พื้นที่ชีวิต
เราเคยไหม? ที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัว
แต่มักจะถูกรุกรานด้วยคนรอบข้าง สิ่งแวดล้อมรอบตัว เคยไหม? ที่ต้องการที่พักกายพักใจ
แต่แล้วกลายเป็นเพียงที่ให้นอนหลับเท่านั้น คนเราเกิดมาย่อมต้องการมีที่มีทางของตัวเอง
แต่หลายล้านคนในโลกเมื่อได้พื้นที่แล้วกลับไม่พอใจ บางคนคับที่อยู่ยากคับใจอยู่ยากยิ่งกว่า
ในวันที่พื้นที่กลายเป็นเม็ดเงินเม็ดทองสร้างมูลค่ามากมาย
จนกระทั่งคนทั่วไปที่รายได้พอมีพอใช้ไม่อาจจะครอบครองได้ ปัญหาความกดดันจึงตามมา
เช่นในฮ่องกงที่วันนี้เกิดการประท้วงของวัยหนุ่มสาว
สาเหตุหนึ่งก็มาจากแรงกดดันในการที่อยากจะได้พื้นที่มาครอบครอง คนฮ่องกงหลายคนทำงานมาแทบทั้งชีวิตก็ได้เพียงพื้นที่เล็ก
ๆ ที่เรียกว่า “ห้องพักนาโน” เป็นห้องแบบกรงเล็ก ๆ แคบ ๆ ที่ถูกแบ่งขาย
คนเราเมื่ออยู่ในพื้นที่แคบ ใจก็แคบ เกิดความคับแค้นเป็นแรงกดดันเกิดความเครียด
จำต้องเรียกร้องการรื้อระบบเพื่อจัดสรรพื้นที่กันใหม่ เมืองไทยวันนี้หลายคนขอแค่มีที่นอนที่กินบนอาคารกลางอากาศก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว
เราต่างก็ปรารถนาจะเป็นเจ้าของพื้นที่เพื่อทำให้การดำรงดำเนินชีวิตของเราเป็นไปอย่างมีความสุข
เมื่อพูดถึงตรงนี้ชุมชนวัดเซนต์หลุยส์ของเรา
ที่ฉลองวัดและชุมชนความเชื่อในวันนี้เราต้องขอบคุณการเห็นการณ์ไกลของบรรดามิชชันนารี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระคุณหลุยส์ เวย์ ที่ท่านได้ซื้อที่ดินในบริเวณนี้
เพื่อใช้เป็นพื้นที่เพื่อสร้างรากฐานแห่งรักและเมตตา เพื่อให้พระอาณาจักรของพระเจ้าได้มาถึง
จวบจนถึงสมัยพระคุณเจ้าหลุยส์ โชแรง ที่ได้ก่อให้เกิดวัดอิฐที่สวยงาม
และโรงเรียน เพื่อปลูกฝังต่อฐานความรักเมตตาให้มั่นคง
เป็นศูนย์รวมความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อนำกางเขนปักลงกลางใจเมืองกรุงเทพฯ
เราจึงมีพื้นที่แห่งความศรัทธาที่สง่างาม แม้พื้นที่อาจจะกว้าง แต่สำหรับความเชื่อความศรัทธานั้นยิ่งกว้างใหญ่ไพศาลยิ่งนัก
และจากพื้นที่ตรงนี้ได้ถูกเติมเต็มให้ทุกคนได้รับรู้ถึงพระคริสตเจ้ามาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากพื้นที่ภายนอกแล้วที่คนเราก็ต้องการเพื่อเป็นแหล่งพักอาศัย
พื้นที่ภายในจิตใจของเราก็สำคัญมิใช่น้อย
สิ่งนี้นี่เองที่พระสงฆ์ต่างประเทศแห่งกรุงปารีสฯ (MEP) ปรารถนาที่จะให้อาณาจักรของพระเจ้าเติบโตขยายอาณาเขตลงในจิตใจของเราชาวเซนต์หลุยส์ทุกคน
แล้ววันนี้เราได้ทำให้ความปรารถนานี้เป็นจริงเป็นจังในตัวเรามากน้อยเพียงใด?
เราทุกคนเป็นเหมือนแก้วเปล่าที่พร้อมน้อมรับพระวาจาเข้าไปเติมเต็มในพื้นที่แห่งชีวิตมากน้อยเพียงใดสุดแล้วแต่...
แล้วเราจะทำอย่างไรให้ธารแห่งรักและเมตตานี้รินไหลลงในแก้วใบอื่น ๆ ได้ด้วย แก้วใสใบเปล่าหากเติมสิ่งใดก็มักจะกลายเป็นสิ่งนั้นให้ผู้คนได้พบเห็นมิใช่หรือ!!!
แก้วใบหนึ่งถูกคนเติมนมลงไปจนเต็ม เมื่อเขาชูมันขึ้น
เขาจะพูดว่า
“นี่คือนม”
และเมื่อเติมน้ำมันพืชลงไปในแก้วจนเต็ม เขาก็จะบอกว่า
“นี่คือน้ำมันพืช”
มีเพียงแก้วเปล่าเท่านั้น ที่ใคร ๆ ถึงเห็นว่ามันคือแก้ว
เขาจึงพูดว่า
“นี่คือแก้วน้ำ”
โลกในยุคปัจจุบันถูกขยายพื้นที่ให้แต่ละคนมากยิ่งขึ้น
แต่เป็นโลกเสมือนจริง
ที่ผู้คนต่างคิดว่ามีพื้นที่นี้แหละจะใช้แสดงความมีอิสระเสรีได้อย่างเต็มที่ เราต่างจับจองความเป็นเจ้าของจอมปลอม
เพื่อมาต่อเติมให้พื้นที่ในชีวิตจริงให้ได้รับความสมบูรณ์
และเราก็ถูกช่วงชิงพื้นที่ด้วยความโลภ ความหลง ความอยากได้อยากมีนานาชนิดอย่างมิมีวันสิ้นสุด
จากพื้นที่เล็ก ๆ เราก็ขยายไปเบียดบัง ทับซ้อนพื้นที่คนอื่นอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
พื้นที่นี้จึงทำให้ชีวิตคนในสังคมมีแต่ความจอมปลอมเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว
พื้นที่ที่จะใช้เพื่ออวดเก่ง โชว์รู้ โม้รวย สวยปลอมแปลง
เรามีชีวิตอยู่แบบนี้เราจึงไขว่คว้าหาสิ่งต่าง ๆ มาห่อหุ้ม
แต่ยิ่งทีเรายิ่งกลัดกลุ้ม ยิ่งทีเรายิ่งไม่พบความสุข ทั้ง ๆ ที่มีพื้นที่กว้างไกลไร้พรมแดน
โอกาสวันนี้ฉลองความเชื่อของเราชาวเซนต์หลุยส์
เรามาลองสำรวจตรวจสอบกันสักนิด ว่าชีวิตเราที่ผ่านมานั้น เราถูกอะไรเติมลงไปบ้าง ในยามที่ใจของเราเต็มไปด้วยอคติ
เงินทอง และอำนาจ มนุษย์มักครอบครองในสิ่งต่าง ๆ มากมาย
แต่ไม่อาจครอบครองตนเองได้อย่างแท้จริง เรามีพื้นที่กว้างขึ้น จิตใจเรากลับแคบลง
เราจะอยู่กันอย่างไร?....เราจะอยู่ได้ หากใจเราเต็มด้วยความรักและเมตตา ให้สมกับความเสียสละของผู้วางรากฐานให้กับเรา
บรรดาคุณพ่อ จากรุ่นสู่รุ่น ตลอด 62 ปี จะไม่สูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
และที่สุดเรามาร่วมกันขยายพื้นที่ชีวิตศิษย์พระคริสต์ออกไปให้ทุกผู้คนได้พบเห็นผ่านทางการดำเนินชีวิตบนหนทางธรรม
หากมีวันใดรู้สึกว่าไร้เรี่ยวแรง เราก็มาพักผ่อนในพื้นที่นี้เพื่อรับพลังกำลังใจก้าวเดินออกไปบนหนทางแห่งรักในพระคริสต์ตลอดไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น