วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2564

เพราะใกล้เกินไป

 

เพราะใกล้เกินไป

 

>>>บางทีสิ่งที่อยู่ใกล้เกินไปก็มองไม่เห็น

บางทีเพราะใกล้เกินไปจนเคยชิน

บางทีเพราะใกล้ตาใจเลยห่างไกล<<<

 

ระหว่างขับรถกลับบ้านในช่วงนี้ หนีไม่พ้นที่จะต้องเจอฝนที่ตกลงมาเกือบจะทุกวัน และด้วยความที่ไม่ได้คิดว่านี่เข้าฤดูฝนแล้วหนิ จึงละเลยที่จะเช็คที่ปัดน้ำฝนหน้ารถ เมื่อเจอฝนก็เปิดปัด ยิ่งปัดยิ่งเปรอะ ดีนะที่ระยะทางไม่ไกลนัก ทำให้ถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย จึงจำต้องรีบหามาเปลี่ยนโดยด่วน และวันถัดมาก็เช่นเดิมฝนมาตามนัด ที่ปัดอันใหม่ได้ทำหน้าที่โดยพลัน ความใสในหนทางบังเกิดขึ้น แม้ฝนจะลงหนักกว่าเมื่อวาน ทำให้อุ่นใจขึ้นเยอะในการมองทางข้างหน้า ใช่หรือไม่ เรื่องใกล้ตัวที่เราใช้เป็นประจำแทบทุกวัน บางครั้งเราก็มิได้สนใจ จวบจนเมื่ออยู่ในความลำบากนั่นแหละ สิ่งที่ใกล้ตัวจึงมีความหมาย มีความสำคัญอย่างที่สุด

 

ความสุขจากสิ่งรอบ ๆ ตัวเรา มักถูกมองข้าม มองผ่านไปเช่นกัน ในโลกที่เราเห็นอะไรต่อมิอะไรได้อย่างสะดวกรวดเร็วและกว้างไกล มันก็ทำให้ใจเราหลุดลอยไปเสาะหาสิ่งอื่น ๆ อยู่ร่ำไป สิ่งที่มีอยู่แล้วถูกปล่อยวางลง ไร้การเหลียวแล เรามักตื่นตาตื่นใจ ตื่นเต้นไปกับสิ่งเร้าอันใหม่เสมอ แล้วก็สะสมความอยากความปรารถนา อยากจะมี อยากจะเป็นเหมือนคนนั้นคนนี้ เห็นเขาโชว์รถหรู โชว์รวย ใจก็โลภ ต้องทำเหมือนเขา ใครจะไปรู้ล่ะว่า นั่นมันใช่รถเขาจริงมั๊ย!!! โลกสมัยนี้ คือ โลกที่มีแต่มายา ขี้อวด ชอบโชว์  จึงมีคนคิดและทำแอพพลิชันอันหนึ่งขิ้นมา เราอยากจะเป็นเหมือนคนดังคนไหน อยากจะทำอาชีพอะไร เพียงใส่ใบหน้าเราเข้าไป กดแอพฯ เปลี่ยนเราให้เป็นเช่นคนที่เราฝันใฝ่ในบัดดล อาจจะดูสนุก ดูแบบขำขำ หากเราถูกครอบงำด้วยสิ่งนี้ไปเรื่อย ๆ เราก็จะหลงลืมตัว หลงลืมความสุขที่อยู่ข้างตัวเรา และบ่อยเข้า เมื่อเราต้องอยู่กับตัวตนคนเดียว เราก็จะอยู่ไม่ได้ อยู่ไม่เป็นสุข และไม่สามรถรู้เลยว่า มีชีวิตไปเพื่ออะไรกัน?


เด็กหนุ่มคนหนึ่งอยากจะใช้ชีวิตด้วยความสงบ จึงมาสมัครช่วยเหลือคุณพ่อที่วัด อ่านบทอ่านช่วยมิสซา ทำความสะอาดวัด ไม่นานก็รู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจทำ เพราะชีวิตในวัดไม่ได้มีรสชาติเอาเสียเลย!

มันน่าเบื่อสิ้นดีเด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณพ่อ

ความจริงของชีวิตมันน่าเบื่ออย่างนี้หรือครับ คุณพ่อ?” เด็กหนุ่มถามต่อ

คุณพ่อหยิบถ้วยใบหนึ่งแล้วก็รองน้ำขึ้นมาจากเครื่องกรองน้ำ

ถ้วยที่มีน้ำนี้ เธอเห็นอะไรอยู่ในนี้บ้าง?”

ไม่เห็นอะไรเลยครับ!นอกจากน้ำเด็กหนุ่มตอบไปแบบงง ๆ

ในถ้วยใบนี้ พ่อมองเห็นความใสของน้ำที่เป็นดั่งกระจกส่องท้องฟ้าที่สดใส พ่อยังเห็นลานวัดที่เขียวขจีไปด้วยสุมทุมพุ่มไม้ มันกำลังร่ายรำไปตามแรงลม พ่อยังเห็นถึงความหอมหวานของน้ำในถ้วยใบนี้ เธอรู้ไหม คนในสมัยนี้ไม่ค่อยมีโอกาสได้ดื่มน้ำเปล่ากันมากนัก เขาดื่มแต่น้ำอัดลม ดื่มแต่กาแฟแพง ๆ ดื่มชาราคาเป็นร้อย พ่อยังเห็นใบหน้าของพระเยซู แม่พระ ที่ส่งยิ้มมาทุกครั้ง น้ำเปล่าจากเครื่องกรองเป็นน้ำที่เต็มไปด้วยพลังชีวิต เพราะผ่านการกลั่นกรองมาอย่างดี พ่อจะบอกอะไรให้ เธอจะต้องรู้จักหาความสุขจากสิ่งรอบตัว หากเธออยากมีความสุข ลองใช้ใจมองทุกสิ่งดูบ้าง อย่าเพียงใช้แค่ตาเห็น!

เด็กหนุ่มได้แต่พยักหน้าไปมาอย่างเข้าใจ

เราลองเปิดใจของเราเพื่อให้เห็นสิ่งดีงามรอบตัวเรา หาความสุขจากสิ่งใกล้ตัว ความสุขเกิดได้ในทุกวินาทีแห่งชีวิต แล้วเราจะพบความอัศจรรย์เกิดขึ้นทุกวัน เราจะเห็นว่า คนคนนี้ทำสิ่งใดก็ดีทั้งนั้น คนคนนั้นอยู่ใกล้ตัวเรานี่เอง

ไม่มีความคิดเห็น: