ดวงตาสวรรค์
ตั้งใจไว้ว่าจะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการไปเยือนถิ่นตุรกีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นครั้งสุดท้าย
แต่บังเอิญว่าเรื่องที่จะเขียนในวันนี้ไปสอดรับกับของที่ระลึกชิ้นหนึ่งที่ซื้อมาเรียกว่า
“ดวงตาสวรรค์” ตามข้อมูลสิ่งนี้เป็นเครื่องรางของคนตุรกีมีความเป็นมา
5,000 กว่าปี ซึ่งนิยมใช้กันมากแถบเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก
ปัจจุบันยังพบมากในประเทศ อิตาลี กรีซ ฝรั่งเศส และหลายประเทศในยุโรป
เชื่อกันว่าเป็นเครื่องรางที่มีคุณสมบัติในการป้องกันอำนาจมืดจากสิ่งชั่วร้ายนานาประการ
ป้องกันจากนัยน์ตาปีศาจที่มุ่งร้ายคอยจับจ้อง
ป้องกันจากผู้ไม่ประสงค์ดีของผู้ที่มีไว้ครอบครอง
ดวงตาสีฟ้าแห่งตุรกี หรือดวงตาสวรรค์
หรือ นาซาร์ บองกุกู (NazarBoncugu)
ในภาษาตุรกี ที่มีความหมายถึง ดวงตาของเทพเจ้าฮอรัส
เป็นเทพเจ้าของอียิปต์ที่สำคัญมากองค์หนึ่ง ชาวอียิปต์นับถือดวงตาของเทพเจ้าฮอรัส
ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องคุ้มครอง
รวมไปถึงยังเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรอบรู้ สุขภาพดี
ที่จะช่วยขจัดปัดเป่าความชั่วร้ายและความยากจนในโลกมนุษย์ให้หมดสิ้นไป
ป้องกันความชั่วร้ายและความอิจฉาริษยาต่างๆ
จากภายนอกมาสู่ตัวเราได้ อันนี้ก็เป็นความเชื่อมาจากโบราณกาล
สำหรับเราที่ซื้อมาเพราะความสวยงามมากกว่า และในขณะที่ซื้อได้ยินชื่อ “ดวงตาสวรรค์” ทำให้คิดถึงสัญลักษณ์แห่งพยานสอดส่อง
พูดถึงดวงตาสวรรค์แล้วทำให้คิดถึงเรื่องใดบ้าง?
ความคิดแรกที่เข้ามาคือ เรื่องของกล้อง
ที่เป็นเสมือนดวงตาของคนสมัยนี้เลยทีเดียว คอยสอดส่อง จับตาบันทึกความเคลื่อนไหวของสภาพแวดล้อมประจวบเหมาะกับในช่วงนี้ที่เห็นข่าวความไร้สำนึกของคนเรา ในยุคที่เรามีอุปกรณ์สื่อเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
แต่เรานำมาใช้เพื่อปกป้องตัวเองด้วยความเห็นแก่ได้เห็นแก่ตัว สิ่งเหล่านี้แทนที่จะเป็นดวงตาสวรรค์
บางคนใช้มันเป็นดวงตาปีศาจไปเสียอย่างนั้น ทุกวันนี้เราต่างมีดวงตาเทพติดอยู่กับมือ
บางคนถือว่าเป็นอาวุธชั้นยอด บางคนเห็นว่านี่คือการได้เป็นเจ้าของสื่อด้วยตัวเอง
กล้องถ่ายทอดสดถูกพัฒนาการสามารถถ่ายทอดสดได้ทุกที่ สามารถบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ
ได้อย่างยาวนาน และเมื่อกล้องถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวถูกรวมไว้ในสมาร์ทโฟน
ทุกสิ่งมีอยู่ในเครื่องเดียว
คนจำนวนไม่น้อยจึงสนุกและคิดว่านี่เป็นโอกาสที่จะเป็นผู้นำแสดง นำเสนอเสียเอง
|
ตัวอย่างจากข่าวครอบครัวหัวร้อนที่ชกต่อยตำรวจ
แล้วอ้างว่าถูกรังแก
ใช้โทรศัพท์ถ่ายเหตุการณ์นั้นไว้ตลอดเพื่อจะเป็นเครื่องมือแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ใช้เรียกร้องความยุติธรรม และเพราะคลิปนั้นอาจจะนำไปปล่อยตามโซเชี่ยลมีเดีย
เอาแต่ส่วนที่ตัวเองถูกกระทำนำสู่ความเห็นใจ แต่ที่ไหนได้
ทุกคนต่างมีดวงตาแห่งความจริงอยู่ในมือ ต่างก็ถ่ายเหตุการณ์นั้นไว้และนำมาเปิดเผยทั้งหมด
เรื่องเลยกลับตาลปัตร คอบครัวนั้นเป็นฝ่ายหาเรื่องพร้อมทั้งแอบอ้างว่ารู้กฎหมาย
จบมาจากสถาบันนั่นนี่ เมื่อทุกอย่างถูกเปิดเผยออกมาจึงถูกสังคมประณามและขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตออกมาจนแทบจะอยู่ในสังคมไม่ได้
โทรศัพท์บางทีกลายเป็นอาวุธใช้เพื่อความยุติธรรม
แต่ต้องไม่ลืมว่าความจริงนั้นยุติธรรมเสมอ
กล้องหน้ารถเป็นดวงตาสำหรับผู้ขับขี่
ที่สามารถนำมาเป็นหลักฐานตามกฎหมายหากเกิดอุบัติเหตุ
ใครผิดใครถูกว่ากันตามภาพที่เห็น แต่บ่อยครั้งเรามักเห็นคนเราใช้อารมณ์กัน ก่อนที่จะดูหลักฐานจากกล้องที่บันทึก
เกิดเรื่องก็แสดงความยิ่งใหญ่ใส่กัน
เอากำลังเข้าสู้เพราะอาการป้องกันตัวเองมักจะเกิดขึ้นทันที และไม่รู้จักอดทนอดกลั้น
ดวงตาหน้ารถก็มิอาจจะทำไรได้ แต่ยังคงสัตย์ซื่อบันทึกความจริงต่อไป
บางครั้งกล้องของเราก็จะกลายเป็นหลักฐานว่าเราเป็นฝ่ายผิดได้เช่นกัน
นี่แหละดวงตาสวรรค์ของแท้ และถึงขนาดบริษัทประกันภัยใช้เป็นแผนการตลาด ใครติดกล้องหน้ารถจะได้ลดค่าประกัน
เพราะจะช่วยให้ทำงานได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
กล้องวงจรปิดหรือ
CCTV ซึ่งทุกวันนี้เราจะเห็นว่ามีการติดตั้งกล้องแทบจะทุกที
เพื่อป้องกันโจรขโมย แต่การขโมยก็ไม่เห็นจะลดลง ยังมีการขโมยของ ยังมีการทำผิดในทุก
ๆ ที่ ไม่เว้นกระทั่งในวัดในวา บางทีพวกที่มีนิสัยขี้ขโมยก็ปรับตัวเก่ง
มักจะหามุมซอกหลืบหลบเลี่ยงมุมกล้อง หรือ บางคนแสนรู้หาทางปิดหน้ากล้อง
แอบหันกล้องไปทางอื่น แม้จะมีกล้องมากมายก็มิอาจจะทำให้หัวขโมยรู้สำนึกได้ ก็คนมันคิดจะเอาของคนอื่น
ต่อให้มีอะไรมาขวางกั้นก็มิหวั่น บาปกรรมยังไม้กลัวเกรง เพราะไร้หัวใจ ไร้จิตวิญญาณ
ไร้สำนึก
ใช่หรือไม่
ตอนเด็ก ๆ เรามักถูกสอนว่าพระเจ้ามองเห็นและรู้ทุกสิ่งที่เรากระทำ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย
อย่าคิดว่าไม่มีใครเห็นการกระทำของเรา เรียกว่ามีดวงตาสวรรค์
คอยสอดส่องดูแลเพื่อให้เรารู้ตัว
และยังให้เครื่องบันทึกที่มีระบบตักเตือนตนยามที่ก้าวไปในหนทางที่ผิดพลาด
ที่เรียกว่า จิตสำนึก วิจารณญาณ
วันนี้เราได้ทำให้ผู้ที่เฝ้ามองเราอยู่ทุกวี่วันได้ภาคภูมิใจอะไรในตัวเราบ้าง
ที่สุดองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ใช้หลักฐานอันใดมาลงโทษเรา ดวงตาสวรรค์ที่มองลงมายังเรามีแต่ความรักและอภัยให้เราเสมอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น