วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2561

กิน เกิน แก้

กิน เกิน แก้
ทำไม ยาลดความอ้วนจึงได้ขายดี และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของคนปัจจุบันไปเสียแล้ว??? จนกระทั่งมีการผลิตยาปลอมมาหลอกลวงผู้บริโภคกันมากมาย และเพิ่งมีการตรวจสอบทลายโรงงานกัน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้มีการขายกันอย่างเปิดเผย อยู่คู่กับสังคมสมัยสื่อใหม่เลยทีเดียว มองเห็นปรากฏการณ์อันนี้แล้วมานั่งคิดว่า ในวันนี้เรากิน เราบริโภคกันเยอะแยะ เรามีของให้เลือกรับประทานเข้าไปแบบไม่จำกัด เรามีเงินที่จะจับจ่ายกันพอใช้ได้เลยทีเดียว เมื่อกินมากความอ้วนจึงมาเยือน หรืออาจจะเป็นเพราะกระแสที่อยากจะหุ่นดีเหมือนดาราที่รีวิวอาหารเสริม ยาลดความอ้วนกันแน่ ทำให้นิยมลดหุ่น แทนที่จะใช้วิธีควบคุมปริมาณอาหารแต่กลับเลือกใช้วิธีรวบรัดตัดความ ใช่หรือไม่ แค่ทานเข้าไปเท่าที่ร่างกายต้องการแค่นี้เราก็มีรูปร่างสมส่วนแล้ว 
ภาพ : อินเตอร์เน็ต
นักฟุตบอลอาชีพหลายคนแม้จะอายุมาก แต่ก็ยังรักษารูปร่างความฟิตไว้ได้ เช่น คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ เวลาเขาจะกินอะไรก็ต้องคำนวณดูว่าวันนี้จะซ้อมหรือออกกำลังกายไปกี่ชั่วโมง พลังงานจะหมดไปเท่าไร จากนั้นก็กินอาหารที่ให้พลังงานเท่าที่คำนวณออกมา เรียกว่ากินเท่าไรสูญเสียถ่ายเทออกมาเท่านั้น หลายสโมสรกีฬาในต่างประเทศก็จะทำในลักษณะนี้ เพื่อควบคุมร่างกายของนักกีฬาให้มีความสมดุลอยู่เสมอ เป็นวิทยาศาสตร์ด้านการกีฬา แต่เราไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้ เพียงแต่เราต้องรู้จักที่จะควบคุมความอยากให้เป็น อะไรที่มันมากไปมันก็จะกลายเป็นส่วนเกิน ส่วนยื่นออกมา ประจวบเหมาะกับวันหนึ่ง ๆ ร่างกายคนยุคใหม่ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว นั่งนิ่งทำงานหน้าเครื่อง มีเครื่องมือเครื่องอำนวยความสะดวกอย่างทั่วถึง แค่นึกเล่น ๆ วันหนึ่ง ๆ เราเดินกันสักกี่ก้าว ไม่ต้องพูดถึงการออกกำลังกาย แล้วสิ่งที่กินลงไปในแต่ละวันนั้นจะสะสมอยู่เท่าไร ลองดูตัวอย่างจากเรื่องนี้ เห็นภาพชัดเจนขึ้น

ภาพ : อินเตอร์เน็ต
สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่ง ได้พบกรงไก่ จึงพยายามจะสอดตัวเองผ่านซี่กรงเข้าไป แต่เป็นเพราะตัวเองอ้วนเกินไป จะสอดจะแทรกยังไงก็เข้าไม่ได้ ก็เลยใช้วิธีการอดอาหารสามวัน ให้ลำตัวเล็กลงจนสามารถสอดลำตัวเข้าไปได้ในที่สุด แต่พอหลังจากกินไก่ อิ่มแปล้แล้ว ลำตัวพองขึ้น ไม่สามารถที่จะออกจากกรงได้ ก็เลยต้องเริ่มอดอาหารอีก สามวันจึงออกจากกรงได้ ในที่สุดก็คิดได้!! จึงปลงสังเวชกับความโง่ตัวเอง ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้เป็นเพราะความอยากของปาก ที่แท้แล้วก็เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์
ชีวิตคนเราก็แปลก เร่งหาเงินมาเพื่อบริโภค เมื่อรู้ตัวอีกทีสิ่งที่เกิดขึ้นคือส่วนเกิน ก็ต้องเสียเงินเพื่อให้ส่วนเกินนั้นหายไป นอกจากนี้ในยุคสมัยใหม่เราก็เสพ บริโภคข้อมูลกันจนมากล้น มีแต่ปริมาณแต่ไร้คุณภาพ สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นส่วนเกินที่ทำให้ผู้คนเกิดอาการล้น ๆ เกิน ๆ อ่านเพียงผ่าน รู้เยอะแต่ไร้ลึก แข่งกันเพื่อโชว์มากกว่าเพื่อแชร์ ยิ่งเห็นมากยิ่งยากมาก เราจึงเห็นความขัดแย้งที่เกิดจากการเชื่อมั่นถือมั่นในข้อมูลของตนฝ่ายเดียว และยืนยันว่าความจริงนั้นคือพระเจ้าที่ใครมิอาจจะลบล้างได้ หากแม้มีใครหน้าไหนกล้าที่จะโต้แย้ง จะต้องถูกกล่าวหาอย่างไร้ความปราณี สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือความบาดหมางแบบไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อน ท้าตีท้าด่ากันไปมา และยิ่งเมื่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลมีการพัฒนาสูงมากขึ้นเท่าใด เราก็ย่อมตกเป็นเหยื่อได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น ทุกสิ่งในโลกออนไลน์ที่เราชอบดู ชอบอ่าน ชอบแชร์ ชอบกิน ชอบเที่ยว ข้อมูลเหล่านี้จะไหลหลั่งดั่งห่าพายุฝนมาให้เราเสพ ข้อมูลที่เรามีจึงกลายเป็นข้อมูลที่เราชื่นชอบเท่านั้น แล้ว...ใช่หรือไม่ ทุกสิ่งในโลกหาได้มีเพียงด้านเดียวเสมอไป สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือ โลกนี้มีหลายมิติ อย่ามองอะไรเพียงด้านเดียว
นี่จึงไม่ใช่เรื่องยากเย็น เมื่อมีฝ่ายที่เล็งเห็นช่องทาง และผลกำไรจากการชวนเชื่อในสื่อสมัยใหม่ หลอกให้กินหลอกให้ใช้ โดยไม่ได้คำนึงถึงผลเสียผลกระทบต่อผู้อื่น เป็นความเห็นแก่ตัวที่ใช้สาธารณะให้เป็นประโยชน์ เกาะกลุ่มที่รับข้อมูลด้านเดียวนี้ แล้วใส่ ๆๆๆ ข้อมูลเข้าไป จนคนรับไม่มีเวลาตั้งตัว รับๆๆๆ จนกลายเป็นความจริงแห่งตนที่มากล้นเกินแก้ ทั้ง ๆ ที่การแก้ปัญหาหลายอย่างมันง่ายนิดเดียว นั่นคือ แก้ที่ต้นตอของปัญหานั่นแหละ ดังที่มีคำพูดที่กล่าวว่า หากไม่รู้ทางออก ก็กลับมาออกตรงทางเข้า

ภาพ : อินเตอร์เน็ต
เมื่อมีมากเกินก็ต้องหาทางแก้ แล้วเราก็มักแก้แบบมักง่ายกันเสมอ ๆ การมีชีวิตสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง คือ เราต้องรักตัวเองให้เป็น หากมีความสุขกับการกินก็ต้องมีวิธีในการรักษาสุขภาพร่างกายให้ปลอดภัยจากโรคภัย รูปร่างคนเราไม่เหมือนกัน ไม่ต้องทำให้เป็นแบบบล็อกเดียวกันทั้งโลก ถัดมาคือ เรียนรู้บริโภคให้เป็นและปันสู่คนอื่น เราแม้สละเลือดเนื้อเพื่อผู้คนอื่นไม่ได้ อย่างน้อยก็สละส่วนที่เกิน ลดความมากให้ส่วนนั้นไปเยียวยาและประโยชน์ต่อผู้อื่นได้ และแม้เราจะไม่ได้เป็นวีรบุรุษที่เสียสละต่อทุกคนแต่เราก็เป็นผู้พิทักษ์รักษ์โลกด้วยตัวของเราเองได้ แล้วสันติสุขของโลกก็จะบังเกิดขึ้นจากความรู้จักพอ ไม่เกิน ไม่ขาด ไม่ต้องแก้ ไม่ต้องไข

ไม่มีความคิดเห็น: