วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เก้าอี้ตัวนั้น

เก้าอี้ตัวนั้น
วันเวลาเดินมาอย่างรวดเร็ว ผ่านมาครึ่งปีแล้ว ผ่านแดดที่ร้อนจ้า ฟ้าฝนกำลังมา แล้วที่ผ่านมา เราเคยแหงนหน้ามองท้องฟ้ามองไปไกล ๆ จากตัวเราออกไปมากน้อยสักเพียงใด หรือเพียงแต่ก้มหน้าก้มตาหาเงิน จนลืมมองดูสิ่งรอบ ๆ ที่ผ่านเข้ามาแล้วผ่านไป ใช่หรือไม่ นอกจากเงินทองทรัพย์สมบัติภายนอกที่เราใฝ่ฝัน ดิ้นรนค้นหามาครอบครองกันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คนในยุคเรา ยุคสมัยใหม่ต้องการเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จก็คือ ตำแหน่ง โดยมีสัญลักษณ์ “เก้าอี้” ที่ต่างคนต่างยื้อแย่งกันเหมือนกับกำลังเล่นเก้าอี้ดนตรี ที่พยายามแข่งกันยึดเก้าอี้ตัวนั้นมาเป็นของเราให้ได้ เวลาที่เรายึดติดอยู่กับสิ่งต่าง ๆ ใจเราก็จะมีความห่วง มีความกังวลคอยคิดอยู่เรื่อยว่า สิ่งต่าง ๆ ที่เรารัก ที่เราชอบ ยังอยู่กับเราหรือเปล่าแล้วจะอยู่กับเราไปได้นานสักแค่ไหน เรื่องเหล่านี้นั้นล้วนเป็นการสร้างความเครียด สร้างความวิตก สร้างความกังวล ทำให้ใจไม่สงบไม่นิ่ง สิ่งนี้แหละที่เรียกกันว่า “ความหลง

บางคนหลงใหลในตำแหน่งแห่งหนต้องมีคำนำหน้าชื่อ ต้องมีการระบุตำแหน่ง ยศ ระดับ โดยลืมไปว่าในตำแหน่งนั้นได้บ่งบอกถึงความรับผิดชอบ ต้องทำภาระหน้าที่หนักและมากกว่าคนอื่น หาใช่เป็นเพียงเครื่องบ่งบอกถึงการมีอำนาจเหนือคนอื่นเท่านั้น หลายคนเสพสิ่งเหล่านี้ถึงกับต้องมีเก้าอี้ให้นั่งหลาย ๆ ตัว หลาย ๆ ที่ เมื่อมีแล้วก็ไม่ปล่อยให้ใครเข้ามานั่งแทนที่ได้ง่าย ๆ แม้จะต้องปล่อยให้เก้าอี้นั้นว่าง นาน ๆ ถึงจะมาใช้มานั่งสักครั้งหนึ่ง ก็ไม่ยอมสละเพราะคิดว่ามีแต่เพียงตัวเองเท่านั้น ที่เหมาะสมกับ “เก้าอี้ตัวนี้”
ในชีวิตจริงของเราแต่ละคนย่อมมีภาระหน้าที่ มีเก้าอี้ประจำกันด้วยทุกคน บางคนอาจจะเป็นเก้าอี้หลุยส์อย่างแพง บางคนเป็นเพียงเก้าอี้พลาสติก เก้าอี้หวาย ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แต่สาระมันอยู่ตรงที่เราใช้เก้าอี้ตัวนั้นอย่างคุ้มค่าหรือยัง ใช้เก้าอี้ตัวนั้นตามความสามารถเพื่อก่อประโยชน์สุขครบถ้วนหรือไม่ หรือว่า... เราปล่อยเก้าอี้นั้นให้ว่าง ตากแดด ตากลม ตากฝน ไม่สนใจต่อภาระหน้าที่ของเรา โดยกระทั่งไม่รู้ว่า “เราเป็นใคร” เพราะมัวแต่ออกไปแสวงหาเก้าอี้ตัวใหม่ ตัวใหญ่กว่าเดิมอยู่ร่ำไป เรามิได้นำพาสิ่งที่เราเป็น มิได้สำนึกในสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบต่อการดำรงชีวิต
ในอีกมุมหนึ่งในบางครั้งตำแหน่ง ภาระหน้าที่เก้าอี้ที่เราได้มานั้น หากเราไม่นั่ง หากเราไม่สามารถจะทำหน้าที่หรือทำแล้วทำไม่เต็มที่ เราก็ต้องรู้จักที่จะถอย ต้องรู้จักที่จะมอบหมายให้ผู้อื่นได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ดีกว่าปล่อยให้ว่าง ๆ ยังมีคนที่คู่ควร ยังมีคนที่ขาดแคลนที่นั่ง ใช่หรือไม่ บางครั้งเรายึดมั่นถือมั่นจนหลงลืมว่า โลกนี้ยังมีคนต้องการสิ่งที่เราเหลือกินเหลือเก็บเหลือใช้อีกเป็นจำนวนมาก ความทุกข์ทั้งหลายทั้งมวลเกิดจากความยึดติดยึดติดปัญหาต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตที่สำคัญคือ การยึดติดในตัวตนโดยไม่รู้ตัวเป็นอันตรายอย่างยิ่ง วันใดที่เรารู้ว่าเราเป็นใคร แล้วควรทำอะไร อย่าเอาความหลงนำพาชีวิต เลือกและใช้เก้าอี้ให้ถูกที่ถูกเวลา สันติสุขในใจคือสิ่งที่ตามมา ในเวลาที่เราได้นั่งอยู่ตรงนั้น....
วันเวลาเดินมาอย่างรวดเร็ว ผ่านมาครึ่งปีแล้ว ผ่านแดดที่ร้อนจ้า ฟ้าฝนกำลังมา แล้วที่ผ่านมา เราเคยแหงนหน้ามองท้องฟ้ามองไปไกล ๆ จากตัวเราออกไปมากน้อยสักเพียงใด หรือเพียงแต่ก้มหน้าก้มตาหาเงิน จนลืมมองดูสิ่งรอบ ๆ ที่ผ่านเข้ามาแล้วผ่านไป ใช่หรือไม่ นอกจากเงินทองทรัพย์สมบัติภายนอกที่เราใฝ่ฝัน ดิ้นรนค้นหามาครอบครองกันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คนในยุคเรา ยุคสมัยใหม่ต้องการเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จก็คือ ตำแหน่ง โดยมีสัญลักษณ์ “เก้าอี้” ที่ต่างคนต่างยื้อแย่งกันเหมือนกับกำลังเล่นเก้าอี้ดนตรี ที่พยายามแข่งกันยึดเก้าอี้ตัวนั้นมาเป็นของเราให้ได้ เวลาที่เรายึดติดอยู่กับสิ่งต่าง ๆ ใจเราก็จะมีความห่วง มีความกังวลคอยคิดอยู่เรื่อยว่า สิ่งต่าง ๆ ที่เรารัก ที่เราชอบ ยังอยู่กับเราหรือเปล่าแล้วจะอยู่กับเราไปได้นานสักแค่ไหน เรื่องเหล่านี้นั้นล้วนเป็นการสร้างความเครียด สร้างความวิตก สร้างความกังวล ทำให้ใจไม่สงบไม่นิ่ง สิ่งนี้แหละที่เรียกกันว่า “ความหลง
บางคนหลงใหลในตำแหน่งแห่งหนต้องมีคำนำหน้าชื่อ ต้องมีการระบุตำแหน่ง ยศ ระดับ โดยลืมไปว่าในตำแหน่งนั้นได้บ่งบอกถึงความรับผิดชอบ ต้องทำภาระหน้าที่หนักและมากกว่าคนอื่น หาใช่เป็นเพียงเครื่องบ่งบอกถึงการมีอำนาจเหนือคนอื่นเท่านั้น หลายคนเสพสิ่งเหล่านี้ถึงกับต้องมีเก้าอี้ให้นั่งหลาย ๆ ตัว หลาย ๆ ที่ เมื่อมีแล้วก็ไม่ปล่อยให้ใครเข้ามานั่งแทนที่ได้ง่าย ๆ แม้จะต้องปล่อยให้เก้าอี้นั้นว่างนาน ๆ ถึงจะมาใช้มานั่งสักครั้งหนึ่ง ก็ไม่ยอมสละเพราะคิดว่ามีแต่เพียงตัวเองเท่านั้น ที่เหมาะสมกับ “เก้าอี้ตัวนี้”
ในชีวิตจริงของเราแต่ละคนย่อมมีภาระหน้าที่ มีเก้าอี้ประจำกันด้วยทุกคน บางคนอาจจะเป็นเก้าอี้หลุยส์อย่างแพง บางคนเป็นเพียงเก้าอี้พลาสติก เก้าอี้หวาย ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แต่สาระมันอยู่ตรงที่เราใช้เก้าอี้ตัวนั้นอย่างคุ้มค่าหรือยัง ใช้เก้าอี้ตัวนั้นตามความสามารถเพื่อก่อประโยชน์สุขครบถ้วนหรือไม่ หรือว่า... เราปล่อยเก้าอี้นั้นให้ว่าง ตากแดด ตากลม ตากฝน ไม่สนใจต่อภาระหน้าที่ของเรา โดยกระทั่งไม่รู้ว่า “เราเป็นใคร” เพราะมัวแต่ออกไปแสวงหาเก้าอี้ตัวใหม่ ตัวใหญ่กว่าเดิมอยู่ร่ำไป เรามิได้นำพาสิ่งที่เราเป็น มิได้สำนึกในสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบต่อการดำรงชีวิต

ในอีกมุมหนึ่งในบางครั้งตำแหน่ง ภาระหน้าที่เก้าอี้ที่เราได้มานั้น หากเราไม่นั่ง หากเราไม่สามารถจะทำหน้าที่หรือทำแล้วทำไม่เต็มที่ เราก็ต้องรู้จักที่จะถอย ต้องรู้จักที่จะมอบหมายให้ผู้อื่นได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ดีกว่าปล่อยให้ว่าง ๆ ยังมีคนที่คู่ควร ยังมีคนที่ขาดแคลนที่นั่ง ใช่หรือไม่ บางครั้งเรายึดมั่นถือมั่นจนหลงลืมว่า โลกนี้ยังมีคนต้องการสิ่งที่เราเหลือกินเหลือเก็บเหลือใช้อีกเป็นจำนวนมาก ความทุกข์ทั้งหลายทั้งมวลเกิดจากความยึดติดยึดติดปัญหาต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตที่สำคัญคือ การยึดติดในตัวตนโดยไม่รู้ตัวเป็นอันตรายอย่างยิ่ง วันใดที่เรารู้ว่าเราเป็นใคร แล้วควรทำอะไร อย่าเอาความหลงนำพาชีวิต เลือกและใช้เก้าอี้ให้ถูกที่ถูกเวลา สันติสุขในใจคือสิ่งที่ตามมา ในเวลาที่เราได้นั่งอยู่ตรงนั้น....

ไม่มีความคิดเห็น: