ถ้าโลกเราเป็นเช่นนี้
หากโลกนี้เราแต่ละคนสละความสุขส่วนตัวคนละนิด
ชีวิตของเราคงจะดีขึ้นกันทั่วถ้วนหน้า แต่บางครั้งด้วยอารมณ์ ด้วยภาวะ ด้วยสถานะ
และสิ่งแวดล้อมบีบรัดเราจนทำให้เราต้องคิดถึงตัวเองก่อน ทำให้เราต้องตั้งหน้าตั้งตาหาความสุขเพื่อเพิ่มพูนชีวิตให้เปรมปรีดิ์
ยินดีแต่เพียงผู้เดียว ทุกคนจึงลืมกันและกัน ทุกคนจึงไม่สามารถมองเห็นคนอื่นในสายตา
ทุกคนจึงเอาแต่พร่ำเพ้อพรรณนาถึงตัวเอง
หากโลกนี้มีแต่ความเห็นแก่ได้
เห็นแก่ตัว
มัวหมกมุ่นกับเรื่องที่ไม่ไกลเกินจมูกตัวเอง โลกก็จะวุ่นวายกระหายหาความรักอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
กระวนกระวายที่จะให้คนอื่นเสิร์ฟส่งความสุขถึงที่
โดยไม่มีวี่แววว่าจะส่งมอบสิ่งที่มีอยู่ สิ่งที่ได้รับ ได้สัมผัสมาสู่ผู้อื่น
โลกวันนี้เราเป็นเช่นนี้ ใช่หรือไม่ เราอยากได้โลกที่งดงามก็ต้องเริ่มด้วยการให้ความงดงามจากใจสู่ใจ
มอบสุขสู่กันและกันโดยมิหวังสิ่งใดตอบแทน
หากเราตระหนักว่าทุกสิ่งในโลกล้วนไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ทุกสิ่งมีเพื่อทุกผู้คน ความสุขของเราคือความสุขของทุกคน ถ้าโลกเราเป็นเช่นนี้
มีหรือเราจะไม่พบสวรรค์บนแผ่นดิน
มีเด็กหนุ่มสามคน ต้น บอย และ
บุญ
ทั้งสามคนเป็นเพื่อนสนิทกันและมักจะชอบออกจากบ้านไปเดินเล่นผจญภัยกันเป็นประจำ
เช้าวันหนึ่งทั้งสามคนได้เดินไปจนถึงสถานที่แห่งหนึ่ง
ซึ่งห่างไกลจากถิ่นที่พวกเขารู้จัก มีกำแพงล้อมรอบ
มีเสียงเพลงอันไพเราะแว่วมาจากภายในสถานที่แห่งนั้น ทั้งสามเกิดความสนใจว่าภายในนั้นมีอะไร
จึงเดินวนรอบ ๆ กำแพงเพื่อจะหาทางเข้า แต่ก็หาไม่ได้
ต้นจึงไปหาไม้มาต่อเป็นบันไดและนำมาพาดกำแพง ต้นปีนขึ้นไปก่อน
และให้เพื่อนอีกสองคนรออยู่ข้างล่าง พอขึ้นไปข้างบนสีหน้าของต้นเปลี่ยนไป
เขามีความสุขอย่างยิ่งที่ได้มองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในนั้น โดยที่ไม่บอกเพื่อน ๆ
ว่าเขาเห็นอะไร จากนั้นเขาก็ได้กระโดดเข้าไปข้างใน
บอยกับบุญจึงเกิดความสงสัยว่าภายในนั้นมีอะไรดีนักหนา บอยจึงตามขึ้นไป
ในระหว่างที่บุญรออยู่ข้างล่าง ซึ่งก็เช่นเดียวกับต้น
สีหน้าของบอยเต็มไปด้วยความสุขแล้วบอยก็กระโดดเข้าไปข้างในเช่นกัน
บุญปีนขึ้นไปเป็นคนสุดท้าย
และเมื่อได้มองเข้าไปภายในนั้น เขาก็ได้เห็นความสุขที่รอเขาอยู่ตรงหน้า
แต่แล้วเขาก็คิดได้อย่างหนึ่งว่า…
“ที่นี่มีความสุขมากมายเหลือเกิน แต่ถ้าฉันจะกระโดดเข้าไปแล้ว
แล้วใครละที่จะกลับไปบอกคนอื่นที่ยังไม่รู้ พวกเขาเหล่านั้นอาจจะมีความทุกข์อยู่
และคงต้องการที่จะมาที่นี่เช่นกัน”
บุญจึงตัดสินใจกลับลงมาและเดินกลับไปยังหมู่บ้านของเขา
เพื่อบอกให้ทุกคนทราบ แล้วก็ได้พาทุกคนมาสถานที่แห่งความสุขนั้น (Cr. ดร.อาจอง ชุมสาย ณ
อยุธยา)
ไม่ยากเกินไปใช่ไหม หากเราจะช่วยกันสร้างสังคมให้น่าอยู่ด้วยการรู้จักเสียสละบางสิ่งบางอย่างของตัวเรา
แม้จะเป็นความสุขส่วนตัว เพื่อให้ผู้อื่นพบกับความสุขและให้ความสุขขยาย
กระจายตัวออกไปดุจดังใยแมงมุม และทุกหัวใจทุกผู้คนจะมีสันติสุขประทับอยู่ตลอดไป..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น