ว่างเปล่าจริงหรือเปล่า
เมื่อเร็วๆ
นี้มีผลสำรวจออกมาว่าคนไทยเราใช้สื่อโซเชี่ยลติดอันดับหนึ่งของเอเชีย และตามสถิติคนไทยใช้มือถือกว่า
54 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สิ่งที่คนไทยชอบใช้มากที่สุดคือ เฟสบุ๊ค
เพราะชอบการคอมเมนท์ใต้โพสต์ เนื่องจากมันง่าย ไม่ซับซ้อน
และสามารถที่จะวิจารณ์ว่าร้ายใครโดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็ได้ (มี
พรบ.คอมพิวเตอร์) สามารถที่จะโชว์ภูมิ อวดรู้ได้อย่างมิต้องเกรงใจใคร เราเห็นผู้คนก้มหน้าลงแต่ไม่ใช่เพื่อแสดงความอ่อนน้อม
เราเห็นผู้คนสนใจคนอื่นมากกว่าคนรู้จักมักคุ้น เราเห็นคนกล้ามากมายแต่ให้ตายแทนคงไม่มี
เราเห็นคนที่มุ่งมั่นในหน้าจอแต่ไม่พบคนจริงใจในชีวิตจริง
เราเห็นคนแสดงออกผ่านทางตัวอักษรมากกว่าการแสดงความรับผิดชอบในทุกเรื่องราว
http://petmaya.com/wp-content/uploads/2015/05/death-of-conversation-14.jpg |
ดูเหมือนสังคมยุคใหม่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ ดูไปดูมาเราพบแต่ความว่างเปล่า ไม่ใช่ความว่างเปล่าเพื่อที่จะยอมรับ
แต่เป็นความว่างเปล่าตรงกลางกลวงที่ปิดมิดชิดทุกด้าน
และในความว่างเปล่านั้นต่างคนต่างตะโกนแข่งขัน เพื่อประชัน เพื่อโอ้อวด เราจึงเห็นการโต้เถียงกันในความเงียบ
แทนที่เราจะพบความสงบในความเงียบ ใช่หรือไม่ ในสมัยหนึ่งคนที่รู้น้อยมักใช้เสียงที่ดังเข้าข่ม
มาสมัยนี้คนที่รู้น้อยมักใช้อักษรสารวาทกรรมสวยหรูเพื่อดูถูกผู้อื่น
ท่านผู้เฒ่าเคยเล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลาสายของวันหนึ่ง
มีคุณพ่อท่านหนึ่งชวนลูกชายออกจากบ้านไปเดินเล่นในป่า
ลูกชายของเขารับปากด้วยความยินดี เมื่อเดินมาถึงทางโค้งแห่งหนึ่ง ทั้งสองได้หยุดลง หลังจากต่างเงียบไปชั่วครู่
คุณพ่อถามลูกชายว่า
“นอกจากเสียงร้องของนกแล้ว เธอยังได้ยินเสียงอะไรอีก” ลูกชายเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจหลายวินาที
แล้วตอบคุณพ่อว่า “ผมได้ยินเสียงของรถม้า” คุณพ่อพูดว่า “ถูกต้อง
นั่นเป็นรถม้าเปล่าคันหนึ่ง” ลูกชายถามคุณพ่อด้วยความประหลาดใจว่า
“พวกเราต่างมองไม่เห็น
ท่านรู้ได้อย่างไรว่าเป็นรถม้าเปล่าคันหนึ่ง” คุณพ่อตอบว่า
“ฟังจากเสียงก็สามารถแยกแยะว่าเป็นรถม้าเปล่าหรือไม่ รถม้าเปล่าเสียงจะดังผิดปกติ”
ต่อมา...ลูกชายของเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ทุกครั้งที่เขาเห็นใครก็ตามที่พูดสอดแทรกขึ้นมา ระหว่างที่คนอื่นกำลังพูดคุยสนทนาอยู่ อวดอ้างตนเป็นผู้รู้ ไม่เห็นผู้อื่นอยู่ในสายตา อีกทั้งยังดู แคลนคนอื่น เขามักจะรู้สึกว่าคล้ายดั่งคุณพ่อพูดอยู่ข้างหูของเขาว่า
“รถม้าที่ว่างเปล่า
เสียงก็จะยิ่งดัง” เครดิต Niwat
Rungvicha
คนรู้จริงมักไม่ค่อยพูด
และใช้เวลาในการไตร่ตรองกรองคำพูดทั้งของตัวเองและของผู้อื่น
พูดคุยกับผู้อื่นด้วยจิตใจที่สงบ และอารมณ์ที่ราบเรียบปกติ หลีกเลี่ยงการโต้เถียง
และที่สุดมีภูมิต้านทานไม่พ่ายแพ้ต่อการผจญในสังคมได้ง่าย ๆ รับรู้ข่าวสารด้วยใจที่เป็นกลาง
ใช้เวลาทุกนาทีอย่างคุ้มค่า มีเวลาสำหรับสวดภาวนามากกว่านั่งจิ้มกดบนหน้าจอไปวันๆ
ใช้เสียงภายในสยบเสียงภายนอก มีจิตใจที่ปล่อยวาง ไม่ใช่ปล่อยใจให้ว่างเปล่า....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น