วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2562

พื้นที่ชีวิต


พื้นที่ชีวิต
            เราเคยไหม? ที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัว แต่มักจะถูกรุกรานด้วยคนรอบข้าง สิ่งแวดล้อมรอบตัว เคยไหม? ที่ต้องการที่พักกายพักใจ แต่แล้วกลายเป็นเพียงที่ให้นอนหลับเท่านั้น คนเราเกิดมาย่อมต้องการมีที่มีทางของตัวเอง แต่หลายล้านคนในโลกเมื่อได้พื้นที่แล้วกลับไม่พอใจ บางคนคับที่อยู่ยากคับใจอยู่ยากยิ่งกว่า ในวันที่พื้นที่กลายเป็นเม็ดเงินเม็ดทองสร้างมูลค่ามากมาย จนกระทั่งคนทั่วไปที่รายได้พอมีพอใช้ไม่อาจจะครอบครองได้ ปัญหาความกดดันจึงตามมา เช่นในฮ่องกงที่วันนี้เกิดการประท้วงของวัยหนุ่มสาว สาเหตุหนึ่งก็มาจากแรงกดดันในการที่อยากจะได้พื้นที่มาครอบครอง คนฮ่องกงหลายคนทำงานมาแทบทั้งชีวิตก็ได้เพียงพื้นที่เล็ก ๆ ที่เรียกว่า “ห้องพักนาโน” เป็นห้องแบบกรงเล็ก ๆ แคบ ๆ ที่ถูกแบ่งขาย คนเราเมื่ออยู่ในพื้นที่แคบ ใจก็แคบ เกิดความคับแค้นเป็นแรงกดดันเกิดความเครียด จำต้องเรียกร้องการรื้อระบบเพื่อจัดสรรพื้นที่กันใหม่ เมืองไทยวันนี้หลายคนขอแค่มีที่นอนที่กินบนอาคารกลางอากาศก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว เราต่างก็ปรารถนาจะเป็นเจ้าของพื้นที่เพื่อทำให้การดำรงดำเนินชีวิตของเราเป็นไปอย่างมีความสุข


            เมื่อพูดถึงตรงนี้ชุมชนวัดเซนต์หลุยส์ของเรา ที่ฉลองวัดและชุมชนความเชื่อในวันนี้เราต้องขอบคุณการเห็นการณ์ไกลของบรรดามิชชันนารี โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระคุณหลุยส์ เวย์ ที่ท่านได้ซื้อที่ดินในบริเวณนี้ เพื่อใช้เป็นพื้นที่เพื่อสร้างรากฐานแห่งรักและเมตตา เพื่อให้พระอาณาจักรของพระเจ้าได้มาถึง จวบจนถึงสมัยพระคุณเจ้าหลุยส์ โชแรง ที่ได้ก่อให้เกิดวัดอิฐที่สวยงาม และโรงเรียน เพื่อปลูกฝังต่อฐานความรักเมตตาให้มั่นคง เป็นศูนย์รวมความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อนำกางเขนปักลงกลางใจเมืองกรุงเทพฯ เราจึงมีพื้นที่แห่งความศรัทธาที่สง่างาม แม้พื้นที่อาจจะกว้าง แต่สำหรับความเชื่อความศรัทธานั้นยิ่งกว้างใหญ่ไพศาลยิ่งนัก และจากพื้นที่ตรงนี้ได้ถูกเติมเต็มให้ทุกคนได้รับรู้ถึงพระคริสตเจ้ามาจนถึงปัจจุบัน
            นอกจากพื้นที่ภายนอกแล้วที่คนเราก็ต้องการเพื่อเป็นแหล่งพักอาศัย พื้นที่ภายในจิตใจของเราก็สำคัญมิใช่น้อย สิ่งนี้นี่เองที่พระสงฆ์ต่างประเทศแห่งกรุงปารีสฯ (MEP) ปรารถนาที่จะให้อาณาจักรของพระเจ้าเติบโตขยายอาณาเขตลงในจิตใจของเราชาวเซนต์หลุยส์ทุกคน แล้ววันนี้เราได้ทำให้ความปรารถนานี้เป็นจริงเป็นจังในตัวเรามากน้อยเพียงใด? เราทุกคนเป็นเหมือนแก้วเปล่าที่พร้อมน้อมรับพระวาจาเข้าไปเติมเต็มในพื้นที่แห่งชีวิตมากน้อยเพียงใดสุดแล้วแต่... แล้วเราจะทำอย่างไรให้ธารแห่งรักและเมตตานี้รินไหลลงในแก้วใบอื่น ๆ ได้ด้วย แก้วใสใบเปล่าหากเติมสิ่งใดก็มักจะกลายเป็นสิ่งนั้นให้ผู้คนได้พบเห็นมิใช่หรือ!!!
แก้วใบหนึ่งถูกคนเติมนมลงไปจนเต็ม  เมื่อเขาชูมันขึ้น เขาจะพูดว่า
“นี่คือนม”
และเมื่อเติมน้ำมันพืชลงไปในแก้วจนเต็ม เขาก็จะบอกว่า
“นี่คือน้ำมันพืช”
มีเพียงแก้วเปล่าเท่านั้น ที่ใคร ๆ ถึงเห็นว่ามันคือแก้ว เขาจึงพูดว่า
“นี่คือแก้วน้ำ”

โลกในยุคปัจจุบันถูกขยายพื้นที่ให้แต่ละคนมากยิ่งขึ้น แต่เป็นโลกเสมือนจริง ที่ผู้คนต่างคิดว่ามีพื้นที่นี้แหละจะใช้แสดงความมีอิสระเสรีได้อย่างเต็มที่ เราต่างจับจองความเป็นเจ้าของจอมปลอม เพื่อมาต่อเติมให้พื้นที่ในชีวิตจริงให้ได้รับความสมบูรณ์ และเราก็ถูกช่วงชิงพื้นที่ด้วยความโลภ ความหลง ความอยากได้อยากมีนานาชนิดอย่างมิมีวันสิ้นสุด จากพื้นที่เล็ก ๆ เราก็ขยายไปเบียดบัง ทับซ้อนพื้นที่คนอื่นอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร พื้นที่นี้จึงทำให้ชีวิตคนในสังคมมีแต่ความจอมปลอมเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว พื้นที่ที่จะใช้เพื่ออวดเก่ง โชว์รู้ โม้รวย สวยปลอมแปลง เรามีชีวิตอยู่แบบนี้เราจึงไขว่คว้าหาสิ่งต่าง ๆ มาห่อหุ้ม แต่ยิ่งทีเรายิ่งกลัดกลุ้ม ยิ่งทีเรายิ่งไม่พบความสุข ทั้ง ๆ ที่มีพื้นที่กว้างไกลไร้พรมแดน

            โอกาสวันนี้ฉลองความเชื่อของเราชาวเซนต์หลุยส์ เรามาลองสำรวจตรวจสอบกันสักนิด ว่าชีวิตเราที่ผ่านมานั้น เราถูกอะไรเติมลงไปบ้าง ในยามที่ใจของเราเต็มไปด้วยอคติ เงินทอง และอำนาจ มนุษย์มักครอบครองในสิ่งต่าง ๆ มากมาย แต่ไม่อาจครอบครองตนเองได้อย่างแท้จริง เรามีพื้นที่กว้างขึ้น จิตใจเรากลับแคบลง เราจะอยู่กันอย่างไร?....เราจะอยู่ได้ หากใจเราเต็มด้วยความรักและเมตตา ให้สมกับความเสียสละของผู้วางรากฐานให้กับเรา บรรดาคุณพ่อ จากรุ่นสู่รุ่น ตลอด 62 ปี จะไม่สูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ และที่สุดเรามาร่วมกันขยายพื้นที่ชีวิตศิษย์พระคริสต์ออกไปให้ทุกผู้คนได้พบเห็นผ่านทางการดำเนินชีวิตบนหนทางธรรม หากมีวันใดรู้สึกว่าไร้เรี่ยวแรง เราก็มาพักผ่อนในพื้นที่นี้เพื่อรับพลังกำลังใจก้าวเดินออกไปบนหนทางแห่งรักในพระคริสต์ตลอดไป

ไม่มีความคิดเห็น: