งามล้ำ
ในโลกที่กว้างใหญ่ไพศาลใบนี้
แต่ละวันมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย เรามิอาจจะรับรู้ได้หมดทุกเรื่อง
และก็ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องด้วย แล้วมันก็เป็นไม่ได้เลยที่จะเป็นเช่นนั้น
เราล้วนมีขีดจำกัด ในฐานะคนธรรมดาสามัญ แต่ด้วยในยุคเทคโนโลยีครองเมือง
ครองคนจนทำให้โลกกว้างไร้ขีดจำกัด ทำให้เรารู้เรื่องราวต่าง ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่โรคโควิด-19
กำลังไล่ล่าผู้คน เราจึงได้เห็นโรคในโลกอย่างรวดเร็ว
เห็นมุมด้านของแต่ละชาติ เห็นอคติ ทัศนคติที่หลายคนเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เห็นความงาม
เห็นความดีมีเมตตา บังเกิดขึ้นในหลาย ๆ แห่ง และที่สุดมันทำให้เรามองเห็นตัวเองมากขึ้น
จีฮัด อัล ซูไวติ ชาวปาเลสไตน์วัย 30 ปี
ปีนกำแพงโรงพยาบาลเฮบรอน ในเขตยึดครองเขตเวสต์แบงค์
ที่แม่ของเขารักษาอาการป่วยโรคมะเร็งและโควิด-19 อยู่เป็นประจำทุกวัน
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล กล่าวว่า หนุ่มรายนี้ปีนท่อน้ำขึ้นไปนั่งบนขอบหน้าต่าง
จุดที่มองเห็นแม่ในห้องคนไข้แผนกไอซียูบนชั้นสองจากด้านนอก และจะลงมาต่อเมื่อมั่นใจว่าแม่หลับแล้ว
แม้ว่าอัล ซูไวติ ได้รับการเตือนว่าไม่ควรปีนกำแพงแบบนั้นเพราะอาจพลัดตกลงมาได้
แต่เขาไม่ฟัง ยังคงปีนขึ้นไปนั่งดูแม่วัย 73 ปีทุกวัน
รายงานระบุว่า นางรัสมี ซูไวติ แม่ของเขา ป่วยเป็นลูคีเมีย
ก่อนติดไวรัสโรคโควิด-19 เมื่อสองสามสัปดาห์ที่แล้ว พี่ชายของอัล ซูไวติ กล่าวว่า
น้องชายใกล้ชิดกับแม่มาก โดยเฉพาะตั้งแต่พ่อจากไปเมื่อ 15 ปีก่อน
เคยพยายามจะเข้าไปในรพ.เมื่อรู้ว่าแม่อาการทรุดลงแต่ไม่ได้รับอนุญาต ( cr. เพจ :คมชัดลึก)
บางทีโควิด-19
ก็ให้บทเรียนกับเราในเรื่องของการอยู่กับคนที่เรารัก มีเวลาให้กัน
มีเวลาดูแลกัน มีเวลาใส่ใจกันและกัน โลกนี้กว้างเกินกว่าที่เราจะไขว่คว้าอะไรต่อมิอะไรได้
แต่วิถีธรรรมดาบนโลกนี้ยิ่งใหญ่เกินสิ่งใด ถ้าเรารู้จักที่จะรักและค้นพบให้เจอ
ในชีวิตจริง บ่อยครั้งเราก็พยายามออกตามหาความสำเร็จในรูปแบบต่าง ๆ จากสิ่งนั้นไปสู่สิ่งนี้ไม่หยุดหย่อน
ไม่ผ่อนคลาย ตะเกียกตะกายตามหาคำสรรเสริญเยินยอ อยากเป็นที่รักของทุกคน แต่ไม่เคยมอบรักแท้ให้กับคนใกล้ตัว
เห็นความสำคัญกับคนนั้นคนนี่ แต่คนที่ทำให้เราแทบเป็นแทบตายกลับไร้ค่า หรือมีบ่อยไปที่เราไม่เคยจะชื่นชมคนทำงานด้วยกัน
เอาแต่กล่าวว่าบ่นจนเสียกำลังใจ
เพราะมัวแต่ไปยกย่องชื่นชมคนที่เพียงผ่านมาพูดมากล่าวให้ฟังด้วยถ้อยคำที่สวยหรูจนเคลิ้มตาม
ประสบการณ์แบบนี้เราเห็นกันอยู่ทั่วไป
เอาเข้าจริง ในยามที่ลำบาก เวลาที่ทุกข์ยาก จะเหลือคนสักกี่มากน้อยที่อยู่เคียงข้างเรา
และคนที่ไม่ทิ้งห่างจากเรา คนเหล่านี้แหละที่ห่วงใยเราจริง
และพร้อมจะอยู่กับเราในทุกสถานการณ์ นี่คือสมบัติล้ำค่าที่สุดที่เราควรดูแลรักษาไว้
เรามีไข่มุกเม็ดงามในหัวใจเราและสมบัติล้ำค่าที่มากับคนร่วมทุกข์-สุขกับเราอยู่แล้ว
เป็นสิ่งที่สวรรค์มอบมาให้เรา เพียงแต่เราได้เห็นค่ากับสิ่งงามล้ำอันนี้หรือเปล่า
ภาพหนุ่มน้อยนั่งเฝ้าแม่ตรงหน้าต่างโรงพยาบาลนั้น คือ บทสอนของความรักที่ธรรรมดาแต่แสนจะยิ่งใหญ่เกินคำบรรยาย
ที่เราหลายคนอาจจะมองข้ามผ่านไป คุณค่าของชีวิตอยู่ตรงที่มีความรัก
มิได้อยู่ที่มีเงินทองทรัพย์สมบัติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น