จำอวด
>>> อย่าปล่อยให้หัวโขนเปลือกนอกพันธนาการชีวิต
ความดีต่างหากที่จะทำให้คนอื่นเขาเคารพชื่นชมเรา
เข้าใจ
จะทำให้ใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงของโลก
รู้จักพอ
จะทำให้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง <<<
ในสมัยก่อนนั้นเราเรียกคนที่มีอาชีพเรียกเสียงหัวเราะก่อนเริ่มการแสดงหลักว่า
“จำอวด” ที่ไปจำมุกมาแสดงต่อ ๆ กัน เอามาโชว์ สร้างความบันเทิง
ขบขันกันไปทั่วหน้า คนที่มีความจำดีหน่อยก็มักได้เปรียบ
เพราะมีเรื่องเล่นเรื่องเล่าเอามาอวดได้อย่างสนุกสนาน
จวบจนเมื่อยุคสมัยเปลี่ยน แต่…เราก็ยังคงเห็นพฤติกรรมของคนหลายคนมีลักษณะ “จำอวด”
เปลี่ยนเพียงรูปแบบ
เนื้อหาวิถีชิวตก็ยังวนเวียน จำข้อมูลคนนั้นคนนี้แล้วนำมาอวดออกหน้าสื่อ
ออกหน้าจอกันเป็นว่าเล่น สร้างชื่อ สร้างภาพ สร้างตัวตน จำแล้วเอามาอวดรู้
สังคมวันนี้จึงเต็มไปด้วยคนอวดเก่ง โชว์รู้ จนเสพติดความเก่งของตัวเอง
และอิ่มเอมเปรมปรีดิ์กับยอดไลค์ ยอดแชร์ เป็นความสำเร็จแบบตลก เป็นการเสพสุขแบบมิได้ทุ่มเท มันน่าภูมิใจหรือกับหัวโขนจอมปลอมแบบนี้
อย่าเสพเพียงแค่ความสุขสบาย
เพราะทางไปสู่ความสวรรค์นั้น บางทีต้องฝ่าฟันอุปสรรค อย่าปล่อยให้คนอื่นมาบ่งการ มาควบคุมชีวิตเรามากนัก
อย่าตกเป็นทาสของเงินตรา เพราะคำว่าอิสระทางการเงินที่แท้จริงได้มาจากการรู้จักพอใจ
พอเพียง อย่าปล่อยให้ความโกรธ ความแค้นเป็นมะเร็งกัดกร่อนชีวิต
เพราะความสุขของชีวิตเกิดขึ้นในทันทีที่รู้จักปล่อยวาง
อย่าบ้าอำนาจหลงใหลในตำแหน่ง เพราะมันคงอยู่กับเราไม่นาน อย่าอวดรู้ อย่าสู่รู้
เพราะแท้จริงไม่มีใครบนโลกรู้มากเกินปลายจมูกของตัวเอง คนจะได้รับเกียรติก็ไม่จำเป็นต้องอยู่เหนือผู้อื่น
สิงโตตัวหนึ่งเห็นหมาบ้า
เดินใกล้เข้ามา มันจึงรีบเดินเลี่ยงไปทางอื่น ลูกสิงโตเห็นจึงพูดกับพ่อว่า
“เจอเสือตัวใหญ่
ๆ พ่อยังกล้าสู้กับมัน แต่นี่เจอหมาบ้าตัวเดียว พ่อกลับเดินหลบ ช่างขายหน้าเสียจริง
ๆ ”
พ่อได้ยินดังนั้นจึงบอกกับลูกว่า
“ลูกพ่อ
การเอาชนะหมาบ้าตัวหนึ่งนั้น เป็นเรื่องมีเกียรตินักหรือ”
ลูกสิงโตส่ายหัว
“หากโดนหมาบ้ากัด
จะมิยิ่งซวยกว่าหรือ”
ลูกสิงโตพยักหน้า
“จำไว้นะลูก
มิใช่ว่าใครทั้งหมดล้วนคู่ควรที่เราจะต่อกรด้วย”
ใช่หรือไม่ ผู้คนในสังคมทุกวันนี้ ล้วนตกอยู่ในสภาวะที่เครียด กลัดกลุ้ม ไม่ว่าจะเรื่องปากท้อง เรื่องครอบครัว เรื่องคู่ครอง ทุกคนต่างมีความโลภโกรธ หลง กันทั้งนั้น ไม่พอ เรายังยึดมั่น ถือมั่นในตัวเอง ไม่สนใจโนแคร์คนรอบข้าง แต่เมื่อผิดหูขัดใจเมื่อไรจะต้องจัดการให้มันรู้กันไปว่าใครเป็นใคร ทำให้กลายเป็นคนไร้ปัญญาที่อวดเก่ง สำหรับผู้มีปัญญาเราจะไม่ไปทะเลาะเพื่อเอาชนะคนแบบนั้นแน่นอน
หัวใจของความเป็นเด็กเล็กในผู้คนวันนี้ไม่มีเสียแล้ว
แม้แต่เด็กเล็ก ๆ เราก็ฝังข้อมูล ฝังหัวให้โตไปเพื่อตัวเอง
จึงทำให้เราไม่ค่อยเข้าใจผู้อื่น ไม่ไว้วางใจกัน ไม่เชื่อในความดี
ไม่ยึดถือในความอดทนซื่อสัตย์ คิดเพียงว่าปลอดภัยไว้ก่อน
จะให้ดีถ้ามีบารมีชื่อเสียง เงินทอง ยิ่งจะทำให้คนอื่นยำเกรง
ลองสำรวจดูกันว่าชีวิตแบบนี้หรือที่จะมีความสุข เราก็เห็นแล้ว วันนี้ที่ต่างคนต่างก็กลัวการติดเชื้อโควิด-19
ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่แล้ว คือ ผู้ใหญ่ เด็ก ๆ เสียชีวิตน้อยมาก
เพราะจิตใจที่ใสบริสุทธิ์ต่างหากที่จะนำพาให้เราพบสันติและปลอดภัยอย่างแท้จริง
ความซื่อ ความเรียบง่าย ไม่มีพิศวง ไร้มายา คือหนทางนำไปสู่สวรรค์ เพราะสวรรค์คงไม่ต้องการคนที่อวดรู้….
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น