วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2563

รักต้านโรค


รักต้านโรค
ไวรัสน้อยในนามโควิด-19 ยังซ่าไม่หายวิ่งซุกซนท่องเที่ยวไปครึ่งค่อนโลก สร้างความตระหนกจนโลกนี้ดูจะเงียบเหงาลงไปโดยปริยาย การระบาดที่ดูจะหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกวัน หลายประเทศต้องปิดบ้านปิดเมืองไม่ต้อนรับเจ้าไวรัสจิ๋วนี้ ในประเทศไทยของเราทุกหน่วยงานต่างพยายามเต็มที่ ช่วยกันประคับประคองไม่ให้เกิดการสูญเสียชีวิตของผู้คน มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อที่จะจัดการบางสิ่งบางอย่างได้ง่ายขึ้น การระบาดครั้งนี้ทางการแพทย์เรียกว่า “โรคอุบัติใหม่” ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการต้านในการรักษา ทำได้คือต้องลดระยะห่างการติดต่อในสังคมลง จึงจำต้องให้ทุกคนอยู่แต่ในบ้าน โดยเฉพาะช่วงเวลาที่คาดกันว่าเป็นช่วงพีคที่สุดของการแพร่เชื้อจากผู้คนที่เคยไปร่วมกันในสนามมวยและในผับ ถ้าทุกคนเข้าใจร่วมกันทำตามไม่ดื้อรั้น ไม่เห็นแก่ตัว ไม่อวดเก่ง ไม่เอาแต่ใจ ทำตามที่ภาครัฐขอร้อง อยู่กับบ้านเฝ้ากับคอนโดฯสักช่วงเวลาหนึ่ง เราก็จะลดการแพร่กระจายเชื้อลงได้บ้าง แน่นอน...ย่อมมีผลกระทบกับหลายคนทั้งในเรื่องการทำมาหากิน การค้าการขาย ที่เราเคยชินที่เราใช้เพื่อการดำรงชีพและยึดมันว่าเป็นฐานหลักของการมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อพิจารณากันอีกทีสังคมมนุษย์เคยอยู่มาได้โดยมิต้องใช้หลักเศรษฐกิจการค้าการขายนำ เราอยู่กันได้ด้วยการเอื้ออาทรแบ่งปันกัน ใครมีมากก็แบ่งให้คนมีน้อยด้อยกว่า สังคมแบบนี้ต่างหากที่จะมีสันติสุข 

โคโรนา : อนามัยโลกตั้งชื่อ "โควิด-19" ให้โรคทางเดินหายใจจากไวรัส ...

และนี่จึงเป็นช่วงเวลาของมนุษยชาติที่จะเรียนรู้การจะอยู่ร่วมกันต่อไปอย่างไรในวันข้างหน้า? ท่ามกลางเทคโนโลยีล้นเมือง แค่เรื่องไวรัสจิ๋วเรายังจัดการกันไม่ได้ หรือว่าไวรัสร้ายตัวนี้จะมาสอนคนทั้งโลกให้ลด ละ ความเป็นตัวตนลง หันมาให้ความสนใจใส่ใจต่อผู้คนรอบข้างบ้าง โดยเนื้อแท้แล้วเราทุกคนมีความเมตตาเอื้ออาทรต่อกันเสมอ ในขณะที่เมืองไทยเราเริ่มปิดเมือง ให้คนอยู่ในบ้าน ร้านอาหารหลายร้านมีเมตตาทำอาหารวางไว้ เขียนป้ายให้ผู้คนที่ลำบากได้หยิบเอาไปกิน เห็นหลายคนซื้อหน้ากาก ซื้อเจล ซื้อแอลกอฮอลล์ วางไว้หน้าบ้านให้ผู้คนที่ผ่านไปมาต้องการใช้ก็สามารถใช้ได้เลย เราเริ่มมีน้ำจิตน้ำใจต่อกัน และจะค่อย ๆ มีมากขึ้น คนไทยเราเรื่องน้ำใจก็เป็นหนึ่งในโลก ยามเมื่อเกิดวิกฤต เราก็มักเห็นการช่วยเหลือกันอย่างนี้เสมอมา และเราจะรอดปลอดภัยไปด้วยกัน เราจะเป็นสังคมที่ทุกคนมือสะอาด ใจงาม เราจะกลับเป็นสังคมแห่งการแบ่งปันเอื้ออาทรกันมากขึ้น ยิ่งทุกข์ยากลำบาก เรายิ่งเห็นคุณค่าของกันและกัน

ข่าวภาพน้ำใจดีๆ เจ้าของบ้านใจดีแจกข้าวไก่กระเทียมฟรี แบ่งปันสู้ ...
จากที่หลายคนไม่ชอบอยู่บ้าน ชอบออกไปวิ่งวุ่นอยู่ข้างนอก จนหลายครั้งหลงลืมที่จะดูแลคนในบ้าน สถานการณ์เช่นนี้จึงทำให้เราต้องอยู่บ้าน อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวมากขึ้น มีเวลากินข้าวร่วมกันมากขึ้น มีเวลาพูดคุย ช่วยกันทำความสะอาดบ้าน ลูกหลานมีเวลาสอนคนเฒ่าคนแก่ใช้เครื่องมือสื่อสารสมัยใหม่เพื่อร่วมพิธีมิสซาออนไลน์ ผู้ใหญ่ในบ้านเริ่มเห็นคุณค่าของวัยรุ่น เริ่มลดอคติต่อกัน ความรักค่อย ๆ กลับคืนสู่เย้า เริ่มมีการบอกเล่าประวัติความเป็นมาของครอบครัว ลูกหลานได้เรียนรู้ถึงความยากลำบากในวันวานของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ ต่างเปิดโลก เปิดจิตเปิดใจให้กันและกันมากขึ้น ห่วงใยกันมากขึ้น มีเวลาที่จะสวดภาวนาพร้อม ๆ กัน บ้านคือวิมานของเรา บ้านคือวิหารและคือพระศาสนจักร จากความกลัวกลายเป็นความกล้าที่จะยืนยันในความวางใจถึงความเชื่อของตนมากขึ้น หลายคนไม่เคยเห็นคุณค่าของการสวดภาวนา ไม่สนใจเรื่องจิตวิญญาณ เมื่อต้องปิดบ้านจิตใจจึงเริ่มเปิดออกที่จะแสวงหาความจริง การสวดภาวนาหาใช่เพื่อไล่ไวรัสร้าย หากแต่เป็นการเพิ่มเติมพลังให้จิตใจเข้มแข็ง ใช่หรือไม่ หากจิตใจมั่นคงร่างกายย่อมแข็งแรง และพลังของการสวดภาวนาคือพลังใจที่จะกอบกู้โลกใบนี้เสมอมา ทุกศาสนาจึงเริ่มที่จะใช้วิถีทางนี้ร่วมกัน เพื่อให้โลกก้าวผ่านวันคืนที่มืดมนนี้ไปได้อย่างปลอดภัย


โรคร้ายที่อุบัติขึ้นแม้จะยากที่จะต้านทาน แต่เมื่อทุกคนนำความรักที่มีในหัวใจออกมาสู้ ย่อมต้านโรคนี้ได้ ความรักต่อคนรอบข้าง ความรักที่ผ่านทางเมตตาอาทร ความรักที่ผ่านทางความห่วงใย ความรักที่ต้องอดทนเสียสละด้วยกันจะช่วยค้ำจุนโลกใบนี้ให้คงอยู่ เราผู้ที่เป็นศิษย์พระคริสต์ ที่กำลังอยู่ในช่วงเวลามหาพรต เวลาที่เราต้องลด ละ สละน้ำใจของตนเองเพื่อผู้อื่น เราต้องใช้เวลาที่เหลือตรงนี้ให้มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น แม้จะเป็นมหาพรตที่ยากลำบาก แม้ว่าจะเป็นมหาพรตที่วิตกตระหนก เรายิ่งต้องน้อมรับไว้ และก้าวไปในหนทางนี้พร้อมกับพระเยซูเจ้าผู้ทรงเสียสละชีวิตเพื่อเราทุกคนมาแล้วเพราะด้วยความรักของพระองค์มิใช่หรือเราจึงมีวันนี้ และในวันนี้เราต้องให้ความรักนี้เช่นกันเพื่อจะก้าวข้ามผ่านโรคร้ายนี้ไปด้วยกันเพื่อวันข้างหน้า แม้จะยาวนานสักเพียงใดกางเขนชัยคือเป้าหมายของเราทุกคน....
เราจะให้จิตของเราเข้าไปในท่าน และท่านจะมีชีวิต : อสค 37:12-14

ไม่มีความคิดเห็น: