วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ล้างทางใจ


ล้างทางใจ
การเตรียมงานเตรียมพื้นที่สำหรับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส กำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ที่วัดเซนต์หลุยส์ของเราซึ่งอยู่ใกล้ที่ประทับของพระองค์ในภารกิจเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ จึงได้มีการตระเตรียมในหลาย ๆ ด้าน เดินผ่านมาที่วัดเห็นหลังคามีคนหลายคนกำลังปีนป่ายขัดสีเพื่อให้ขาวสะอาดขึ้น งานแบบนี้เราก็ต้องอาศัยคนที่มีความชำนาญการ ก็คงเหมือนกับการที่สมเด็จพระสันตะปาปาที่พระเจ้าทรงเลือกสรรให้มารับภารกิจแห่งรักนี้ ย่อมต้องเป็นผู้ที่เหมาะสมกับงานที่พระทรงมอบหมาย ในวันที่สันติภาพหายาก ในยุคที่ผู้คนต่างละทิ้งความเชื่อและละเลยคนยากไร้ไม่มีที่พึ่งพิง ในยุคที่มีแต่ความเห็นแก่ตัว สมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์นี้เป็นผู้มีความนบ
นอบ เป็นผู้ที่เต็มไปด้วยเมตตาในหัวใจ จึงเหมาะสมยิ่งนักที่จะมาเป็นผู้ชำระล้างสังคมให้สะอาดยิ่งขึ้น

เสียงย่ำระฆังที่กังวานคืนวันที่ 13 มีนาคม 2013 เวลา 19.08 นาฬิกา หลังจากที่ควันสีขาวพวยพุ่งออกมาทางปล่องไฟของวิหารน้อยซิสติน เป็นสัญญาณว่า เราได้สมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่เรียบร้อยแล้ว
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เสด็จออกมุขกลางหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร โดยมิได้ทรงสวมใส่เสื้อคลุมที่ถือเป็นยศตำแหน่งสูงสุดแห่งการปกครองพระศาสนจักร เหมือนดังที่เคยปฎิบัติกันมา พระดำรัสแรกในค่ำคืนนั้นสร้างความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลกว่า “พี่น้องชายหญิงที่รัก สวัสดีตอนเย็น!ดูเหมือนว่า บรรดาพี่น้องพระคาร์ดินัลได้พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะเลือกคน ๆ นั้น และเราก็ทำได้แล้ว พ่อขอขอบคุณสำหรับการต้อนรับของพวกท่าน สังฆมณฑลโรมก็มีพระสังฆราชของตนเองแล้ว ขอบคุณ! ก่อนอื่น พ่ออยากจะมอบคำภาวนาให้กับพระสังฆราชกิตติคุณของเรา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ขอให้พวกเราภาวนาเพื่อพระองค์ เพื่อที่พระเจ้าจะทรงอวยพรและแม่พระทรงปกปักรักษาพระองค์ท่าน” จากนั้น พระสันตะปาปาทรงนำสวดเพื่อพระสันตะปาปากิตติคุณ เบเนดิกต์ ที่ 16



“ตอนนี้ พวกเราได้ออกเดินทางพร้อมกัน การเดินทางของความเป็นพี่น้องกัน การเดินทางของความรัก และการเดินทางของความวางใจระหว่างพวกเรา ขอให้เราภาวนาเพื่อกันและกันเสมอ ขอให้เราภาวนาเพื่อโลก เพื่อเป็นจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่ของความเป็นพี่น้องกัน พ่อหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเดินทางร่วมกันของพระศาสนจักรที่ได้เริ่มต้นขึ้นในวันนี้จะผลิดอกออกผลต่อการประกาศพระวรสารบัดนี้ พ่อจะอวยพรพี่น้อง แต่ก่อนที่พ่อจะอวยพร พ่ออยากจะขอร้องพวกท่านได้ภาวนาขอพระเจ้าโปรดทรงอวยพรพ่อด้วย นี่เป็นคำภาวนาจากสัตบุรุษที่วอนขอพรเพื่อพระสังฆราชของตน เอาล่ะ ให้เราเงียบสักครู่ ขอให้พวกท่านภาวนาเพื่อพ่อด้วยนะ (เงียบและภาวนา)
พ่อจะอวยพรทุกท่านและอวยพรให้แก่ทุก ๆ คนบนโลกด้วย อวยพรให้กับชายและหญิงที่มีจิตใจดีงาม (พระสันตะปาปาประทานพร) พี่น้องที่รัก พ่อคงต้องลาแล้ว ขอบคุณสำหรับการต้อนรับ โปรดภาวนาเพื่อพ่อด้วยนะ ภาวนาจนกว่าเราจะพบกันอีกครั้ง เราจะได้พบกันอีกเร็ว ๆ นี้ พรุ่งนี้ พ่ออยากจะไปสวดขอแม่พระ เพื่อให้แม่พระคุ้มครองรักษากรุงโรม ราตรีสวัสดิ์และนอนหลับฝันดี!”
หลังจากพระองค์ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมเด็จพระสันตะปาปา ทรงเลี่ยงการประทับรถยนต์พระที่นั่งหลังจากที่ปรากฏพระองค์กับฝูงชนที่มุขกลาง โดยเลือกเสด็จร่วมกับพระคาร์ดินัลองค์อื่น ๆ เพื่อไปร่วมอาหารมื้อค่ำ ซึ่งจัดขึ้น ณ ที่พักของพระคาร์ดินัลที่มาร่วมเลือกตั้งพระสันตะปาปา พระองค์ได้ชื่อเป็นผู้มีสมถะ เคร่งวินัย ใช้ชีวิตบนความเรียบง่าย ไม่มีพิธีรีตอง อาศัยอยู่ในอาคารชุดขนาดเล็กนอกเมืองบัวโนสไอเรส และใช้รถเมล์ประจำทางในการเดินทางประจำวัน


ทำไมพระสันตะปาปาถึงปรารถนาใช้นามว่า “ฟรังซิส” บางคนคิดว่าเป็น ฟรังซิส เซเวียร์ บ้างก็ ฟรังซิส เดอ ซาลส์ หรือไม่ก็ ฟรังซิส อัสซีซี  พระองค์เล่าที่มาที่ไปว่า “ในระหว่างการเลือกตั้งพระสันตะปาปา พ่อนั่งติดกับพระคาร์ดินัล เคลาดิโอ ฮุมเมส ประธานกิตติคุณสมณกระทรวงเพื่อพระสงฆ์ ผู้เป็นเพื่อนที่แสนดี ตอนที่พระสันตะปาปาองค์ใหม่ได้รับเลือกด้วยคะแนน 2 ใน 3   พระคาร์ดินัลฮุมเมสมากอดและจุมพิตมือพ่อ พร้อมกล่าวว่า “อย่าลืมคนยากจนนะ” คำว่า “คนยากจน คนยากจน” นี่แหละที่ติดในหัวพ่อทันที วินาทีนั้น เมื่อคิดถึงความยากจน พ่อนึกถึงนักบุญฟรังซิส อัสซีซี ผู้ที่ยังเป็นบุรุษแห่งสันติภาพอีกด้วย นั่นจึงเป็นที่มาว่าชื่อนี้ สำหรับตัวพ่อเอง นักบุญฟรังซิสเป็นบุรุษแห่งความยากจน สันติ และยังเป็นคนที่รักและปกป้องสิ่งสร้างของพระเจ้า ทุกวันนี้ เราไม่ได้มีความสัมพันธ์อันดีงามกับสิ่งสร้างของพระเจ้าไม่ใช่เหรอ นักบุญฟรังซิส คือบุรุษที่มอบจิตวิญญาณแห่งสันติและความยากจนให้กับเรา พ่อจึงอยากให้พระศาสนจักรดำเนินชีวิตต่ำต้อยและเพื่อคนยากจน
นี่คือต้นแบบของการล้างทางใจที่เราควรจะเตรียมใจให้เปี่ยมด้วยเมตตาและสันติไว้เพื่อต้อนรับพระองค์
(ขอบคุณข้อมูลจาก Pope Report)

ไม่มีความคิดเห็น: