วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

วงวารสานต่อ


วงวารสานต่อ
ในวิถีชีวิตของเราย่อมเจอะเจอกับผู้คนมากหน้าหลายตา มีการพูดคุยทักทายติดต่อสื่อสารถึงกัน ยิ่งในยุคสมัยใหม่ที่เรามีเครื่องมือสื่อสารล้ำเลิศ เรายิ่งมีการติดต่อเชื่อมโยงกันง่ายขึ้น เพราะด้วยเหตุนี้กระมัง เราจึงเชื้อเชิญ เชิญชวนให้เข้าร่วมกับกลุ่มนั้น กลุ่มนี้ ไปรับฟังสัมมนาที่นั่นที่นี่ ไปๆ มา ๆกลายเป็นเครือข่ายขายของไปเสียงั้น ทำให้เรารู้สึกว่าทำไมคนเราสมัยนี้คุยโดยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงไม่ได้หรือ!!! สังคมเปลี่ยนไปไวจนปรับตัวแทบไม่ทัน เห็นหลายคนเสียเพื่อน เลิกคบกันก็เพราะการเชิญชวนสร้างคอนเนคชั่น แบบนี่แหละ

ภาพ : อินเตอร์เน็ต
ประจวบเหมาะกับวัฒนธรรมแบบไทย ๆ เรื่องการอุปถัมภ์ค้ำชูกัน พวกใครพวกท่านด้วยแล้ววันนี้จึงเกิดการติดต่อสื่อสารแบบใหม่ที่เรียกว่าการสร้าง “Connection”(เครือข่าย วงวาร) ได้ง่ายดาย ที่ถูกกระแสผลักดันว่าทำทุกอย่าง ไปทุกที่ ประชุมสัมมนาต่าง ๆ ต้องหาคอนเนคชั่นเข้าไว้เพื่อยกระดับสู่ความสำเร็จ ในด้านหนึ่งการสร้างความสัมพันธ์แบบวงวารในด้านงดงามนั้นถือว่าเป็นการนำเอกภาพและสันติมาสู่สังคมเลยทีเดียว แต่เมื่อถูกนำมาใช้เพียงผลประโยชน์ทางธุรกิจ ที่นำแนวคิดนี้ไปใช้กันเต็มบ้านเต็มเมือง เราจึงมิได้ความจริงใจต่อกันเลย หากหวังจะสร้างความสัมพันธ์โดยยึดหลักผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง มันก็จะกลายเป็น “ผลประโยชน์ที่ต้องแลกมาด้วยผลประโยชน์” ที่เรียก วินวิน ทุกคนต่างได้ผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งอาจจะฟังดูดีในทางทฤษฎี แต่ถ้าลองมองให้ลึกลง หมายความว่า “ทุกคนไม่ช่วยเหลือใครฟรี ๆ เด็ดขาด
การสร้างมิตรภาพให้ยืนยาวแทบจะไม่มีให้เห็น ลองดูซิ...เพื่อนในโลกโซเชี่ยลมีเดียมีหลายร้อยหลายพัน แต่คุยกันส่งข่าวหากันจริง ๆ จัง ๆ หลักสิบ ทั้ง ๆ ที่ในโลกแห่งความเป็นจริงเราต่างก็ปรารถนามุ่งสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายที่มากกว่าแลกนามบัตรตามมารยาท แลกไลน์ไอดี แลกเบอร์โทร แต่ว่าบางคนเสพติดการสื่อสารเสมือนจริงนี้เกินความพอดี ใช้เวลาส่วนใหญ่เพื่อสร้างมิตรภาพเมือนจริง สุดท้าย มีแต่มิตรภาพลมๆ และภาพลักษณ์ต่างก็ปั้นแต่ง

