วันหมดอายุ
ของในตู้เย็นที่บ้านเต็มตู้อยู่บ่อย
ๆ เนื่องเพราะมีของกินมาเพิ่มเติมทุกวัน บางอย่างกินไม่หมดก็เอาเก็บใส่ไว้ แล้วก็ลืมจนหมดอายุคาตู้เย็น
หรือบ่อยครั้งเราก็ลืมที่จะดูว่าของสิ่งนั้นหมดอายุวันไหนคิดเอาเองว่าคงเก็บไว้ได้นานปล่อยค้างคาอยู่ในตู้เย็น
อย่างไรก็ไม่เสีย แต่เมื่อต้องการใช้ต้องการกินเมื่อเอาออกมา พอดูข้างกล่อง บนฝา
ถึงได้รู้ว่าเลยวันที่จะใช้งานไปแล้ว จำต้องทิ้งไป ของบางอย่างถ้าไม่ใช้ก็ไม่เคยนึกถึง หลายครั้งเราก็เป็นเช่นนี้
ไม่ใส่ใจในสิ่งเก่า เพราะมีสิ่งใหม่ ๆ มาแทนที่ตลอดเวลา เรามักหลงลืมว่าทุกสิ่งย่อมมีวันหมดอายุ
https://picpost.mthai.com/storage/uploads/2017/03/2080993.jpg |
ถ้าสังเกตสักหน่อยในปัจจุบันนี้
เราก็จะพบว่า เครื่องมือ เครื่องใช้ต่าง ๆ หมดอายุ และเสีย
ง่ายเหลือเกิน ไม่เหมือนเครื่องสมัยก่อนทั้งอึดทั้งถึก
ใช้มาเป็นสิบยี่สิบปียังคงทนหรือแค่เปลี่ยนอุปกรณ์ภายในเล็กน้อยก็ใช้ได้อีกนาน แน่นอน
บริษัทที่ผลิตเครื่องสมัยใหม่ หากผลิตให้มีอายุการใช้งานนาน
สายการผลิตย่อมทำให้บริษัทไม่มีกำไรและไม่เติบโต ขายของไม่ได้ จึงต้องกำหนดให้มีวันสิ้นสภาพสิ้นอายุขัย
ประจวบเหมาะกับยุคสมัยที่เราเบื่อง่ายหน่ายไว มีอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้น
จำต้องซื้อมาใช้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ชีวิตดู Out ตกเทรนด์ ตกยุค เราต้องเป็นคนหัวก้าวหน้าและดูมีรสนิยม ยิ่งในวันที่ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเร็ว
หมดอายุไว หากเราไม่ปรับเปลี่ยนตาม เราก็ดูเสมือนจะอยู่หลังคนอื่น แต่เร็วไปก็เหนื่อย
หาความสุขกันไม่ค่อยเจอ ฉะนั้นแล้วก็ต้องหาสมดุลให้กับตัวเองจึงเป็นหนทางที่จะมีความสุข
ตามบ้างผ่อนบ้าง อันไหนจำต้องทิ้งก็ทิ้งไป
อันนั้นดีงามก็จดจำทำให้เป็นวิถีชีวิตประจำวัน
ความรู้วันนี้ก็มีวันหมดอายุ ใครจะไปยึดโยงหลักวิชาการเดิม ๆ
วันนี้จะกลายเป็นคนโบราณล้าสมัยไปในทันที ความรู้ของเมื่อวานเปลี่ยนแปรไปแล้ว ความรู้วันนี้จึงไม่อยู่กับที่
มีสิ่งใหม่ให้เรียนรู้ได้ตลอดเวลา
นับวันเรายิ่งมีเครื่องมือที่จะถ่ายทอดความรู้ให้กับเราโดยที่เราไม่ต้องไปจดจำท่องจำ
พูดให้เห็นภาพสักหน่อย ในสมัยหนึ่งเราต้องเรียนพื้นฐานคอมพิวเตอร์มากมาย
มาวันนี้แค่นิ้วจิ้มไปจิ้มมาเราก็สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายดาย เราเคยต้องจดจำการวางนิ้วลงบนคีย์บอร์ด
แป้นพิมพ์ เพื่อตาดูต้นฉบับนิ้วพิมพ์ตาม วันนี้มีใครสักกี่คนที่วางนิ้วบนคีย์บอร์ดในเครื่องโทรศัพท์บ้าง
มันเล็กเกินไป อีกอย่างแค่กดปุ่มพูด ก็พิมพ์ตามคำพูดได้
หรือแค่ใช้นิ้วสองนิ้วเลื่อนไปมาก็พิมพ์ได้อย่างรวดเร็ว เราไม่จำเป็นต้องอาศัยหลักการ
ทฤษฎีมากมายในการพยายามพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ แค่ใช้ระบบ Search หา เราก็ได้รับคำตอบ หลักการเก่า ๆ ถูกรูปแบบใหม่เข้าแทนที่ทุกวัน
ความรู้เก่าหลายอันต้องสูญสิ้นมลายกลายเป็นของหมดอายุ รอวันถูกทิ้งให้หลงลืม
ใครที่ยังยึดติดกับหลักการเดิม ๆ ความรู้เก่า ๆ ก็จะอยู่ในโลกแบบโดดเดี่ยว เพราะไม่มีใครจะเชื่อถือ
ฉะนั้นจึงมีคำพูดว่า คนเราต้องเรียนรู้ตลอดเวลา อย่าหยุดที่จะแสวงหาความรู้
เพราะสิ่งที่เรารู้วันนี้ พรุ่งนี้ก็กลายเป็นของเก่าแล้ว เราเห็นคนที่ชอบอวดเก่ง
อวดความรู้ กลายเป็นคนที่น่าสงสาร ที่ไม่สามารถจะตามโลกได้ทัน แต่ก็นั่นแหละ เรารู้เพื่อเรียนรู้มิใช่รู้เพื่อจะอวดรู้
โชว์ให้คนทั้งโลกเห็นความฉลาด บางทีการที่ความรู้ในโลกขับเคลื่อนไปรวดเร็วก็สอนในเรามีความอ่อนน้อม
อ่อนโยนในการรับฟัง และเรียนรู้กันและกัน
เมื่อเรามองเห็นสิ่งต่าง ๆ มีวันเปลี่ยนแปลง
มีอายุในการใช้งาน เราก็ต้องหันหลังกลับมามองเรื่องวันเวลาในชีวิตเรา หลายคนเชื่อว่า
“ยังมีเวลาอีกมาก” แต่บ่อยครั้งเราก็คลาดก็พลาดไป เรามักจะกังวลว่าต่อไปจะทำยังไง?
วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร?
แต่เราคิดบ้างหรือไม่ว่าครั้งต่อไปและวันข้างหน้าจะยังมีลมหายใจอยู่หรือไม่!
ฉะนั้น วันนี้ เวลานี้ จะทำอะไร ต้องทำให้เต็มที่ อย่ารอให้หมดวัน คนเรามักจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่ไม่มีในครอบครอง
เพราะอยากได้แต่ไม่อาจได้ จึงคิดว่าสิ่งนั้นต้องล้ำค่า! แต่พอได้ครอบครองจริง ๆ
อาจจะเริ่มรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ดีไปกว่าในสิ่งที่มีอยู่ในขณะนี้เลย
https://picpost.mthai.com/storage/uploads/2017/03/2080993.jpg |
มีสิ่งหนึ่งถ้าเรายึดมั่นและไว้วางใจ
สิ่งนั้นไม่มีวันหมดอายุ นั่นคือ ความรักความเมตตา
ความรักที่มอบโดยไม่หวังการตอบกลับและเข้ายึดครอง
ความรักที่ให้ผู้อื่นเหมือนกับรักตัวเอง ไม่ใช้ความทันสมัย
ใช้อารมณ์ความรู้สึกและความต้องการเป็นตัววัด ความหมายความรักในวันนี้ที่พูด ๆ
กันไม่น่าจะเรียกว่าความรัก อาจจะเป็นเพียงความชอบส่วนตัว ความชอบมักต้องมีวันเลิกชอบ
แต่ถ้าความรักแท้ที่ใช่ ต้องใส่ใจ ดูแลหัวใจกันและกันให้เป็นหัวใจดวงเดียวกัน
อาจจะดูงมงาย อาจจะดูเพ้อฝัน แต่สิ่งนี้แหละที่สร้างโลกและจรรโลงให้ความงดงามคงอยู่ตลอดมาไม่มีวันสิ้นอายุขัย
ความเมตตาที่มอบให้กันก็เป็นส่วนสำคัญในความรักแท้ ความเมตตาอยู่ที่ใดความรักของพระเจ้าอยู่ที่นั่น
เงินตราอยู่ที่ใดความโลภมักจะอยู่ที่นั่นเช่นกัน และมักจะทำให้ความสัมพันธ์ของผู้คนสั้นลง
เรามักแปลกใจใช่หรือไม่ว่าความสัมพันธ์มิตรภาพของผู้คนมักจบลงในระยะเวลาอันสั้น
เพราะเราคาดหวัง มีทัศนคติไม่ตรงกัน สำคัญคือเราไม่ยอมรับกันและกัน
ไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและสิ่งรอบตัว เรายังยึดโยงความสำคัญของตัวเองกันมากไป
เรายังต้องการให้คนอื่นมาใส่ใจและต้องเป็นดังใจเรา เมื่อต่างคนต่างคิดเช่นนี้ มิตรภาพจึงหมดอายุลง
ใช่หรือไม่ ชีวิตเราไม่มีวันหมดอายุบอกไว้ข้าง ๆ ตัว ใครจะไปก่อนหรือหลังยังไม่มีใครรู้
แล้วเรายังถือดีอวดเก่งกันไปใย!!! นำความรักแท้ เมตตาจริงอยู่ในตัวเราให้ได้ และไม่ว่าวันเวลาโลกจะเปลี่ยนไปเช่นไร
เราก็ยังอยู่ได้อย่างสันติตลอดไปตราบสิ้นลมหายใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น