วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

แสงทิพย์

 

แสงทิพย์

ในช่วงขณะที่เราต่างฝ่ายต่างเฝ้าระแวดระวังตัวไม่ให้เชื้อไวรัสโควิด-19 ย่างกรายเข้ามาหา กิจกรรมหลาย ๆ อย่างต้องหยุดลง ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว ทั้งที่ต่างแดนต่างถิ่น การไปลองลิ้มชิมรสตามร้านต่าง ๆ การไปนั่งดื่มด่ำธรรมชาติที่นั่นที่นี่ การพบปะสังสรรค์ แม้กระทั่งการเข้าวัดร่วมพิธีกรรม แล้วเมื่อหลายคนที่มีรสนิยมเหล่านี้ไม่ได้ไปไม่ได้ทำดังใจหมาย ก็เริ่มขุดคุ้ยความทรงจำเก่า ๆ เอามาโพส เอามาแชร์ มารำลึกถึงสิ่งเหล่านั้น และพากันเรียกว่า “ทิพย์” เที่ยวทิพย์ กินดื่มทิพย์ อิ่มทิพย์ มีเข้าวัดทิพย์ ที่ร้ายกว่านั้น คือ หาภรรยา-สามีทิพย์ ก็มีมาให้เห็น และอื่นอีกหลากหลาย ถือว่าทำให้ชีวิตพอจะมีสีสัน แก้เครียดแก้เบื่อยามที่ต้องลดระยะห่าง งด กักตัว อยู่กับบ้าน อยู่กับตัวตน

และเช่นกัน ในทุก ๆ เช้า ก็มักจะได้รับภาพพระอาทิตย์ขึ้นบนขอบฟ้า บริเวณหาดทราย จากพี่สาวที่รับหน้าที่ดูแลและบริหารบ้านพักที่หัวหิน ได้ดื่มด่ำบรรยากาศยามเช้า เห็นแสงทองของวันใหม่ เห็นศิลปะบนท้องฟ้าที่แทบจะไม่เหมือนกันสักวัน ได้ชมร่องรอยชายหาดที่ไม่มีขยะเจือปน เห็นร่องรอยของค่ำคืนที่ผ่านมาจากซากเปลือกหอย และเรือที่ทอดสมอจากการกลับมาหาฝั่ง เห็นท้องฟ้าที่สวยใส น้ำทะเลสีคราม หาดทรายขาว ทุกสิ่งเริ่มกลับสู่ความงามยามไร้ร้างผู้มาเยือน และทุกเช้าก็มักจะมีบทรำพึงถึงความรักของพระเจ้าและความอัศจรรย์ของสิ่งสร้าง เพื่อจะได้เขียนบทบันทึกลงในโซเชียลมีเดีย ถือว่าเป็นการได้รับแสงทิพย์ ได้รำพึงทิพย์ และพบความหวังในทุกเช้าวันใหม่ มีพลังในการเดินทางเพื่อให้พบเจอแสงแท้จริงในวันเวลา


ชีวิต และเส้นทางแห่งชีวิต
ล้วนเติบโตบนฐานแห่งการเรียนรู้
ทุกอย่างล้วนยึดโยงเกาะเกี่ยว

สัมพันธ์กันอย่างไม่อาจหลีกหลบ
บางสิ่งอาจเป็นต้นธารแห่งความสุข
ขณะหนึ่งอาจเป็นต้นธารแห่งความทุกข์
แต่ทั้งปวงนั้น ล้วนเป็นครรลองวิถีที่ชีวิต

ทุกชีวิตต้องพบพาน - จากพราก
และเติบโตบนปรากฏการณ์แห่งสุขและทุกข์


เวลาที่เราเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทั้งจากภาพถ่ายหรือของจริง ๆ เราย่อมรู้ว่าแสงที่เริ่มส่องของวันใหม่นี้กำลังทำให้เราพบเจอความสว่าง ยิ่งขึ้นสูงยิ่งทำให้โลกนี้สว่างไสว คนเราก็เช่นกันเมื่อเราสูงส่งขึ้นย่อมต้องทอแสงประกายเพื่อคนอื่น ใครก็ตามที่ลอยสูงขึ้นแล้วกลับทำให้คนอื่นทุกข์ระทม นั่นหาใช่แสงทิพย์เป็นแค่เพียงแสงเทียม ๆ ที่รอวันดับและร่วงหล่นลงมา เราเห็นมานักต่อนัก ใครทำเพื่อตัวเองไม่นานเขาจะเหลือเพียงตัวคนเดียวเท่านั้น บทเรียนเกิดขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังมีคนที่ไม่ยอมรับ เพราะถือครองตัวตนจนเกินเลยความเป็นคน

แม้ว่า “ทิพย์” ในห้วงยามนี้อาจจะเป็นเพียงจินตนาการ เป็นมโนโซเชียล ไม่มีอยู่จริงโดยมีอดีตเป็นตัวตั้ง เพื่อมาสร้างสตอรี แต่สำหรับชีวิตแท้ของเราแล้วย่อมต้องการทิพย์ เพราะเป็นของสูงค่า เป็นของเบื้องบนเป็นของเทวดา นำมาเป็นแสงส่องเพื่อให้ชีวิตภายในของเราได้รับการยกระดับขึ้น ใช่หรือไม่ การมโนทิพย์ของเราวันนี้ล้วนมีตัวเองเป็นตัวตั้ง ฝันถึงความสำราญ ความสุข ให้เป็นดังหวัง ดังฝัน ก็เป็นสิ่งที่ไม่เสียหายอันใด แต่จะให้ดียิ่งขึ้นเราต้องให้ทิพย์เหล่านั้นเพื่อคนอื่น ให้ทิพย์ที่เป็นสิ่งที่ประเสริฐหาใช่เพียงมโน โมเมเอา ให้ชีวิตเราเป็นทิพย์เพื่อกันและกัน ในวันเวลาที่แสนสาหัสนี้ เราจะได้ยกระดับชีวิต จิตใจ จิตวิญญาณ เมื่อโรคร้ายห่างหายไป เราจะได้สังคมทิพย์ที่แท้จริง เป็นสังคมที่เต็มไปด้วยความมีน้ำใจ อารีเอื้อเกื้อกูลกันแบบยั่งยืน ที่สุด…เพื่อให้การพลีชีวิตของพระเยซูเจ้า เพื่อเป็นอาหารทิพย์ของพวกเราได้สำเร็จเสียที วันนี้เราได้มีส่วนร่วมในภารกิจรักนี้มากน้อยเพียงใด ตื่นเช้ามาเรายังมีลมหายใจ ย่อมมีค่า และวันนี้ยังมีชีวิตอยู่นี่แหละ คือ สิ่งประเสริฐสุด หวังว่าพรุ่งนี้เราทุกคนจะตื่นมาเห็นแสงทองของจริง เพื่อเป็นทิพยโอสถเสริมภูมิให้เราก้าวหน้าต่อไปในหนทางแห่งรักนี้ด้วยกันตลอดไป

ไม่มีความคิดเห็น: