พลังหายไปไหน
เกือบทั้งร้อยเกือบทุกคนที่มีกิจวัตรใหม่ที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวนั่นคือก่อนเข้านอนก่อนล้มตัวลงนอนต้องเสียบชาร์จแบตเตอรี่มือถือเพื่อให้ตื่นเช้าขึ้นมามีพลังงานเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
และในทุกเช้าเราลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับหยิบมันขึ้นมาดูว่าแบตเตอรี่พร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วหรือไม่
หากวันไหนลืมเสียบหรือเสียบแล้วไฟไม่เข้า เช้านั้นจะเป็นอะไรที่หงุดหงิดมากบางคนยังไม่พอเท่านั้นในระหว่างวันระหว่างทางต้องมีแบตเตอรี่สำรองพาวเวอร์แบงค์บางเครื่องก็ใหญ่พอๆ
กับสมาร์ทโฟนเลยทีเดียวใช่หรือไม่เราให้ความสำคัญกับเครื่องมือสื่อสารเครื่องมือแก้เหงาของเราอย่างยิ่งจนทำให้เราหลงลืมบางสิ่งบางอย่างไปนั่นคือพลังชีวิตที่หดหายไป
เราคิดที่จะชาร์จ ที่จะปลุกที่จะต่อเติมเพิ่มให้มีขึ้นในทุกเช้าวันใหม่หรือไม่
ภาพ : http://cms.toptenthailand.net/file/journal/20160602142212448/20160602142212448_thumb.jpg |
หากพิจารณาดูพลังชีวิตของเรามีอยู่ 2
ส่วนด้วยกัน คือ พลังภายนอกและภายใน ทั้งสองนี้จะประสานสอดคล้องกัน ในวันที่เราหมดพลังกายก็จะเป็นวันที่จิตใจห่อเหี่ยว
เป็นวันที่เครียด กังวล ในวันนั้นร่างกายก็อ่อนล้า ไม่สดชื่น
จะทำการงานทำสิ่งใดดูจะไม่ราบรื่น วิธีการที่จะช่วยให้เพิ่มพลังที่หายไป ดึงความมีชีวิตชีวากลับมาแบบง่าย
ๆ ได้ก็คือการปรับเปลี่ยนสีหน้าท่าทางต้องเปลี่ยนจากข้างใน หยุดคิดถึงสิ่งที่ทำให้เครียด
กังวล และยิ้มรับกับทุกสถานการณ์ในชีวิตให้ได้มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่สีหน้าท่าทางของเราดูเครียด
ดูเศร้า ดูกังวล ถ้าข้างในของเราคิดถึงเรื่องที่มีความสุขและความทรงจำที่ดี
ภาพ : https://www.beartai.com/wp-content/uploads/2015/09/S__9650178.jpg |
และส่วนที่สำคัญสุดคือพลังภายในที่เรามักจะมองข้ามผ่านไป
พลังกายที่หายไปก็มาจากพลังใจเหือดแห้ง
มีหลายหลากวิธีที่เราจะสร้างพลังใจให้กลับคืนมา เช่น การออกไปเที่ยวในสถานที่ธรรมชาติที่เราชื่นชอบและใช้เวลาชื่นชมธรรมชาติจะทำให้เรามีพลังชีวิตที่เพิ่มขึ้น
การล่องเรือชมธรรมชาติการเดินป่า การดูนก การดูดอกไม้ที่สวยงาม การมาวัดฟังมิสซาในทุกวันอาทิตย์อย่างตั้งใจ
มาสวดภาวนา มาสัมผัสกับความเงียบสงบบ้าง ก็จะทำให้เรามีพลังชีวิตที่เพิ่มขึ้น การทำบุญและทำทานให้ให้แก่ผู้ขาดแคลน
โดยหวังให้เขามีความสุขและพ้นทุกข์จะทำให้เรามีพลังชีวิตเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ยิ่งเฉพาะในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมการช่วยเหลือคนพิการคนป่วยด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งก็จะทำให้เรามีพลังชีวิตเพิ่มมากขึ้น
การชมเชยตนเองในสิ่งที่เราทำความดีในเรื่องต่าง ๆ และไม่ตำหนิตนเองในเรื่องที่เราทำดีที่สุดแล้ว
แต่ผลลัพธ์ยังไม่ได้ตามเป้าหมาย นี่ก็เป็นการเรียกคืนพลังชีวิตให้กลับคืนมา การทำสิ่งดี
ๆ เพื่อตอบแทนบุคคลผู้มีพระคุณต่อเราอย่างสม่ำเสมอ การเสียสละประโยชน์ตนเองเพื่อผู้อื่นหรือเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
เช่น การมีจิตอาสาทำประโยชน์เพื่อสังคมในเรื่องต่าง ๆการขอโทษผู้อื่นในสิ่งที่เราทำผิดพลาดและหาทางแก้ไขหรือกระทำบางอย่างเพื่อแสดงความรับผิดชอบในความผิดพลาดที่เราทำไป
ล้วนแต่จะทำให้เรามีพลังชีวิตที่สูงขึ้น
มีอีกหลายวิธีที่เราจะทำให้พลังชีวิตที่หายไปกลับคืนมาได้
ในยุคที่เราให้ความสำคัญกับพลังงานเพื่อเครื่องไม้เครื่องมืออย่างที่สุด
เราก็ต้องไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับพลังชีวิตเรา ต้องรู้จักที่จะเติมพลังอยู่เสมอ
เพราะทุกวันเวลาเราต้องก้าวหน้าต่อไป โดยไม่มีการหยุดย่ำอยู่กับที่
แล้ววันนี้เราได้ก้าวหน้ามาไกลมากน้อยเพียงใด การเป็นลูกของพระถูกปล่อยปละละเลย
เฉยชา ไปมากน้อยแค่ไหน หากเรามีเวลาพักตรองสักหน่อย
วัดระดับพลังชีวิตของเราดูว่ามีอยู่มากน้อยสักเพียงใด เพียงพอต่อการก้าวย่างในวันเวลาที่จะมาถึงหรือไม่
อย่าปล่อยให้อาการขาดแคลนพลังงานเข้ามาเกาะกุมวิถีชีวิตเรา
เพราะชีวิตเรามีค่ามากกว่าสิ่งใด ๆ ทั้งปวง พลังชีวิตเป็นสิ่งที่ยิ่งเติมยิ่งเพิ่ม
ไม่มีวันเสื่อมถอย เพียงแต่ว่าเราต้องไม่ปล่อยให้พลังนี้หายไปจากตัวเราบ่อย ๆ ช่วยกันชาร์จพลังชีวิตเพื่อเนรมิตโลกให้สวยงามกันต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น