วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ยิ่งใหญ่ยิ่งต้องถ่อมตน

 

ยิ่งใหญ่ยิ่งต้องถ่อมตน

>>> คนที่มีอำนาจ แล้วใช้ไม่เป็นเที่ยวบังคับ ข่มขู่ ห้ามขัดใจ เรียกว่า “เหลิง”

คนที่ชอบอวดตัว อวดเก่งไม่ฟังใคร เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่ตั้ง เรียกว่า “หลง”

คนที่ได้ดี และไม่สนใจคนที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา  เรียกว่า “ลืม”

คนที่เอาแต่สร้างภาพไปวัน ๆ โชว์ตัวเองให้ดูดีดูเด่น เราเรียกว่า “หลอก” <<<

 


สัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคม ผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็ว ฉลองวัดของเราเวียนมาอีกรอบ เป็นปีที่ 64 ทุกอย่างรอบวัดเปลี่ยนไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง ผู้คนผ่านเปลี่ยนหมุนเวียนไปมา วัดก็ยังมั่นคงดำรงอยู่ หันกลับมาที่ตัวเรา ยังมั่นคงในสิ่งใดบ้าง หรือเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสรอบตัว ยิ่งในภาวะที่โลกเปลี่ยนแปลงไปมากมาย ทำให้ผู้คนหลงลืม เหลิง หลอกลวงกัน เพราะอะไรเล่า??? เพราะจิตใจเราไม่มั่นคง จิตวิญญาณเราไม่เข้มแข็งพอ มีแต่ความเห็นแก่ตัว

สมัยนี้มีคนสร้างภาพกันมากมาย เพียงเพื่อให้คนที่ไม่รู้จักมาสรรเสริญ เยินยอ เป็นสังคม ขี้อวด พยายามอวดว่าชีวิต สมบูรณ์พร้อม ทั้ง ๆ ทีทุกวันต้องหมกมุ่นหาสิ่งปลอม ๆ มาแต่งเติมให้ชีวิตดูเหมือนว่าดี สร้างภาพความดีเพื่อสร้างสุขชั่วคราว บางทีการมีชีวิตเรียบง่าย พอดี อยู่แบบสบายใจไม่ต้องพยายามยกระดับตนเอง เพื่อหลอกตาใคร คือ ชีวิต “ดีงาม” มีความสุขที่แท้จริง!เราอยากมีชีวิตที่เรียบง่ายหรือต้องพยายามสร้างภาพหลอกคนอื่นตลอดเวลา ต้องหมั่นตาใจเราดู สุขอยู่ที่ใจ เมื่อใจสุขร่างกายย่อมสดชื่น เมื่อใจน้อมรับในความเป็นเรา ไม่เป็นอย่างคนอื่น เราจะมีใบหน้าที่แท้จริง ที่ยิ้มแย้ม ไม่เคร่งเครียดจนหน้าดำหน้าแดงตลอดเวลา

เราต้องสำนึกถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนให้มาก ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใหญ่โตเพียงใดก็ตาม ใช่หรือไม่ ตำแหน่งนั้นมันก็อยู่กับเราไม่นาน แต่โลกจะยังดำรงอยู่ พระศาสนจักรก็ยังมั่นคง ต่อไป แม้เราจะมลายร่างหายไป อย่าไปคิดว่าทุกสิ่งอยู่ในกำมือเรา หากเราได้มีตำแหน่งที่สูง แต่ควรต้องนำมาเป็นหนทางช่วยเหลือผู้อื่น เป็นหนทางที่จะนำรักนำความเมตตาสู่สังคมได้ง่ายขึ้น ใช้ให้เป็นพระพร เหมือนกษัตริย์หลุยส์ที่ 9 แห่งฝรั่งเศส ที่มีตำแหน่งเหนือใครต่อใคร แต่ไม่เคยทำตัวให้สูงเด่น แต่กลับโน้มตัว ย่อตัวลง น้อมรับนำพระเมตตา ความเที่ยงธรรม สู่ปวงชนจนทำให้ท่านกลายเป็นนักบุญและเป็นองค์อุปถัมภ์วัดของเรา ลองศึกษาช่วงหนึ่งของชีวิตท่าน แล้วมาไตร่ตรองร่วมกันในวันฉลองวัดปีนี้


นักบุญหลุยส์ในช่วงจัหวะชีวิตการเป็นกษัตริย์
ทรงให้ความรักแก่คนยากจนและผู้เจ็บป่วย ทำแผลดูแลผู้ป่วยด้วยพระองค์เอง ทรงรับประทานอาหารร่วมกับผู้ยากไร้ และคนตาบอด เพราะทรงแลเห็นพวกเขาเป็นพระคริสตเจ้าที่กำลังทนทุกข์ทรมาน การให้เวลาเพื่อช่วยผู้ที่ตกอยู่ในความลำบากต่าง ๆ นั้น มิได้เป็นอุปสรรคใด ๆ ต่อการปกครองพระราชอาณาจักรของพระองค์ พระองค์ทรงปกครองด้วยความเสมอภาค ทรงโปรดให้สร้างที่พักสำหรับนักศึกษาและคนยากจน และทรงหาวิธีช่วยเหลือให้ประชากรของพระองค์มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเสมอ พระนามของพระองค์เป็นที่ลือเลื่องไปทั่ว ทรงได้รับเชิญให้เป็นผู้ตัดสินคดีความระหว่างประเทศ พระองค์ตรัสเสมอว่า  การใช้กำลังต่อสู้ มิใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดี

ไม่มีความคิดเห็น: