วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เยอะนิยม


เยอะนิยม
โลกวันนี้เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสาร มีจริงมีเท็จ มีลือมีลวง ล้วนแต่ถูกส่งผ่านอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีปลายนิ้วเขี่ย หลายคนจึงเสพติดข้อมูลบนพื้นฐานแห่งความชอบ โดยระบบอัจฉริยะคอมพิวเตอร์ที่เก็บข้อมูลการท่องสืบเสาะค้นของสิ่งที่เราชอบและของที่ใช่สำหรับรสนิยมเรา จากนั้นก็ยิงสิ่งเหล่านั้นให้ไหลบ่าใส่เราอย่างไม่ต้องไปเที่ยวค้นคว้าแสวงหาให้เหนื่อยแรงอีกต่อไป กลายเป็นฐานข้อมูลชั้นดี เราจึงรับและเสพข้อมูลเพียงด้านเดียว แล้วยึดถือว่าสิ่งนี้ดีที่สุด ใช่ที่สุดจริงแท้ที่สุด เมื่อเสพจนติดแล้วไม่ว่าข้อมูลอื่นจากสื่อจากคนอื่นเข้ามา เราก็ปิดประตูใส่ไม่ยอมรับการแบ่งปัน กอดรัดเอาไว้ จนถือว่านี่คือความจริงอย่างเที่ยงแท้มิอาจจะผันแปรเปลี่ยนได้ ใครจะมาแย้งมาขัด มีอันต้องขึงขังของขึ้น หัวร้อน เอาเป็นเอาตาย แม้แต่พี่น้องสายสัมพันธ์ก็ยังขาดลงได้ สาอะไรกับคนอื่นที่ข้องแวะ บ่อยครั้งจึงเห็นการทะเลาะ ความขัดแย้งอยู่ทุกมุมเมือง ยุคนี้เป็นยุคที่เราล้วนละโมบนิยม ล้วนแต่ยึดครองถือมั่นนิยมไม่ฟังกัน ที่สำคัญต่างคนต่างเยอะนิยมในทุกสิ่งอัน จึงเป็นที่มาของการไม่รู้จักพอ เกิดภาวะโรคโลภเข้าแทรกซ้อนทุกเวลานาที

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ทุกคนต่างก็รู้ว่า ยุคนี้เป็นยุคของข้อมูล ข่าวสารตลอด 24 ชั่วโมง คนที่ฉลาดมักจะเลือกเสพแต่ข้อมูลดี ๆ เป็นประโยชน์ต่อชีวิตเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานหรือการบริหารชีวิต ในขณะเดียวกันก็มีคนมากเหลือเกิน ที่ยังเลือกเสพ เลือกติดอยู่กับข้อมูลเดิม ๆ บ่อยครั้งเราก็เป็นคนลักษณะแบบนั้น ชอบอะไรเดิม ๆ แล้วก็เคลิ้มไปว่าสิ่งนี้นั้นสุดยอดในปฐพี ในวันนี้เราจึงเหมือนมีแต่ความ “โลภรู้” เราต่างโชว์เก่ง โชว์เหนือ ไม่เหลือพื้นที่จะรับสิ่งต่าง ๆ ใหม่ ๆ เข้ามา เมื่อโลภรู้ก็เกิดกิเลส เกิดความหยิ่ง อวดรู้ ไปเสียทุกเรื่อง หลงลืมไปว่า โลกนี้พัฒนามาได้ล้วนมาจากความต่างทั้งนั้น ความโลภรู้นี่แหละที่นำไปสู่ความโลภในการสะสมทรัพย์สินสมบัติต่าง ๆ และค่อย ๆ ถอยห่างจากความสงบทางจิตใจ ยิ่งนานวันยิ่งพอกหนาเป็นกำแพงที่ยากจะทลายลงได้ หรือเมื่อถูกแรงกระแทกอย่างแรงก็ไร้แรงต้านทาน ทรงตัวไม่อยู่ ในชีวิตของเราต่างก็เคยพบเคยเจอกับเหตุการณ์ที่มิอาจจะคาดคิดได้ เวลานี้เป็นเช่นนี้ อีกกี่นาทีอาจจะกลายเป็นอื่นก็ได้ หากเรามัวแต่โลภ จากเยอะจนล้นจนเกิน โอกาสที่จะตั้งตัวให้ติด คิดให้ได้นั้นย่อมน้อยลง ๆ
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ในด้านหนึ่งความโลภอาจจะเป็นแรงขับเคลื่อน เป็นแรงบันดาลใจให้มุ่งสู่การพัฒนา การสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต หากแต่ว่าเกินจากนี้ความโลภก็ก่อให้เกิดภาวะวิกฤตทางจิตวิญญาณได้ อะไรที่เยอะไปก็ล้นเสียประโยชน์ อะไรที่มากไปก็วุ่นวายหาความหมายไม่พบ ชีวิตของคนเราถึงจุดหนึ่งก็ต้องเรียนรู้ว่าอะไรควรพออะไรควรหยุด หมุดหมายอยู่แค่ไหน มีมากเกินความจำเป็นก็ควรจะมอบต่อส่งผ่านให้กับคนที่ยังขาด มีเยอะก็ปล่อยของให้คนรอบข้างได้นำไปใช้บ้าง แบ่งปันข้อมูลดี ๆ ให้คนอื่นได้รู้โดยไม่ต้องบังคับข่มขู่ให้เชื่อบ้าง เช่นกันเราในบางกรณีบางเวลาเป็นคนรับสาร เราก็ต้องเปิดใจให้กว้าง เพื่อทำให้ชุมชนในรูปแบบใหม่ กลายเป็นชุมชนที่เปี่ยมด้วยความรัก ความจริง และความเชื่อ
ความโลภอาจจะเกิดจากการตั้งความหวัง เชื่อมั่นเกินไป ดังเช่นเรื่องนี้ เช้าวันหนึ่ง แม่เสือพาลูกออกไปสอนล่าเหยื่อ เจอนกฝูงหนึ่ง แม่เสือสอนให้ลูกจับนก แต่ลูกจับไม่ได้เพราะยังไม่ชำนาญ แม่เสือจึงพาลูกไปจับสัตว์อย่างอื่น ขณะที่เดินไปก็พบกระต่ายสองตัว ลูกเสือจับกระต่ายได้หนึ่งตัว แม่เสือเห็นกวางจึงบอกลูกว่ากินกวางดีกว่า เนื้อเยอะดี ลูกเสือจึงวางกระต่าย แต่แม่เสือจับกวางไม่ได้ ก็เลยบอกลูกว่ากลับไปกินเนื้อกระต่ายดีกว่าอร่อยกว่าเยอะ แต่เมื่อทั้งสองกลับไปก็ไม่พบกระต่ายแล้ว ลูกเสือจึงพูดกับแม่เสือว่า เรากินกระต่ายเมื่อครู่นี้ก็คงจะดีแล้ว เราโลภมากลาภจึงหายไปหรือเปล่าจ๊ะแม่ แม่เสือไม่ตอบ เพียงแต่เดินนำหน้าลูกเสือไปอย่างเงียบ ๆ

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
บางคนไม่เห็นค่าในสิ่งที่มี ดิ้นรนขวนขวายหาในสิ่งเกินความจำเป็น อ้างเพียงว่ามันต้องมี ถ้าเราโลภมากไป จะเอาเวลาที่ไหนมารักพระเจ้า รักเพื่อนบ้านไม่ต้องกล่าวถึง แม้กระทั่งรักตัวเราเอง บางทีเราก็ละเลย เพราะมัวแต่จะรักทรัพย์สินเงินทองและการอยากเป็นเจ้าของ    เรามิได้ใช้ “ความเป็นเจ้าของ” ของเราในการเพิ่มทรัพย์สมบัติด้านจิตวิญญาณ   แต่เรากลับขายจิตวิญญาณของเราเพื่อให้ได้เปลือกกาย เรามักเกิดความโลภที่มิใช่เพียงแต่เงินทอง ความรัก ความรู้ที่มากเกินไป เยอะเกินไป โลภมากต่อสิ่งต่าง ๆ ก็เป็นเช่นเดียวกัน ความปรารถนาต้องการที่จะเป็นเจ้าของสิ่งต่าง ๆ นั้นได้หยั่งรากลึกในธรรมชาติของมนุษย์เรา    เป็นความอยากที่ทั้งยากจะควบคุมและยากที่จะระงับยับยั้ง เรามักมีข้ออ้างข้อแก้ตัวต่าง ๆ นานาในการที่จะเข้าครอบครองเป็นเจ้าของสิ่งต่าง ๆ ต้องมีเท่านั้นเท่านี้ ต้องมีสิ่งนั้นสิ่งนี้เพื่อเก็บไว้ใช้ยามแก่ชรา    หรือเพื่อสุขภาพของเรา หรือเพื่อความปลอดภัยของเรา หรือเพื่อชื่อเสียงเกียรติยศหน้าที่การงานของเรา    เราต้องมีทรัพย์สมบัติเก็บไว้ให้ลูกให้หลาน เมื่อเราตั้งใจมากไปเยอะไปใจเราก็จะมุ่งไปหาสิ่งเหล่านั้น จนกลายเป็นความไม่รู้จักพอ จนกลายเป็นความเคยชิน จนกลายเป็นความเห็นแก่ตัวในที่สุด สิ่งเหล่านี้ไม่ทำให้เราสุขใจได้เลย คำในพระวาจาวันนี้สอนเราได้อย่างดีเพื่อไม่ให้เราตกเป็นพวก “เยอะนิยม”
“จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตของคนเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา แม้ว่าเขาจะมั่งมีมากเพียงใดก็ตาม”

ไม่มีความคิดเห็น: