วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เรียน (เลียน) คำสอนพ่อ ๘

เรียน (เลียน) คำสอนพ่อ ๘



บทที่ ๘ ความซื่อสัตย์
                 “ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง เด็ก ๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง”  (พระบรมราโชวาท พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็ก ปีพุทธศักราช ๒๕๓๑)
                 หลายสิบปีที่ผ่านมากระแสโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทุกสังคมหันไปบูชาคนมีทรัพย์สมบัติ จนกระทั่งมีความคิดกันว่า “คนรวย คือ คนดีที่น่ายกย่อง” โดยมิได้คำนึงถึงที่มาของความร่ำรวยหรือการได้ครอบครองที่มากกว่าคนอื่น คนที่ทำมาหาเลี้ยงชีพโดยขยัน สุจริต ไม่เอาเปรียบใครและได้มาซึ่งผลตอบแทนมากมาย คนแบบนี้ต่างหากที่น่ายกย่องสรรเสริญ แต่นั่นแหละด้วยความฉาบฉวยเพียงแค่เห็นคนมีฐานะหน่อยก็เหมารวมว่าเป็นคนดี จึงเป็นที่มาของผู้คนที่อยากจะมีคนนับหน้าถือตา จึงทำทุกอย่าง ให้มีมาก ๆ โดยไม่สนใจถึงวิธีการว่าบริสุทธิ์หรือไม่ ความซื่อสัตย์ต่อตัวเองกลายเป็นสิ่งตายด้านในหัวใจของผู้คน เหลือแต่ความเห็นแก่ได้เห็นแก่ตัว จนที่สุดสังคมโลกเริ่มแพ้ภัยตัวเอง คนที่เคยถูกยกย่องกลับถูกปลด ถูกไล่อย่างน่ารังเกียจ คุณธรรมความซื่อสัตย์กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สังคมโลกเริ่มหันมาใส่ใจและเรียกร้องมากยิ่งขึ้น
                 จริง ๆ แล้ว “ความซื่อสัตย์” เป็นหัวใจสำคัญของทุกอย่างในการดำเนินชีวิต เป็นสิ่งชี้นำทุกความคิดและทัศคติจริตของเรา เป็นสิ่งบ่งบอกเพื่อให้เป็นที่ยอมรับนับถือและไว้วางใจ  เป็นที่น่าคบหาสมาคมด้วย  ถ้าขาดความซื่อสัตย์จะกลายเป็นคนไม่น่าคบหา  เป็นที่ระแวงแคลงใจของคนรอบข้างและผู้ผ่านพบ ไม่ว่าโลกจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย ผ่านการเปลี่ยนแปลงระบบต่างๆ มาอย่างนับครั้งไม่ถ้วน บางสิ่งล่มสลายหายไป แต่ผู้ปฏิบัติตนด้วยความซื่อสัตย์ก็มักจะมีความเจริญก้าวหน้าทั้งด้านส่วนตัว การประกอบอาชีพ   การสังคม  พูดให้เห็นภาพแบบง่ายขึ้น ความซื่อสัตย์ก็คือการทำอะไรตรงไปตรงมา จริงใจ   ไม่คิดคดทรยศ   ไม่โกง   ไม่หลอกลวง
                 ในหลวง พ่อที่รักยิ่งของเราช่วยไทย พระองค์ท่านเป็นกษัตริย์ที่ยึดถือความซื่อสัตย์เป็นอย่างยิ่ง หลายครั้งหลายเวลาได้ตรัสกับพวกเราเน้นย้ำเรื่องนี้ตลอดมา และทรงเป็นตัวอย่างของ ความซื่อสัตย์ตลอดพระชนม์ชีพ มีเรื่องบันทึกอยู่มากมาย เช่น ครั้งหนึ่งในการแข่งขันเรือใบ  ทรงเรือใบออกจากฝั่งไปได้ไม่นานก็ทรงแล่นกลับฝั่ง และตรัสกับผู้ที่คอยมาเฝ้าฯว่า ที่เสด็จกลับเข้าฝั่งเพราะเรือแล่นไปโดนทุ่นเข้า ซึ่งในกติกาแข่งเรือใบถือว่าผิดกติกา(ฟาวส์)ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครเห็น หากไม่ทรงบอกใคร ก็ไม่มีใครทราบ การแข่งก็ดำเนินต่อไปได้ และท่านอาจจะเป็นผู้ชนะก็ได้ แต่ก็ทรงยึดตามกติกาทุกอย่าง ทำตามกติกาทุกประการ เอาความซื่อสัตย์เป็นที่ตั้ง เพื่อให้การแข่งนั้นยุติธรรม
                 ในอดีตที่ผ่านมาในหลาย ๆ องค์กร ห้างร้านมักจะสรรหาบุคลากรที่มีความเก่งเป็นหลัก ความขยันและซื่อสัตย์เป็นรอง นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าเทคโนโลยียังไม่ทันสมัยเหมือนอย่างในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องอาศัยคนที่มีความรู้หรือมีทักษะมีความชำนาญมาทำงานให้  เมื่อความเจริญทางวัตถุ เทคโนโลยีสูงขึ้นเรื่อย ๆ มีการพัฒนานาทีต่อนาทีจึงทำให้ง่ายในการเข้าถึงข้อมูล แลกเปลี่ยนความรู้ และทักษะกันได้ง่ายขึ้น จึงเห็นชัดขึ้นว่าความซื่อสัตย์เป็นความสำคัญลำดับแรก ๆ ที่ทุกองค์กร หน่วยงานต่าง ๆ ได้ให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้ ก็เห็นข่าว ๆ หนึ่งตามหน้าสื่อสมัยใหม่ เป็นข่าวที่น่าชื่นชมของนักร้องขวัญใจวัยรุ่น หนุ่มตูน อาทิวราห์ คงมาลัย หลังจากวิ่งจบรายการก้าวคนละก้าว 400 กิโลเมตร เพื่อหารายได้ช่วยเหลือโรงพยาบาลที่บางสะพาน และได้รับเงินร่วมบริจาคเป็นจำนวนมาก แต่เขายังคงออกไปวิ่งระยะทาง 27 กิโลเมตร ซึ่งหลายคนคิดว่าเป็นการออกกำลังกายตามปกติ แต่เขาบอกว่า “เพราะตอนที่เข้าเส้นชัยที่โรงพยาบาล ดูที่นาฬิกามันไม่ครบระยะ 400 กม. อย่างที่บอกไว้ว่ากรุงเทพ บางสะพาน 400 กม. มันขาดอีกประมาณ 27 กม. เลยต้องมาวิ่งให้ครบ 400 กม.” เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งเมล็ดพันธุ์ความซื่อสัตย์กำลังงอกงามในแผ่นดินไทย

 ภาพ : http://pantip.com/topic/33703431

“ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญเพราะหากขาด ความซื่อสัตย์ที่ว่านี้ รวมไปถึงการมี สัจจะ พูดจริงทำจริง ไม่โกหกหรือพูดเหลวไหล พูดคำไหนเป็นคำนั้นด้วย คนเช่นนี้ไปที่ใด ย่อมเป็นที่เคารพนับถือว่าเป็นคนมีเกียรติ และถ้าทุกคนทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ก็ย่อมจะทำให้สังคม และประเทศชาติมีความมั่นคง สงบสุข
“ความซื่อสัตย์” เป็นคุณธรรมที่จำเป็นต่อทุกสังคม ไม่ว่าจะเป็นความซื่อสัตย์ในระดับตัวเอง ระดับครอบครัว ในที่ทำงานและระดับประเทศชาติ เราต้องร่วมกันปลูกฝัง สอนเยาวชนคนรุ่นหลังให้ประพฤติปฏิบัติจนกลายเป็นนิสัยประจำชาติให้ได้ เพราะหากคนในสังคมขาดคุณธรรมนี้เมื่อใด ก็จะวุ่นวาย ไม่สงบ ผู้คนก็จะเอารัดเอาเปรียบกันและเห็นแก่ตัวมากขึ้น จนก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาอีกมากมาย เราอยากจะเห็นประเทศชาติเป็นอย่างนั้นอีกหรือ!!

            เพราะฉะนั้น ถ้าท่านไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องเงินทองของโลกธรรมแล้ว ผู้ใดจะวางใจมอบสมบัติแท้จริงให้ท่านดูแลเล่า”     (ลก 16:11)...

ไม่มีความคิดเห็น: