สำคัญว่าทำอะไร?
หลังจากจบชั่วโมงสอนยังเห็นนักเรียน 2-3 คน วนเวียนหาบางสิ่งบางอย่างอยู่
จึงเข้าไปสอบถามได้ความว่า สิ่งที่หาอยู่นั้นเป็นวัสดุที่จะเอาไปทำพานไหว้ครู
เลยถามว่า “ปีนี้หนู ๆ ทำพานเป็นรูปอะไร” เด็กยิ้มอย่างภาคภูมิใจแล้วตอบว่า
“ชั้นของหนูตกลงทำพานเป็นรูปนกยูงค่ะ”
“หมายถึงอะไรหรือครับนักเรียน” ถามเพื่ออยากให้เด็กแสดงความคิดเห็น
“ก็นกยูงมีหางที่สวยงาม เวลารำแพนกางออก เราจะรู้ว่านั่นคือนกยูง
ถ้าไม่มีหางมันก็ไม่ใช่นกยูง เปรียบเหมือนคุณครูทั้งหลายที่สอนพวกหนู ให้มีความรู้ที่สวยงามและพวกหนูก็จะมีคุณค่าค่ะ”
ใช่เลย ความคิดที่จะเขียนเรื่องนี้ เลยต่อยอดจากคำตอบของนักเรียน นกยูงทุกตัวมีคุณค่าที่หางยามรำแพน
โดยที่มิได้สนใจให้ใครจดจำถึงตัวมัน เราคงไม่ไปจดจำว่านกยูง ก. สวยกว่านกยูง ข. ในเวลานึกถึง
หรือยามต้องวาดรูปต้องทำสัญลักษณ์นกยูง คมได้เลือกนกยูง ก. มากกว่านกยูง ข. แต่เรารู้ว่านกยูงต้องมีหางรำแพนออกแล้วสวยงามต่างหาก...
ภาพ : อินเตอร์เน็ต |
วันเวลาเดินทางปกติ แต่เมื่อเราผ่านวันเวลามามากก็รู้สึกว่า
ทำไมวันเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ยังนึกว่าเพิ่งฉลองปีใหม่หยก ๆ ผงกหน้าดูปฏิทิน
อ้าว ย่างเข้าครึ่งปีหลังอีกแล้ว แต่ละวันผันผ่านชนิดที่เรียกว่ายังไม่ทันทำอะไรก็หมดวันเสียแล้ว
แต่เมื่อนึกดู จริง ๆ ไม่ใช่ว่ายังทันทำอะไร แต่เราไม่ทำอะไรต่างหาก เราปล่อยให้เวลาเดินผ่านไปอย่างไร้ค่า
หลายครั้งเราเสียเวลากับการสไลด์หน้าจอขึ้นลงอย่างไร้จุดหมาย รูดไปรูดมา
เพื่อหาข่าวใหม่ ๆ สิ่งใหม่ ๆ แต่สิ่งที่พบคือข่าวเดิม วนซ้ำไปมาด้วยเจ้าใหม่ที่ก็อปปี้มาลงต่อ
ๆ กันไปมา เป็นชั่วโมง ๆ ที่เราจมดิ่งไปกับข่าวสั้น ข่าวลือ ข่าวปล่อย
ข่าวของคนนั้นคนนี้ เรื่องราวของผู้นั้นผู้นี้ บางคนถึงขั้นนิ้วอยู่ไม่สุข
ขอละเลงความคิดเห็นส่วนตัวสักหน่อย เพื่อให้ชาวบ้านเมืองเน็ตได้รู้ความเป็นตัวเรา นาน
ๆ ที เราจึงจะได้ข้อคิดข้อเตือนใจ ได้อ่านได้ฟัง พอให้ได้สติ ครั้นหันคืนสู่ปกติวิถีเราก็ถูกดูดเวลาไปเสียมาก
ยิ่งเราอยู่กับเครื่องมากเท่าใด เรายิ่งจมจ่อมอยู่กับตัวเองมากเท่านั้น
แล้วก็มองไม่เห็นสิ่งเป็นจริงรอบตัว ได้แต่เอาความเสมือนจริงมาก่อกิเลสให้กับชีวิต
เห็นคนอื่นมี เห็นคนอื่นได้ ยิ่งอยากมีอยากได้อย่างเขา รับเพียงแค่ความมีความเป็นของคนอื่น
หาได้ศึกษาขั้นตอน หนทางที่กว่าเขาจะมาถึง เมื่อต่างคนต่างจ้องมองคนอื่นเพื่อสร้างแรงกระตุ้นความอยากให้ตัวเองมากเท่าใด
จิตใจเราจึงสาละวนอยู่แต่เรื่องของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
แล้วก็พาลคิดเข้าข้างตัวเอง สร้างโลกอีกใบให้ตัวเอง สร้างความเป็นยอดมนุษย์เพื่อหล่อเลี้ยงความโลภในชื่อเสียง
โลภในความอวดดี ความเก่ง
จนหลงลืมโลกแห่งความเป็นจริงที่ไม่อิงบทละครว่าคนเรามีหลากหลายมิติ มีเวลาพลาด
เวลาดี เวลาสุขเวลาทุกข์ และคุณค่าของความเป็นคนที่แท้จริงคือ
เราทำอะไรให้ผู้อื่นบ้างหรือยัง??? การหลงตัวเองจนโงหัวไม่ขึ้น บ่อยครั้งสร้างความรู้สึกโดดเดี่ยวให้กับเรา
บ่อยครั้งสร้างความอ้างว้างเข้าครอบครองจิตใจเรา เราไม่จำเป็นต้องให้ใครจำเราได้ ขอแค่เขาจำความดีงามที่เราทำไว้
นี่คือสิ่งที่คนจะรำลึกถึงเรา และความดีนั้นจะงอกงามออกดอกผลต่อไป
ภาพ : อินเตอร์เน็ต |
วันหนึ่ง จอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์ (นักเขียนบทละครผู้โด่งดังชาวไอริช)
ว่างจากงานเขียน เขาไม่รู้จะทำอะไรจึงออกมาเดินเล่น
และได้พบกับเด็กหญิงแปลกหน้าคนหนึ่ง เขาพูดคุยและเป็นเพื่อนเล่นกับเด็กหญิงคนนั้นไปค่อนวัน
พอตกค่ำก่อนที่จะจากกันเขาได้บอกกับเด็กหญิงคนนั้นว่า
“เด็กน้อย เมื่อเธอกลับไปถึงบ้าน จงบอกแม่ของเธอว่า วันนี้เธอได้พูดคุยและเล่นกับ
จอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์ เกือบค่อนวัน”
โดยคาดไม่ถึงเด็กหญิงตัวน้อยก็ได้ตอบกลับเขาไปว่า
“คุณก็เช่นกัน เมื่อคุณกลับไปถึงบ้าน
จงบอกแม่ของคุณว่าวันนี้คุณได้พูดคุยและเล่นกับแมรี่เกือบค่อนวัน”
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา จอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์
มักจะพูดต่อผู้คนทั้งหลายว่า
“คนเรา อย่าได้มองว่าตนเองสำคัญกว่าใคร ๆ”
นกยูงก็คือนกยูง คนเราก็คือคนเหมือน ๆ กัน ชื่อเสียงมีไว้ให้เรียกขาน
มิได้มีไว้ให้ไขว่คว้าหรือให้ได้มาซึ่งการยกย่องสรรเสริญ ประกาศก้อง
ถ้าเราจะได้สิ่งเหล่านี้จริง ๆ นั่นล้วนมาจากการที่เราได้ทำความดีงาม
เราได้สร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คน เราอย่ามัวมุ่งหาความสำคัญจากตัวเรา ในชีวิตจริง
เราต้องรู้จักที่จะเป็นห่วงผู้อื่นบ้าง ฝึกใจให้มีเมตตากรุณา เราจะได้หัวใจที่ละมุนมากขึ้น
เราจะได้ไม่เห็นแต่ความสำเร็จของเราฝ่ายเดียว แต่ต้องใช้ความสำเร็จเพื่อผู้อื่นเราจึงมีค่าน่าจดจำ
ในสังคมที่เต็มไปด้วยการสร้างตัวตนโดยไร้ตัวตน สิ่งนี้ไม่คงทน ความดีที่ปลอม
ๆ หรือจะสู้ความจริงใจที่จะทำดีได้ ผลของความดีแม้อาจจะไม่เห็นผลในวันนี้ แต่ผลจะคงอยู่ให้ผู้คนระลึกถึงตลอดไป
บางทีเวลาที่ผ่านพบ สายฝนที่เริ่มโปรยปรายฤดูกาลเคลื่อนคล้อยเข้ามา
กำลังจะบอกกล่าวเราว่า เรามีความดีอะไรให้ผู้คนคิดถึงเราบ้างในฐานะลูกของพระเจ้า
เหมือนอย่างที่พระเยซูเจ้าสละเลือดเนื้อ แล้วเรายังจำพระองค์ได้ พระองค์ที่เน้นย้ำกับเราว่า
“จงทำดังนี้เพื่อระลึกถึงเราเถิด”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น