ภาพ : อินเตอร์เน็ต
ในวงสังคมของเราถูกกระแสทำให้เหมือนสนิทสนมกับทุกคนบนโลกนี้ หลายคนพูดว่าแค่คอนเน็กชั่นดีก็มีชัย ใช่หรือไม่ มนุษย์เราเกิดมาเพื่อสร้างสัมพันธ์และรวมกลุ่มเพื่อความอยู่รอด  สมองของเราเลยจำแนกแบ่งกลุ่มคนที่เราพบเป็น ‘พวกเรา’ กับ ‘พวกเขา’ แบบอัตโนมัติ  เมื่อพบคนที่เราไว้ใจได้ว่าเป็นพวกเรา รู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยกลายเป็นเพื่อนและพวกพ้องของเรา จนกลายนำไปสู่ระบบ Connection  “เครือข่ายของคนที่ชื่นชอบ ชอบพอในความคิดและในอุปนิสัยเหมือน ๆ กัน ส่วนคนที่ไม่ถูกชะตาก็มักไม่นำพาอยากจะสนทนาพาที แต่อย่างไรเสียคนเราเมื่อถึงคราวก็ต้องยอมลดอคติ ยอมที่จะพูดคุยกัน เพื่อประสบความสำเร็จทางด้านธุรกิจบ้าง จำเป็นที่จะต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้คนบ้างเพื่อเพิ่มความมั่นคงให้กับตัวเอง
ในทุกช่วงอายุของเรานั้น เราก็จะมีผู้คนให้รู้จัก มีเพื่อนมากขึ้นแต่ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ ในแต่ละคนนั้นเป็นเช่นไร คนนั้นอาจจะเป็นคนนิสัยดีมาก ๆ จนทุกคนรักใคร่เชิดชู หลายครั้งเราไม่มีทางรู้จนกว่าจะได้ลองพูดคุย ยอมรับฟังด้วยหัวใจ มีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน เราใช้เพียงแค่ “ใจ” เท่านั้น ไม่ใช่การไปตั้งแง่ คบหาพบเจอกันในฐานะมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ๆ ถ้าบังเอิญมีโอกาสได้พบเจอคนที่เก่งกว่า ฐานะดีกว่า ก็ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องทำตัวให้เทียบเท่าเขาเหล่านั้น
สังเกตว่า ในสังคมวันนี้เราจึงมีผู้เชี่ยวชาญเต็มบ้านเต็มเมือง ต่างคนต่างก็เรียกตัวเองว่าโค้ช แล้วก็หาแนวร่วม สร้างเครือข่ายขยายความรู้ที่มีสู่การพานิชกันหมด การสร้างคอนเน็กชั่นในแบบผู้นำที่แท้จริงจึงไม่ใช่การทำเพื่อตนเอง แต่เป็นการทำเพื่อผู้อื่น ความชอบที่จะช่วยเหลือผู้อื่นจากใจจริง การรับฟังเล็ก ๆ น้อย ๆ ช่วยรักษาผลประโยชน์ด้วยความเต็มใจ เราให้ด้วยคุณค่าทางจิตใจนี่ต่างหากที่เราควรมี

ภาพ : อินเตอร์เน็ต
ในมิติทางด้านความเชื่อ เราต่างมาจากวงวารเดียวกัน แต่มีความความต่างเพื่อเพิ่มเติมให้เกิดความสมบูรณ์ และให้เราเคารพกันในฐานะลูกพระเหมือนกัน เรามีคอนเน็กชั่นเดียวกันมาตั้งแต่กำเนิด มีความเชื่อมโยงกันด้วยอัตลักษณ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่แล้ว เหตุใดเราจึงไปหยิบยกสิ่งอื่นมาเป็นตัวเชื่อมเล่า??? เราใช้เพียงแค่ปัจจัยภายในเท่านั้น อย่างการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แบ่งปันความรู้ ความถ่อมตน ยิ้มให้ผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นมีอารมณ์ขัน การพูดถึงทัศนคติที่ดีต่อตนเองและคนใกล้ชิด สิ่งเหล่านี้ล้วนสำคัญกว่าปัจจัยภายนอกมากมาย
ในวงวารที่เราร่วมในพระคริสต์เราต้องมีชีวิตที่เป็นหนึ่งเดียว เชื่อมโยงด้วยหัวใจ ไร้ผลประโยชน์ต่อกัน ใจที่พร้อมรักจะผลักดันให้เรามีชีวิตร่วมกันในสันติสุข แม้จะมีความต่างทางปัจเจก ทางจริต ทัศนคติ ทุกสิ่งเมื่อหล่อรวมเข้าด้วยกัน พระเจ้าจะสถิตกับทุกคน อย่านำเอากระแสสร้างคอนเน็กชั่นจอมปลอมมาทำให้ความสนิทสถิตสัมพันธ์ในพระเจ้าเสื่อมลงเลย วันนี้เราฉลองพระตรีเอกภาพ เป็นเครือข่ายที่นำมาสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริง มีผู้สร้าง ผู้นำและผู้กระทำโดยมีสิ่งเดียวที่เป็นสิ่งเชื่อมโยง นั่นคือ ความรัก นี่จึงเป็นวงวารที่เราต้องร่วมกันสานต่อไปชั่วลูกชั่วหลานตราบนานเท่านาน

ไม่มีความคิดเห็น: