คิดอย่างไรกับชีวิต
เราแต่ละคนล้วนมีรูปแบบและวิถีทางชีวิตที่แตกต่างกัน แต่มีจุดหมายเดียวกันคือมุ่งสู่ความดี
ส่วนใครจะเลือกหนทางใดวิธีการแบบไหนก็เป็นเรื่องของแต่ละคนตามจริต ตามสิ่งแวดล้อม
และตามมโนธรรมสำนึกที่ปลูกฝังมาก บางคนเสียสละความสะดวกสบายของตนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
หรือแม้กระทั่งเพื่ออุดมการณ์ร่วมกันของกลุ่มคนที่คิดตรงกัน
มีบ้างบางคนในระหว่างที่มุ่งสู่ความดีเกิดพลัดตกทาง หลงทาง
และเดินไปสู่ทางแห่งความมืดมน
จนไม่สามารถจะเลี้ยวกลับมาเริ่มต้นในเส้นทางนี้ได้อีกเลย
แล้วคิดว่าทางนั่นแหละคือทางสู่ความดีโดยการหลอกลวงตัวเอง และหาพวกมาเข้ากลุ่ม
เพราะกลัวจะเหงาเกินไปในทางที่มืดมนนั้น
ภาพ : อินเตอร์เน็ต |
ในกระแสสังคมคนเมืองและทุกผู้คนต้องมี
ต้องเป็น ต้องเก่ง ต้องเลิศ ทุกคนจึงทำทุกอย่างเพื่อไปให้ถึงหลักชัยอันแปลกปลอม
เมื่อต้องการมากจึงดิ้นรนมาก ต้องไขว่คว้าเสาะหาสะสมอย่างไม่มีวันหมดอายุ
แต่สุดท้ายแล้วหมดแรง หมดแรงที่จะดำเนินชีวิต ปล่อยให้มีลมหายใจเข้าๆออกๆไปวันๆ
หมดสิ้นเรี่ยวแรง เมื่อทุ่มไปหมดสุดแรงเกิดแล้ว เมื่อล้าอย่างที่สุด
เหนื่อยหน่ายจนอยากตายให้รู้แล้วรู้รอด ก็มักหาเหตุผลว่า “ปลงเสียแล้ว”
ไม่อยากดิ้นรน ไม่อยากแข่งขันกับใคร อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่แบบพอเพียง
ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงอาจจะเป็นเพียงข้อแอบอ้างเพื่อให้ดูดีขึ้น
จริงๆแล้วการมีชีวิตที่ไม่ต้องไปแข่งขันกับใครย่อมเป็นสิ่งประเสริฐ
แต่ต้องไม่ใช่การอยู่เฉยๆเฉื่อยชาไปเรื่อย ชีวิตนั้นควรจะต้องมีค่า
ทำประโยชน์กับผู้อื่น กับสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวบ้าง การใช้ชีวิตแบบพอเพียงนั้นแท้จริงคือการรู้จักกินรู้จักใช้ตามฐานะ
ตามทรัพย์สมบัติที่หามาได้ด้วยความสุจริต
แล้วแบ่งปันส่วนที่เหลือให้กับผู้ยากไร้บ้าง
โลกนี้เกิดขึ้นเพื่อให้เราเกื้อกูลกัน
ให้มีเมตตาต่อกัน ช่วยเหลือกัน เพื่อให้รู้ว่า ชีวิตเรามีค่าเพียงใด ไม่ใช่ว่าชีวิตร่างกายเป็นของเรา จะทำอะไรก็ได้
ไม่ทำอะไรเลยก็ได้ ร่างกายคือสิ่งสร้างที่ถูกสร้างมาเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์
ไม่ใช่สร้างมาเป็นสิ่งประดับโลกที่รอวันทรุดโทรมไปเพียงเท่านั้น
อย่าได้คิดเหมือนชายคนนี้เลย
ชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมเสื้อผ้าเก่าขาด
ท่าทางเฉื่อยชา เอาแต่นั่งทอดหุ่ยปล่อยให้แสงแดดโลมเลียร่างกาย สลับกับหาวหวอดๆ
เป็นระยะ เมื่ออาจารย์เซนเดินผ่านมาพบคนผู้นี้เข้า
จึงเกิดความประหลาดใจจนต้องเอ่ยถามว่า
“พ่อหนุ่ม อากาศดีๆ
ในฤดูกาลที่นานๆ จะเวียนมาถึงเช่นนี้ เหตุใดเอาแต่มานั่งเปล่าประโยชน์ ใยไม่ไปลงมือทำสิ่งต่างๆ
ที่ควรทำ เจ้าไม่เสียดายช่วงเวลาดีๆ เช่นนี้หรอกหรือ?”
ชายหนุ่มถอนใจครั้งหนึ่ง
พลางตอบว่า “บนโลกใบนี้ นอกจากร่างกายแล้ว ไม่มีสิ่งใดเป็นของข้าสักอย่าง
เช่นนั้นใยต้องสิ้นเปลืองแรงกายแรงใจไปกระทำสิ่งต่างๆ ด้วยเล่า? ”
“เจ้าไม่มีบ้านหรือ?” อาจารย์เซนถาม
“ไม่มี หากมีบ้านก็ต้องเป็นภาระคอยดูแลเช่นนั้นไม่ต้องมีเสียเลยดีกว่า”
ชายหนุ่มตอบ
“เจ้าไม่มีคนที่เจ้ารักหรือ?” อาจารย์เซนถามต่อ
“ไม่มี หากมีคนรัก
เมื่อหมดรักก็กลายเป็นความเกลียดชัง สู้ไม่มีเสียเลยดีกว่า” ชายหนุ่มว่า
“แล้วมิตรสหายเล่า มีหรือไม่? ” อาจารย์เซนไม่ละความพยายาม
“ไม่มี เมื่อมีเพื่อน
สักวันก็ต้องสูญเสียเพื่อน แล้วจะมีไปทำไม” ชายหนุ่มท้วง
“เจ้าไม่คิดจะทำงานหาเงินบ้างหรือ? ” อาจารย์เซนยังคงถามต่อไป
“ไม่คิด
ได้เงินมาสุดท้ายก็ต้องจับจ่ายออกไป เช่นนั้นใยต้องไปสิ้นเปลืองพลังงานหามาตั้งแต่ต้น”
ชายหนุ่มกล่าวแย้ง
“อ้อ” สุดท้ายอาจารย์เซนพยักหน้ารับรู้
แต่ยังคงกล่าวว่า “ท่าทางข้าต้องรีบไปหาเชือกมามอบให้เจ้าสักเส้นหนึ่งแล้ว”
“เหตุใดต้องมอบเชือกให้ข้า? ” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัยใจ
“ให้เจ้าผูกคอตาย”
อาจารย์เซนตอบ
ชายหนุ่มได้ยินก็ถามกลับไปด้วยความโมโหว่า
“ท่านอยากให้ข้าตายหรือไง? ”
อาจารย์เซนจึงตอบว่า “ถูกแล้ว
เพราะคนเราทุกคนล้วนต้องตาย หากคิดตามตรรกะของเจ้า
ในเมื่อสุดท้ายต้องตายแล้วคนเราจะเกิดมาทำไม และหากเป็นเช่นนั้นก็แปลว่า
การมีชีวิต มีตัวตนของเจ้าในวันนี้นับเป็นสิ่งที่เปล่าประโยชน์ด้วยเช่นกัน ก็ในเมื่อเปล่าประโยชน์แล้ว
ใยไม่รีบผูกคอตายไปเสียเลยเล่า? ”
ภาพ : อินเตอร์เน็ต |
ใช่หรือไม่ การใช้ร่างกายเพื่อแสวงหาทรัพย์สมบัติมากไปก็ไม่ดี
การไม่ใช้ร่างกายเพื่อก่อประโยชน์ใดเลยก็ยิ่งไม่ดี จุดสำคัญของการมีชีวิตคือการรักษาสมดุลให้เกิดขึ้น
ชีวิตไม่ได้มีเพียงร่างกายเท่านั้น ยังประกอบไปด้วยจิตใจและจิตวิญญาณ
หากเราปล่อยให้ชีวิตเราเฉื่อยชา จิตใจจิตวิญญาณมีหรือที่จะกระฉับกระเฉง
หากใช้ร่างกายอย่างบ้าคลังจนอ่อนล้าและหมดเรี่ยวแรง
จิตใจจิตวิญญาณย่อมอ่อนระโหยตามไปด้วย
ในวัดของเรามีคุณพ่อท่านหนึ่งที่ท่านใช้พลังกายอย่างเต็มที่
เพื่อสร้างจิตวิญญาณ โดยเฉพาะจิตวิญญาณของผู้อื่น ด้วยการสอนคำสอน
พูดคุยเรื่องความรักของพระเจ้า สอนให้ทุกคนรักในความเป็นลูกของพระอย่างมั่นคง คุณพ่อสหพล
ตั้งถาวร ต้นแบบของผู้ที่รู้จักใช้ร่างกาย รู้จักใช้พระพร
เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้คน คุณพ่อสอนทุกคนที่ต้องการจะเรียนรู้เรื่องความรักของพระเจ้า
ไม่ว่าเวลาไหน ใครสะดวกเมื่อไร ทั้งกลางวันกลางคืน สอนอย่างมีชีวิตชีวา
วันนี้ถึงวาระที่คุณพ่อต้องไปรับหน้าที่ใหม่ พวกเราชาวเซนต์หลุยส์ ขอขอบคุณคุณพ่อและเราสัญญาว่าแบบอย่างของคุณพ่อ
คำเทศน์สอนจะคงอยู่ในใจเราเสมอไป ด้วยจิตคารวะอย่างสูง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น