ผู้หญิงผมขาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า
ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา ในวงอาหารมื้อเที่ยง มื้อที่รวมเราพี่น้องทั้งห้าคนให้พร้อมหน้าพร้อมตากัน
ไม่ใช่มาเพื่อวันแม่ แต่มาเพื่อบอกแม่ว่าพวกเราลูก ๆ
ภาคภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกแม่ อาหารมื้อใหญ่ที่สั่งมาทานร่วมกัน
เราเน้นอาหารที่แม่ชอบ ที่แม่เคยทำให้กินอยู่บ่อย ๆ ซึ่งแน่นอนเน้นไปทาง “ปลา” เสียส่วนใหญ่
เพราะบ้านเราอยู่ริมน้ำ แม่เคยหาปลา แม่เคยทำปลาร้า (เอาไว้แจกช่วงตรุษจีนที่ญาติ
ๆ มาหา) แม่เคยทำอาหารปลาต่าง ๆ มากมายด้วยรสชาติที่แสนอร่อย วันนี้วันที่แม่เริ่มอ่อนแรง
เพราะวันเวลากัดกร่อนความคล่องแคล่วไป แต่หลายครั้งแม่ก็อยากจะทำนั่นทำนี่ให้กินเสมอ
จนต้องเอาถังแก๊สไปซ่อน เพราะกลัวความหลงลืมจะก่ออันตราย
ทุกวันนี้แม่ยังถามหาถังแก๊ส ทำให้เราได้หัวเราะในความน่ารักของแม่ พวกเราไม่ต้องการให้แม่เหนื่อย
จึงพาออกมาหาอะไรรับประทานด้วยกัน แม่ทานไปยิ้มไปอดไม่ได้ที่จะถามว่า
“ยิ้มอะไรนัก” แม่ตอบว่า “ยิ้มเพราะรักลูกทุก ๆ คน”
พวกเราทำแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง หากมีเวลาว่าง ก็จะไปพาแม่ออกมาทานอาหารนอกบ้าน
แม่ทานอิ่มเป็นคนสุดท้าย
ไม่ใช่เพราะความชราที่พรากความว่องไวไปจากแม่เสียทีเดียวที่ทำให้ช้า
แต่เป็นเพราะนิสัยมัธยัสถ์ของแม่ต่างหาก แม่บอกเสียดายเนื้อปลาที่ติดก้าง
เนื้อที่หัวปลา แม่จะค่อย ๆ แกะออกมาใส่ช้อน เพราะเคยจนมาก่อนแม่จึงรู้จักคุณค่าของทุกสิ่งทุกอย่าง
พวกเราไม่ขัดใจแม่ นั่งรอจนแม่พอใจและเห็นทุกอย่างหมดลงอย่างคุ้มค่า
ความเป็นแม่มีให้เห็นในทุกกิจกรรม ทำให้นึกถึงเรื่องราวที่อ่านผ่านตามานานแล้ว
แต่ยังจดจำ เพราะว่ามีบางสิ่งบางอย่างคล้าย ๆ กัน และก็คิดว่า เราผู้เป็นลูก ๆ คงจะมีเรื่องราวคล้าย
ๆ แบบนี้อยู่ในความทรงจำที่งดงาม จากผู้หญิงที่เราเรียกว่า “แม่” ด้วยกันทุกคน
หญิงหม้ายผู้หนึ่ง
หลังจากสามีตายจาก นางต้องดูแลลูกทั้งสี่คนเพียงลำพัง เป็นที่น่ายกย่องสรรเสริญ
เพราะไม่เพียงแต่นางจะทุ่มเทส่งเสียลูก ๆ ทั้งสี่ ให้ได้ร่ำเรียนในขั้นสูงแล้ว ลูก
ๆ ทั้งสี่ก็ยังมีหน้าที่การงานที่ดีในสังคมอีกด้วย
อยู่มาวันหนึ่ง
แม่ผู้เหน็ดเหนื่อยตรากตรำตลอดชีวิตได้ล้มป่วยลง ลูก ๆ
ทั้งสี่ต่างคอยดูแลปรนนิบัติแม่ด้วยจิตกตัญญู
อีกทั้งอาหารทั้งสามมื้อก็ได้ตกลงกันว่า ลูกทั้งสี่จะเป็นคนจัดหาและลงมือปรุงเอง
นั่นก็คือ “หัวปลา” สิ่งที่แม่ชอบทานที่สุด
หลังจากทานอาหารที่ประกอบด้วยหัวปลาไปหลายมื้อ
นางจึงเอ่ยถามลูก ๆ ว่า
“ทำไมทุกมื้อมีแต่หัวปลาล่ะลูก?”
“แม่ครับ! นี่เป็นอาหารที่แม่ชอบทานที่สุดมิใช่ดอกหรือครับ?”
ถึงตอนนี้
นางไม่อาจที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้อีก จึงได้เอ่ยความลับที่เก็บไว้มานานหลายปี
“เจ้าลูกโง่เอ๋ย!
มิน่าล่ะ เจ้าทั้งหลายจึงปรุงอาหารที่ประกอบไปด้วยหัวปลาให้แม่ทุกมื้อ
แต่เมื่อมาถึงวันนี้แล้ว แม่ไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบังพวกเจ้าอีกต่อไป
แม่กินหัวปลามาหลายสิบปี ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยชอบกินมันเลย แต่ก่อนครอบครัวเรายากจน
เจ้าทั้งสี่ต่างก็ชอบกินเนื้อปลากันทั้งนั้น หากแม่กิน…. พวกเจ้าก็ได้กินน้อยลง
แต่หากไม่กิน ก็กลัวเจ้าจะไม่สบายใจ ก็เลยแสร้งบอกเจ้าทั้งหลายว่าแม่ชอบกินหัวปลา
ใช่ว่าแม่จะไม่ชอบกินเนื้อปลา แท้จริงแล้วไม่กล้าแย่งพวกเจ้ากินต่างหาก!”
เมื่อได้ฟังแม่พูดจบ
ลูกทั้งสี่จึงพากันรีบคุกเข่าขอโทษ แท้จริงแล้ว แม่
เป็นผู้ยิ่งใหญ่กว่าที่พวกเขาคิดไว้มากเหลือเกิน! (เรื่องราวจากใครสักคนที่ทำให้จดจำไว้อย่างแนบแน่น)
วันเวลาผ่านไป
แม่แก่ลงทุกปี แม่เกิดต้นเดือนสิงหาคม ระหว่างทางจากร้านอาหารกลับบ้าน ถามแม่ว่า
อายุเท่าไรแล้ว ที่ถามเพราะแม่เริ่มความจำเสื่อมถอย คิดว่าแม่อาจจะจำไม่ได้
แม่บอกว่า 80 กว่า ๆ อันนี้จำได้ ถามต่อว่าเกิดวันที่เท่าไร
แม่นั่งนึกอยู่นานก่อนที่จะบอกจำไม่ได้ แล้วก็นั่งยิ้มต่อไป
เราต่างคนต่างให้เงินแม่เป็นของขวัญวันเกิด ถึงเวลาจริง ๆ แม่กลับถามลูก ๆ หลาน ๆ
ว่ามีเงินใช้หรือเปล่า บางคนแกล้งขอ แม่ก็ยื่นให้ ใช่หรือไม่
แม่ของทุกคนคือผู้หญิงที่ยิ่งใหญ่ ที่ทำให้โลกดูสดใสด้วยรอยยิ้มแห่งความเอ็นดู
รอยยิ้มที่ภาคภูมิใจในตัวลูก
รอยยิ้มที่ผ่านกาลเวลาแห่งความยากลำบาก วันนี้เป็นรอยยิ้มที่เบิกบาน
ทำให้เราผู้เป็นลูกได้ใช้เป็นแรงบันดาลใจก้าวเดินต่อไปในหนทางชีวิต ในโลกยุคสมัยใหม่ใช่ว่าเราเพียงถ่ายภาพเพื่อลงสื่อโซเชียลเพื่อแสดงความรักแม่
ความกตัญญูเท่านั้น แต่เราต้องถ่ายทอดความเป็นแม่ที่มอบไว้ให้กับเรา
ภาพที่บันทึกไว้ ควรจะเป็นสิ่งที่คอยย้ำเตือนเราถึงความรักที่ได้รับการส่งผ่านจากมารดามายังเรา
มาร่วมกันสร้างทางสร้างโลกให้งดงาม ดำรงไว้ซึ่งรอยยิ้มของผู้เป็นแม่ต่อไปตราบนิรันดร์
และที่สุดผู้หญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
แบบอย่างของความเป็นแม่ของคนทั้งโลก คือ แม่พระ ผู้ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
ผู้ที่สละทุกสิ่งเพื่อความรอดของเราทุกคน ผู้หญิงที่ยอมน้อมรับสารพัดความเจ็บปวดร่วมกับพระบุตรพระเจ้า
ผู้หญิงแห่งประวัติศาสตร์ผู้ที่ทำให้โลกนี้มีสันติสุข ผู้ที่ทำให้รู้ว่า
ความเป็นแม่คือสิ่งเดียวที่มิอาจจะหายไปตามกาลเวลาได้ ขอกราบแทบเท้าพระแม่มารีย์พระมารดาของเรา
กราบเท้าผู้เป็นแม่ที่ให้ชีวิตที่ดีแก่ลูก ๆ ทุกคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น