วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ให้โอกาสคือให้สันติสุข


ให้โอกาสคือให้สันติสุข
เสียงลมข้างรถดังขึ้น ดังมาจากไหน มองไปมองมาก็จากล้อนั่นเอง ล้อค่อย ๆ แฟบลง ๆ จนแบนติดพื้น โชคดีที่รถได้จอดอยู่ในลานจอดรถของอุทยานแก่งกระจาน ตรงนั้นมีทหารเวรอยู่ 2-3 คน ก่อนที่จะลงมือเปลี่ยนยางอะไหล่ หนึ่งในคณะได้เข้าไปขอความช่วยเหลือจากทหารเวร ซึ่งได้โทรไปแจ้งให้เพื่อนทหารอีกสองคนนำเครื่องมือมาช่วย และเป็นธุระในการเติมลมล้ออะไหล่และเปลี่ยนใส่แทนล้อที่ยางรั่ว เพื่อให้เราขับรถไปยังร้านในตลาดเพื่อปะยาง แน่นอน หน้าที่ทหารคือดูแลช่วยเหลือประชาชน นี่คืออุดมการณ์ฝังอยู่ในหัวจิตหัวใจ ในขณะที่เราถูกปลูกฝังวิถีชีวิตคนเมืองที่ต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างเก่ง จึงไม่ค่อยชินกับสิ่งเหล่านี้ ก็ออกอาการขวยอายบ้าง และรู้สึกเกรงใจทั้ง ๆ ที่พวกเขาถือว่าการช่วยเหลือครั้งนี้มันเล็กน้อยมาก ใช่หรือไม่ บางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง มักมีสิ่งมีติ่งเตือนให้ต้องหวนคำนึงถึงตัวเราไม่มากก็น้อย คำว่า การให้ การมีน้ำใจต่อคนอื่นโดยไม่ต้องคิดผลตอบแทนมันคือหน้าที่อย่างหนึ่งของความเป็นมนุษย์ ที่กำลังถูกลดทอน ถูกแทนที่ด้วยเครื่องอำนวยความสะดวก จนคิดกันไปเองว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเราทำด้วยตัวเองได้ มันก็เลยทำให้หัวใจเราแกน ๆ ลง 


ทุกวันนี้เราต่างเลือกที่จะอยู่กับเครื่องมากกว่าอยู่กับคน หัวใจอันละมุนกลับคุกรุ่นไปด้วยความอยากได้ อยากมี ละเลยการที่จะเห็นใจกันและกัน เราถูกทำให้ตกอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างไป ไม่สนใจใยดีต่อกัน เราถูกทำให้เชื่อว่าความสุขของเราอยู่ที่การได้เสพสื่อ เสพสิ่งบันเทิงจากผู้อื่น เพื่อกระตุ้นให้เราเกิดกิเลส เรามักมองข้ามผ่านเรื่องราว เรื่องเล่าดี ๆ ที่สวยงาม แต่ชอบที่จะเลือกเสพข่าวตามกระแส เรื่องชาวบ้านคืองานของเราชาวเน็ต เรื่องเด็ด ๆ คือเรื่องที่เราต้องไม่พลาด ยิ่งเรื่องบาดหมางยิ่งสนุก ทุกข์คนอื่นคือสุขของเรา หากเราปล่อยให้เราต้องอยู่ในกระแสเช่นนี้จนไม่สามารถจะฉุดรั้งขึ้นมาได้ ก็จะกลายเป็นผู้คนที่ไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่รู้ว่าสิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร อ้างเพียงเสรีภาพส่วนตัว เมื่อถึงขั้นนี้แล้วเราก็จะไม่ให้โอกาสใคร แม้กระทั่งโอกาสตัวเอง

การให้โอกาสแก่กันนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่จะนำโลกให้ก้าวหน้าไปในครรลองของธรรม การให้โอกาสแก่กันสำคัญมากกว่าการให้ทรัพย์สินใด ๆ สังคมเรากำลังก้าวพลาดจากสิ่งเหล่านี้ไป การพัฒนาสิ่งต่าง ๆ จึงดูเหมือนว่าเพื่อการค้าขายและเพื่ออำนวยความสะดวกทางกายภาพเท่านั้น ไม่เหมือนวันวานที่ผ่านมาโลกของเราก็ไม่เคยขาดการพัฒนาที่สามารถเป็นประโยชน์ต่อชีวิตผู้คน ที่มาจากการให้โอกาสกัน ดังเช่นเรื่องของ เฟลมมิง เป็นชาวนาชาวสกอตแลนด์ผู้ยากจน 
วันหนึ่งระหว่างที่เขากำลังทำงานอยู่ในไร่ เฟลมมิ่งก็ได้ยินเสียงร้องให้ช่วยดังมาจากบึงโคลนที่อยู่ไม่ไกลแถวนั้น โดยไม่ต้องคิด เขาวางมือจากงานที่ทำอยู่ แล้ววิ่งตรงไปที่บึงอย่างรวดเร็ว แล้วเมื่อเข้าใกล้เขาก็เห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังถูกโคลนดูดอยู่กลางบึง ยิ่งเขาพยายามดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองมากเท่าใด เด็กหนุ่มก็ยิ่งจมลงไปในโคลนมากขึ้นเท่านั้น ตอนนี้โคลนอยู่สูงถึงหน้าอกของเขาแล้ว เด็กหนุ่มจึงร้องอย่างกลัวความตาย เมื่อเห็นอย่างนั้น เฟลมมิงก็วิ่งลุยโคลนลงไปโดยไม่คิดถึงความปลอดภัยของตัวเอง เขาต้องช่วยเด็กหนุ่มออกมาให้ได้ โชคดีเป็นของเด็กหนุ่มที่เฟลมมิงอยู่ตรงนั้น ทำให้เขารอดพ้นจากความตาย
ในวันต่อมา มีรถม้าอันหรูหราสวยงามมาจอดตรงหน้าบ้านอันยากแค้นของเฟลมมิง แล้วขุนนางผู้สูงศักดิ์ในเครื่องแต่งกายงดงามก็ก้าวลงจากรถม้า  เขาแนะนำตัวเองว่าเป็นบิดาของเด็กหนุ่มที่เฟลมมิงช่วยไว้เมื่อวานนี้
“ข้าต้องการจะตอบแทนเจ้า” ชายสูงศักดิ์กล่าว  “ที่ได้ช่วยชีวิตลูกชายของข้าไว้”
“ข้ารับค่าตอบแทนจากสิ่งที่ข้าทำลงไปไม่ได้หรอก”  เฟลมมิงตอบกลับและในเวลาเดียวกันนั้น ลูกชายของเขาก็เดินออกมาจากตัวบ้าน “นั่นคือลูกชายของท่านใช่หรือไม่?”  ชายสูงศักดิ์ถาม “ใช่” “ถ้าเช่นนั้นข้ามีเรื่องจะตกลงกับเจ้า ข้าอยากช่วยลูกชายของเจ้าให้ได้เรียนหนังสือมากเท่าที่ลูกชายของเจ้าพอใจจะได้หรือไม่ เพราะถ้าหากว่าลูกชายของเจ้าเป็นเหมือนพ่อของเขาแล้ว เขาจะเติบโตขึ้นเป็นคนที่พวกเราจะต้องภาคภูมิใจอย่างไม่ต้องสงสัย”
เฟลมมิงตอบตกลงรับข้อเสนอนั้น ต่อมาลูกชายของเฟลมมิงจึงได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่ดีที่สุด หลังจากที่เขาเรียนจบจากโรงเรียนแพทย์ของโรงพยาบาลเซนต์แมรีส์ในลอนดอน ชายหนุ่มคนนี้ก็กลายมาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในชื่อของ เซอร์อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิง ผู้ค้นพบยาเพนนิสซิลินนั่นเอง 
ภายหลัง ลูกชายของชายสูงศักดิ์ที่เฟลมมิงได้ช่วยไว้จากโคลนดูด ก็ล้มป่วยด้วยโรคปอด แล้วอะไรล่ะที่ช่วยชีวิตเขาไว้ได้อีกครั้ง? แน่นอน นั่นก็คือยาเพนนิสซิล ชื่อของชายสูงศักดิ์คนนั้นคือ ลอร์ด แรนดอลฟ์ เชอร์ชิลล์ และลูกชายของเขามีชื่อว่า เซอร์วินสตัน เชอร์ชิลล์ ที่กลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรและเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม (ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสทูเดย์)

ภาพ : อินเตอร์เน็ต
พระเยซูเจ้าให้โอกาสแก่สานุศิษย์ด้วยการส่งออกไปเพื่อทำหน้าที่นำความรักและสันติสุขมอบแด่ทุกคน ในวันนี้เราได้มอบสันติสุขแก่ใครบ้าง? เริ่มจากคนใกล้ตัวเรา ให้โอกาสแก่กันและกัน ให้กำลังใจกันในการก้าวสู่วิถีชีวิตของศิษย์พระคริสต์ไปพร้อม ๆ กัน

ไม่มีความคิดเห็น: