วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

หากใจเรามี


หากใจเรามี
ในขณะที่โลกนี้มีเรื่องราวร้ายร้อนให้ได้รู้ให้ได้เห็นกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เครื่องบินตก คนดังคนดีจากไปท่ามกลางความอาลัยของผู้คน อีกหลายมุมในโลกคนใจร้ายเข่นฆ่ากันเป็นว่าเล่น รวมถึงความกังวลว้าวุ่นใจกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทในชีวิต โดยที่หลายคนหลายแห่งยังไม่มีการเตรียมเนื้อเตรียมตัวอันใดเลย แล้วเราจะทำตัวเช่นไร??? ในโลกที่กำลังก้าวหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ยิ่งในสังคมที่ใช้อารมณ์ความสะใจ มากกว่าใช้เหตุผลและความเมตตาต่อกัน ยิ่งทำให้โลกที่จะก้าวไกลในวันข้างหน้าเริ่มอยู่ยากขึ้นทุก ๆ วัน เรามักมองไม่เห็นส่วนดีที่มีมากมายแต่กลับไปเอาเรื่องที่ไม่งามมาใส่มาสาดกันไปมา โลกนี้ยังมีสิ่งสวยงามอยู่เสมอ หากใจเรามีความพร้อมที่จะน้อมรับรู้ 



เที่ยงวันที่ร้อนอบอ้าว ในฤดูที่เขาบอกว่าจะเริ่มต้นหนาว เท้าก้าวเดินออกจากบ้าน เจอแสงอันแสงกล้า จนผิวกายรู้สึกแสบ ๆ คัน ๆ ที่พักพิงข้างหน้าคือห้างเล็ก ๆ ใกล้บ้าน มีร้านอาหารติดแอร์ให้ได้คลายร้อน ระหว่างนั่งทานมื้อเที่ยง ด้านข้างที่โต๊ะถัดไปเห็นคุณลุงคุณป้าสูงอายุคู่หนึ่ง นั่งทานกันแบบเงียบ ๆ สักพักคุณลุงก็ตักกับข้าวใส่ในจานให้กับคุณป้า นั่งชื่นชมความน่ารักของชีวิตคู่ที่อยู่ดูแลกันจนแก่เฒ่า ค่อย ๆ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน กายที่ร้อนจากแดด บัดนี้ มีแต่ใจที่ชุ่มชื้น ตาที่แสบแดดฉ่ำไปด้วยความเอ็นดู โลกวันนี้น่าอยู่ขึ้นอีกมาก บางทีความงามอยู่ไม่ไกลจากเราเลย บางทีเทวดาน้อยก็ล่องลอยวนเวียนอยู่รอบตัวเรา หากใจเรามีและพร้อมที่จะมองเห็นแล้วอ่านเหตุการณ์นั้น


บ่ายวันหนึ่ง เด็กชายวัยห้าขวบคนหนึ่ง จู่จู่ก็บอกกับคุณแม่ว่า แม่..วันนี้ผมจะออกจากบ้าน ไปหาเทวดา
คุณแม่ยิ้ม ๆ แล้วพูดว่า ได้เลย แต่ต้องกลับมาก่อนอาหารมื้อค่ำนะ
เด็กน้อยคิด อาจจะต้องเดินทางไปไกลมาก จึงจะหาเทวดาเจอ ฉะนั้น จึงเตรียมขนมปัง และเครื่องดื่มน้ำผลไม้ ใส่กระเป๋าเป้ ออกจากบ้านด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นเต็มเปี่ยม เด็กน้อยไม่เคยออกจากบ้านตามลำพัง เดินผ่านถนนไปสองสาย เขาเห็นสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ต้นไม้ผลิดอกเต็มไปหมด
เด็กน้อยรำพึงกับตนเองว่า ผมเดินทางมาตั้งไกลแล้ว ที่นี่สวยงามยิ่ง ดีไม่ดีที่นี่ก็คือสรวงสวรรค์
เด็กน้อยเริ่มรู้สึกหิว จึงไปนั่งลงที่ม้านั่งยาวในสวนสาธารณะ เปิดกระเป๋าเป้ออก หยิบขนมปังออกมา กำลังจะกัดกิน ทันใดนั้น เขาเห็นที่ปลายม้านั่งยาว มีคุณยายนั่งอยู่ท่านหนึ่ง กำลังยิ้มให้เขา เด็กน้อยคิดๆ แล้วฉีกขนมปังออกมาครึ่งหนึ่งยื่นให้คุณยาย
ขนมปังนี้ ผมให้คุณยาย คุณยายยิ้มออกมาอีกแล้ว
เช่นนี้แล้ว ทั้งช่วงบ่ายของวันนั้น หนึ่งผู้ชรา หนึ่งผู้น้อย ร่วมแบ่งปันขนมปังและน้ำผลไม้ พลบค่ำ เด็กน้อยกลับมาถึงบ้าน บอกคุณแม่ด้วยความตื่นเต้นว่า
วันนี้ ผมเห็นเทวดาแล้ว เทวดาเป็นคุณยายท่านหนึ่ง
จริงหรือ ? ลูกรู้ได้ยังไงว่า เธอคือเทวดา คุณแม่ถามด้วยความประหลาดใจ
เด็กน้อยตอบอย่างจริง ๆ จัง ๆ ว่า เพราะมีเพียงเทวดาเท่านั้น จึงจะมีรอยยิ้มที่สวยสดงดงาม
คุณยาย ยามนี้ได้กลับถึงบ้านแล้วเช่นกัน พูดกับผู้เคียงข้างชราของเธอว่า วันนี้ ฉันเห็นเทวดาแล้ว เทวดาคือเด็กชายตัวน้อย ๆ คนหนึ่ง เพราะมีเพียงเทวดาเท่านั้น จึงจะมีรอยยิ้มที่สวยสดงดงามเช่นนี้ (แปลจากบทความภาษาจีนของ 限量版)


ใช่หรือไม่ ภายในจิตใจของเราทุกคน ล้วนมีคุณงามความดีที่ได้รับเป็นพระพรจากพระผู้เป็นเจ้านับตั้งแต่เราปฎิสนธิแล้ว แต่บ่อยครั้งพวกเราก็หลงลืมรากเหง้าพื้นฐานในชีวิตนี้ไปอย่างสิ้นเชิงพลางกลับพร่ำบ่นว่าการกระทำความดี เป็นเรื่องยากลำบากเสียเหลือเกินในยุคนี้ เราอาจจะหาเหตุมาเพื่อเป็นเกราะปิดบังการกระทำไม่ดีไม่งามของเรา แต่เราก็มักเรียกร้องให้ผู้อื่นต้องกระทำความดี เรื่องนี้เป็นทัศนคติย้อนแย้งในสังคมเราเสมอ บางครั้งเราก็มักรอเวลาให้พร้อม ให้ได้มีมากก่อนแล้วจึงเริ่มกระทำความดีเพื่อผู้อื่น โดยลืมไปว่าการกระทำความดีไม่มีราคาค่างวดอันใด มีแต่สร้างสันติให้กันและกัน แท้จริงแล้ว การกระทำสิ่งที่สวยสดงดงาม ล้วนเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เกิดขึ้นกระทันหัน


แน่ละ เรากำลังก้าวย่างสู่ยุคที่มีแต่เครื่องไม้เครื่องมือ ระบบควบคุมสั่งการที่แทบจะไม่ต้องใช้ผู้คนในการกระทำนั้นเลย วิถีชีวิตกำลังจะเปลี่ยนไป แต่การกระทำดีต่อกันอย่างไรเสียก็ต้องมาจากคนอยู่วันยังค่ำ ระบบที่ปลอดภัยที่สุดคือระบบที่เกิดจากความเมตตาเอื้อเกื้อกูลกัน ความฉลาดที่สุดมิใช่เกิดจากการคำนวนด้วยควอนตั้มคอมพิวเตอร์ที่แม่นยำที่สุด แต่ต้องมาจากหัวใจที่พร้อมรักที่สุดต่างหาก การจะทำให้ทั้งโลกอยู่ภายใต้การควบคุมด้วยระบบความรวดเร็วของดิจิตอลอัลกอริทึม ก็ไม่เท่ากับการเป็นเทวดาของกันและกัน และไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรในการเป็น เทวดาหรือนักบุญของผู้อื่น หากใจเรามีความดีอยู่เป็นนิรันดร์

ไม่มีความคิดเห็น: