วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

ผ่านทางสายน้ำ

ผ่านทางสายน้ำ

ชีวิตเรามักมีความผูกพันกับธรรมชาติเสมอ เอาเข้าจริง...เราก็มักโหยหาการกลับคืนสู่ธรรมชาติ อยู่กับแม่น้ำลำธาร ท้องทะเล ภูเขา ป่าไม้ ไม่ว่าวิถีชีวิตประจำวันจะดิ้นรน ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งปัจจัยแห่งการดำรงอยู่อย่างไร ก็มักมีห้วงเวลาที่หัวใจเรียกร้องกลับคืนสู่รังเรือนธรรมชาติ ในความเชื่อของเราธรรมชาติก็คือพระเจ้า เมื่อเรากลับมาสัมพันธ์กับธรรมชาติก็หมายถึงการเข้าแนบสนิทใกล้ชิดกับพระเจ้านั่นเอง

ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านไปชีวิตผ่านไปอย่างรวดเร็ว คละเคล้าด้วยสุขเศร้าเป็นอนิจจัง ที่ไม่มีใครสามารถจะเปลี่ยนแปลงได้ แต่เราก็เปลี่ยนตัวเราเพื่อการดำรงอยู่ในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วอย่างรู้ตัว รู้ทัน อย่างมีจิตสำนึกได้ โดยพยายามรักษาฐานมั่นแห่งจิตวิญญาณที่เชื่อว่า ความดี ความงาม ยังคงอยู่ในชีวิตนี้ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ

วันว่างเว้นภารกิจ ทำงานที่ใช้ทั้งแรงกาย แรงสมองมาอย่างยาวนานและสมบุกสมบัน พรรคพวกเพื่อนฝูง คนรู้จักคุ้นชิน ที่รู้ว่าถิ่นเกิดกาย อู่มารดาตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ต่างก็ยกมือยกไม้ ขอไปใช้ชีวิตแนบอิงรับไออุ่น ลมสบายชายตลิ่งริมเจ้าพระยากันสักครา รถราพาหนะพร้อมเสบียงอาหาร อุปกรณ์บันเทิงเพรียบ เมื่อถึงที่หมายหลายคนตื่นที่เพราะต่างถิ่น เห็นแม่น้ำสายใหญ่สายสำคัญของประเทศไทย นวยนาดอยู่ต่อหน้าต่อตา หลายคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่คือแม่น้ำเจ้าพระยา หลายคนยังสงสัยว่าเจ้าพระยาที่เคยท่วมท้นถนนหนทาง บัดนี้ ไฉนลดลงไปอย่างไม่น่าเชื่อสายตา

แม่น้ำเจ้าพระยา เกิดจากการไหลมาบรรจบกันของแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน ที่ปากน้ำโพ นครสวรรค์ ไหลผ่านลงมายังจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพฯ แล้วไปออกทะเลอ่าวไทยที่ ตำบลแหลมฟ้าผ่า ตำบลท้ายบ้าน จังหวัดสมุทรปราการ มีความยาว ประมาณ 360 กิโลเมตร

และแล้วการพักผ่อนที่ไร้รูปแบบก็เกิดขึ้นโดยพลัน ต่างคนต่างหามุมกันเอง ใครชื่นชอบมุมไหน ตามสะดวก มีไม่น้อยเดินลงไปยังริมสายน้ำเพื่อรับลมเย็นๆ บ้างก็เหวี่ยงเบ็ดตกปลาที่ไม่ได้มุ่งหวังที่ตัวปลา แต่มุ่งหวังเพียงเพื่อทดสอบความชำนาญการส่งเบ็ดคันงามลงร่องน้ำ และด้วยความเป็นเจ้าบ้าน จึงอาสารับใช้พายเรือให้ผู้ที่สนใจลงล่องเรือเคล้าเสียงเพลงจากกีตาร์ตัวน้อยด้วยศิลปินผู้มากความสามารถ แสงแดดยามเย็นเมื่อตกกระทบกับสายน้ำ ภาพศิลปะ ก่อให้เกิดจินตการบรรเจิด... สุดท้ายตามด้วยบริการเด็กๆผู้ร่วมขบวนที่ขอลงเล่นน้ำให้เบิกบานอุรา จวบจนตะวันลับแนวทิวไม้ เสียงระฆังวัดดังขึ้น กลุ่มผู้อยู่ริมน้ำก่อสวดบทเทวทูตถือสารฯ นี่เป็นกลุ่มคริสตชนกลุ่มย่อย ณ ริมน้ำเจ้าพระยา แล้วการดื่มด่ำกับเจ้าพระยาก็สิ้นสุด แต่ละคนคงมีความประทับใจและความทรงจำที่งดงามแตกต่างกันไป

ในขณะพายเรือนำส่งผู้มาเยือนข้ามฝั่ง หลายเรื่องก็ผุดขึ้นมาในความทรงจำ ย้อนกลับไปเมื่อครั้งได้เดินไปยังแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ และได้ไปนั่งพักที่ริมแม่น้ำจอร์แดน ได้ไตร่ตรองได้รำพึงถึงความสำคัญของสายน้ำนี้ในช่วงสมัยของพระเยซูเจ้า พระองค์ก็อาศัยลุ่มน้ำ ริมชายฝั่ง เทศนาสั่งสอน ทรงรับศีลล้างจากท่านนักบุญยอห์นผู้มาปูทางเดินให้พระองค์ ณ ที่แม่น้ำจอร์แดนแห่งนี้ ทุกวันนี้ผู้แสวงบุญจำนวนมากมาทำพิธีล้างในสถานที่แห่งเดียวกันนี้

แม่น้ำจอร์แดนมีคุณลักษณะพิเศษ คือไหลคดเคี้ยวเป็นเกลียวจากหุบเขาสูงชัน มีปริมาณน้ำจำนวนมาก เป็นแม่น้ำที่มีความสำคัญมากในเชิงศาสนา เป็นความสัมพันธ์ของการเผยแสดงถึงพระเจ้าที่ทำให้แม่น้ำสายนี้ยิ่งใหญ่เหนือแม่น้ำสายใดในโลก เป็นพรมแดนของดินแดนแห่งพันธสัญญา โมเสสไม่ได้รับอนุญาตให้ข้ามแม่น้ำสายนี้

พิธีล้างที่กระทำที่แม่น้ำจอร์แดนเป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตพระเยซูเจ้า เมื่อพระจิตเจ้าเสด็จลงมายังพระเยซูเจ้า และเสียงจากพระบิดาเจ้าบนสวรรค์ว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นบุตร เพื่อแสดงให้เห็นการเริ่มต้นภารกิจของพระเยซูเจ้าที่จะนำประชากรเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า สันนิษฐานกันว่า พิธีล้างกระทำ ณ ชายฝั่งตะวันออก
หลังจากพระเยซูเจ้ารับพิธีล้างที่แม่น้ำจอร์แดน พระองค์เสด็จไปยังที่เปลี่ยวเพื่อภาวนาและพลีกรรมเป็นเหตุให้ปีศาจมาผจญล่อลวงพระองค์ และนั่นเองก็เป็นต้นกำเนิดของศีลล้างบาป

มีหลายคนเข้าใจข้อความเชื่อแบบผิดๆ คำในพระคัมภีร์ที่ว่า ใครที่ไม่ได้ผ่านทางน้ำนี้ก็จะไม่สามารถเข้าอาณาจักรสวรรค์ และพูดว่าสวรรค์เป็นของชาวคริสต์อย่างเดียวหรือไร คนที่นับถือศาสนาอื่นไม่มีสิทธิ์หรือไร.. อันที่จริงสิ่งที่คำสอนในพระคัมภีร์กล่าวถึงนั่นมีความหมายหลายอย่าง พูดแบบชาวบ้านๆ น้ำนั้นเป็นสัญลักษณ์ของการชำระล้าง เพื่อให้เกิดความสะอาด นั่นก็หมายความว่า คนที่จะได้เข้าสวรรค์นั้นต้องสะอาด ต้องชำระล้างจิตวิญญาณให้สะอาด พระคัมภีร์ใช้น้ำเพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ได้หมายความว่าจะต้องลงไปจุ่ม ไปแช่ในแม่น้ำแล้วจึงจะรอด เปรียบได้ดังเช่น การขึ้นบ้านเรือนไทยในสมัยก่อน ต้องมีการล้างเท้าก่อนขึ้นเรือน คนเราก็ยังต้องอาบน้ำชำระร่างกายก่อนเข้านอนทุกวันมิใช่หรือ... พายเรือผ่านลำน้ำแล้วเพลิดเพลินชวนให้คิดว่าน้ำนำมาซึ่งความสะอาดของผู้คน แต่คนเรากลับทำน้ำให้สกปรก เฉกเช่นจิตใจเราที่บริสุทธิ์อยู่แล้ว เราต่างหากที่ทำให้จิตใจสกปรก และน้ำที่จะทำให้คนเรากลับมาใสสะอาดได้ก็คือ น้ำใจที่เรามีให้กัน....

ไม่มีความคิดเห็น: