วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ว่างเปล่าจริงหรือเปล่า

ว่างเปล่าจริงหรือเปล่า
เมื่อเร็วๆ นี้มีผลสำรวจออกมาว่าคนไทยเราใช้สื่อโซเชี่ยลติดอันดับหนึ่งของเอเชีย และตามสถิติคนไทยใช้มือถือกว่า 54 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สิ่งที่คนไทยชอบใช้มากที่สุดคือ เฟสบุ๊ค เพราะชอบการคอมเมนท์ใต้โพสต์ เนื่องจากมันง่าย ไม่ซับซ้อน และสามารถที่จะวิจารณ์ว่าร้ายใครโดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็ได้ (มี พรบ.คอมพิวเตอร์) สามารถที่จะโชว์ภูมิ อวดรู้ได้อย่างมิต้องเกรงใจใคร เราเห็นผู้คนก้มหน้าลงแต่ไม่ใช่เพื่อแสดงความอ่อนน้อม เราเห็นผู้คนสนใจคนอื่นมากกว่าคนรู้จักมักคุ้น เราเห็นคนกล้ามากมายแต่ให้ตายแทนคงไม่มี เราเห็นคนที่มุ่งมั่นในหน้าจอแต่ไม่พบคนจริงใจในชีวิตจริง เราเห็นคนแสดงออกผ่านทางตัวอักษรมากกว่าการแสดงความรับผิดชอบในทุกเรื่องราว
http://petmaya.com/wp-content/uploads/2015/05/death-of-conversation-14.jpg

ดูเหมือนสังคมยุคใหม่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ ดูไปดูมาเราพบแต่ความว่างเปล่า ไม่ใช่ความว่างเปล่าเพื่อที่จะยอมรับ แต่เป็นความว่างเปล่าตรงกลางกลวงที่ปิดมิดชิดทุกด้าน และในความว่างเปล่านั้นต่างคนต่างตะโกนแข่งขัน เพื่อประชัน เพื่อโอ้อวด เราจึงเห็นการโต้เถียงกันในความเงียบ แทนที่เราจะพบความสงบในความเงียบ ใช่หรือไม่ ในสมัยหนึ่งคนที่รู้น้อยมักใช้เสียงที่ดังเข้าข่ม มาสมัยนี้คนที่รู้น้อยมักใช้อักษรสารวาทกรรมสวยหรูเพื่อดูถูกผู้อื่น
ท่านผู้เฒ่าเคยเล่าให้ฟังว่า  ช่วงเวลาสายของวันหนึ่ง  มีคุณพ่อท่านหนึ่งชวนลูกชายออกจากบ้านไปเดินเล่นในป่า ลูกชายของเขารับปากด้วยความยินดี   เมื่อเดินมาถึงทางโค้งแห่งหนึ่ง   ทั้งสองได้หยุดลง หลังจากต่างเงียบไปชั่วครู่
คุณพ่อถามลูกชายว่า “นอกจากเสียงร้องของนกแล้ว เธอยังได้ยินเสียงอะไรอีก” ลูกชายเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจหลายวินาที แล้วตอบคุณพ่อว่า “ผมได้ยินเสียงของรถม้า” คุณพ่อพูดว่า “ถูกต้อง นั่นเป็นรถม้าเปล่าคันหนึ่ง” ลูกชายถามคุณพ่อด้วยความประหลาดใจว่า “พวกเราต่างมองไม่เห็น   ท่านรู้ได้อย่างไรว่าเป็นรถม้าเปล่าคันหนึ่ง” คุณพ่อตอบว่า “ฟังจากเสียงก็สามารถแยกแยะว่าเป็นรถม้าเปล่าหรือไม่   รถม้าเปล่าเสียงจะดังผิดปกติ”
ต่อมา...ลูกชายของเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่  ทุกครั้งที่เขาเห็นใครก็ตามที่พูดสอดแทรกขึ้นมา  ระหว่างที่คนอื่นกำลังพูดคุยสนทนาอยู่   อวดอ้างตนเป็นผู้รู้   ไม่เห็นผู้อื่นอยู่ในสายตา    อีกทั้งยังดู แคลนคนอื่น เขามักจะรู้สึกว่าคล้ายดั่งคุณพ่อพูดอยู่ข้างหูของเขาว่า
“รถม้าที่ว่างเปล่า เสียงก็จะยิ่งดัง” เครดิต Niwat Rungvicha


คนรู้จริงมักไม่ค่อยพูด และใช้เวลาในการไตร่ตรองกรองคำพูดทั้งของตัวเองและของผู้อื่น พูดคุยกับผู้อื่นด้วยจิตใจที่สงบ และอารมณ์ที่ราบเรียบปกติ  หลีกเลี่ยงการโต้เถียง และที่สุดมีภูมิต้านทานไม่พ่ายแพ้ต่อการผจญในสังคมได้ง่าย ๆ รับรู้ข่าวสารด้วยใจที่เป็นกลาง ใช้เวลาทุกนาทีอย่างคุ้มค่า มีเวลาสำหรับสวดภาวนามากกว่านั่งจิ้มกดบนหน้าจอไปวันๆ ใช้เสียงภายในสยบเสียงภายนอก มีจิตใจที่ปล่อยวาง ไม่ใช่ปล่อยใจให้ว่างเปล่า....

ไม่มีความคิดเห็น: