลา เรามักหลงลืมว่าทุกสิ่งย่อมมีวันหมดอายุ

https://picpost.mthai.com/storage/uploads/2017/03/2080993.jpg
ถ้าสังเกตสักหน่อยในปัจจุบันนี้ เราก็จะพบว่า เครื่องมือ เครื่องใช้ต่าง ๆ หมดอายุ และเสีย
ง่ายเหลือเกิน ไม่เหมือนเครื่องสมัยก่อนทั้งอึดทั้งถึก ใช้มาเป็นสิบยี่สิบปียังคงทนหรือแค่เปลี่ยนอุปกรณ์ภายในเล็กน้อยก็ใช้ได้อีกนาน แน่นอน บริษัทที่ผลิตเครื่องสมัยใหม่ หากผลิตให้มีอายุการใช้งานนาน สายการผลิตย่อมทำให้บริษัทไม่มีกำไรและไม่เติบโต ขายของไม่ได้ จึงต้องกำหนดให้มีวันสิ้นสภาพสิ้นอายุขัย ประจวบเหมาะกับยุคสมัยที่เราเบื่อง่ายหน่ายไว มีอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้น จำต้องซื้อมาใช้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ชีวิตดู Out ตกเทรนด์ ตกยุค เราต้องเป็นคนหัวก้าวหน้าและดูมีรสนิยม ยิ่งในวันที่ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเร็ว หมดอายุไว หากเราไม่ปรับเปลี่ยนตาม เราก็ดูเสมือนจะอยู่หลังคนอื่น แต่เร็วไปก็เหนื่อย หาความสุขกันไม่ค่อยเจอ ฉะนั้นแล้วก็ต้องหาสมดุลให้กับตัวเองจึงเป็นหนทางที่จะมีความสุข ตามบ้างผ่อนบ้าง อันไหนจำต้องทิ้งก็ทิ้งไป อันนั้นดีงามก็จดจำทำให้เป็นวิถีชีวิตประจำวัน

ความรู้วันนี้ก็มีวันหมดอายุ ใครจะไปยึดโยงหลักวิชาการเดิม ๆ วันนี้จะกลายเป็นคนโบราณล้าสมัยไปในทันที ความรู้ของเมื่อวานเปลี่ยนแปรไปแล้ว ความรู้วันนี้จึงไม่อยู่กับที่ มีสิ่งใหม่ให้เรียนรู้ได้ตลอดเวลา นับวันเรายิ่งมีเครื่องมือที่จะถ่ายทอดความรู้ให้กับเราโดยที่เราไม่ต้องไปจดจำท่องจำ พูดให้เห็นภาพสักหน่อย ในสมัยหนึ่งเราต้องเรียนพื้นฐานคอมพิวเตอร์มากมาย มาวันนี้แค่นิ้วจิ้มไปจิ้มมาเราก็สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายดาย เราเคยต้องจดจำการวางนิ้วลงบนคีย์บอร์ด แป้นพิมพ์ เพื่อตาดูต้นฉบับนิ้วพิมพ์ตาม วันนี้มีใครสักกี่คนที่วางนิ้วบนคีย์บอร์ดในเครื่องโทรศัพท์บ้าง มันเล็กเกินไป อีกอย่างแค่กดปุ่มพูด ก็พิมพ์ตามคำพูดได้ หรือแค่ใช้นิ้วสองนิ้วเลื่อนไปมาก็พิมพ์ได้อย่างรวดเร็ว เราไม่จำเป็นต้องอาศัยหลักการ ทฤษฎีมากมายในการพยายามพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ แค่ใช้ระบบ Search หา เราก็ได้รับคำตอบ หลักการเก่า ๆ ถูกรูปแบบใหม่เข้าแทนที่ทุกวัน ความรู้เก่าหลายอันต้องสูญสิ้นมลายกลายเป็นของหมดอายุ รอวันถูกทิ้งให้หลงลืม ใครที่ยังยึดติดกับหลักการเดิม ๆ ความรู้เก่า ๆ ก็จะอยู่ในโลกแบบโดดเดี่ยว เพราะไม่มีใครจะเชื่อถือ ฉะนั้นจึงมีคำพูดว่า คนเราต้องเรียนรู้ตลอดเวลา อย่าหยุดที่จะแสวงหาความรู้ เพราะสิ่งที่เรารู้วันนี้ พรุ่งนี้ก็กลายเป็นของเก่าแล้ว เราเห็นคนที่ชอบอวดเก่ง อวดความรู้ กลายเป็นคนที่น่าสงสาร ที่ไม่สามารถจะตามโลกได้ทัน แต่ก็นั่นแหละ เรารู้เพื่อเรียนรู้มิใช่รู้เพื่อจะอวดรู้  โชว์ให้คนทั้งโลกเห็นความฉลาด บางทีการที่ความรู้ในโลกขับเคลื่อนไปรวดเร็วก็สอนในเรามีความอ่อนน้อม อ่อนโยนในการรับฟัง และเรียนรู้กันและกัน
เมื่อเรามองเห็นสิ่งต่าง ๆ มีวันเปลี่ยนแปลง มีอายุในการใช้งาน เราก็ต้องหันหลังกลับมามองเรื่องวันเวลาในชีวิตเรา หลายคนเชื่อว่า “ยังมีเวลาอีกมาก” แต่บ่อยครั้งเราก็คลาดก็พลาดไป เรามักจะกังวลว่าต่อไปจะทำยังไง? วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร? แต่เราคิดบ้างหรือไม่ว่าครั้งต่อไปและวันข้างหน้าจะยังมีลมหายใจอยู่หรือไม่! ฉะนั้น วันนี้ เวลานี้ จะทำอะไร ต้องทำให้เต็มที่ อย่ารอให้หมดวัน คนเรามักจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่ไม่มีในครอบครอง เพราะอยากได้แต่ไม่อาจได้ จึงคิดว่าสิ่งนั้นต้องล้ำค่า! แต่พอได้ครอบครองจริง ๆ อาจจะเริ่มรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ดีไปกว่าในสิ่งที่มีอยู่ในขณะนี้เลย
https://picpost.mthai.com/storage/uploads/2017/03/2080993.jpg

มีสิ่งหนึ่งถ้าเรายึดมั่นและไว้วางใจ สิ่งนั้นไม่มีวันหมดอายุ นั่นคือ ความรักความเมตตา ความรักที่มอบโดยไม่หวังการตอบกลับและเข้ายึดครอง ความรักที่ให้ผู้อื่นเหมือนกับรักตัวเอง ไม่ใช้ความทันสมัย ใช้อารมณ์ความรู้สึกและความต้องการเป็นตัววัด ความหมายความรักในวันนี้ที่พูด ๆ กันไม่น่าจะเรียกว่าความรัก อาจจะเป็นเพียงความชอบส่วนตัว ความชอบมักต้องมีวันเลิกชอบ แต่ถ้าความรักแท้ที่ใช่ ต้องใส่ใจ ดูแลหัวใจกันและกันให้เป็นหัวใจดวงเดียวกัน อาจจะดูงมงาย อาจจะดูเพ้อฝัน แต่สิ่งนี้แหละที่สร้างโลกและจรรโลงให้ความงดงามคงอยู่ตลอดมาไม่มีวันสิ้นอายุขัย ความเมตตาที่มอบให้กันก็เป็นส่วนสำคัญในความรักแท้ ความเมตตาอยู่ที่ใดความรักของพระเจ้าอยู่ที่นั่น เงินตราอยู่ที่ใดความโลภมักจะอยู่ที่นั่นเช่นกัน และมักจะทำให้ความสัมพันธ์ของผู้คนสั้นลง 
เรามักแปลกใจใช่หรือไม่ว่าความสัมพันธ์มิตรภาพของผู้คนมักจบลงในระยะเวลาอันสั้น เพราะเราคาดหวัง มีทัศนคติไม่ตรงกัน สำคัญคือเราไม่ยอมรับกันและกัน ไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและสิ่งรอบตัว เรายังยึดโยงความสำคัญของตัวเองกันมากไป เรายังต้องการให้คนอื่นมาใส่ใจและต้องเป็นดังใจเรา เมื่อต่างคนต่างคิดเช่นนี้ มิตรภาพจึงหมดอายุลง ใช่หรือไม่ ชีวิตเราไม่มีวันหมดอายุบอกไว้ข้าง ๆ ตัว ใครจะไปก่อนหรือหลังยังไม่มีใครรู้ แล้วเรายังถือดีอวดเก่งกันไปใย!!! นำความรักแท้ เมตตาจริงอยู่ในตัวเราให้ได้ และไม่ว่าวันเวลาโลกจะเปลี่ยนไปเช่นไร เราก็ยังอยู่ได้อย่างสันติตลอดไปตราบสิ้นลมหายใจ

ไม่มีความคิดเห็น: