เส้นบาง ๆ ระหว่าง บุญกับบาป
เคยบ้างไหม? เวลาที่เราให้เงินทำบุญกับใครหรือหน่วยงานใด
แล้วมารู้ตอนหลังว่าเงินนั้นถูกนำไปใช้แบบผิดวัตถุประสงค์ เรารู้สึกเช่นไร? ย่อมรู้สึกโกรธ
โมโห แค้นใจ เหมือนถูกหลอก มีคุณพ่อท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า เวลาเราทำบุญให้ใครจงคิดว่าเราได้บุญแล้ว
ส่วนคนที่ได้รับจะเอาไปทำตามวัตถุประสงค์ หรือ นำไปใช้ในทางที่ผิด
คนผู้นั้นก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบในบาปในส่วนนั้นไป หากเราไปโกรธโมโห บุญเราก็จะลดลงกลายเป็นบาป
โลกเรานี้บางทีก็มีความสลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนอยู่บ้าง มีคนบางจำพวกที่หากินกับการทำบุญกุศล
หากินในความเดือดร้อนของชาวบ้าน จะเห็นได้บ่อยครั้ง ยามมีวิกฤติแล้วสังคมระดมเข้าไปช่วยเหลือ
ไม่นานเราก็จะเห็นเหลือบที่แฝงมา เอาเรื่องนี้มาตั้งเป็นกองบุญ แล้วก็นำเงินไปใช้จ่ายเอง
ถูกจับได้ก็หลายครั้ง แต่ก็ยังมิวายที่จะมีเรื่องเหล่านี้ตามมา
จนทำให้ผู้คนระทดท้อต่อการทำบุญทำกุศล
บางทีมันก็อาจจะมีเส้นบาง ๆ ระหว่างบาป
บุญ คุณ โทษ อย่างไรเสียเราก็ต้องรู้จักที่จะช่วยเหลือผู้อื่นตามอัตภาพของเรา
และก็ต้องระมัดระวังที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อการหลอกลวง ที่สุด อย่าปล่อยให้การทำบุญกุศลของเรากลายเป็นการเพิ่มกิเลส
หวังได้คำยกย่อง สรรเสริญ ถ้าคาดหวังในบุญเมื่อไร ความบาปก็จะเป็นเงาตามมา การทำบุญโดยไร้การคาดหวัง
ทำบุญเพื่อจรรโลงโลก รักษาสังคม ทำบุญด้วยความคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นลูกพระ
เป็นพี่น้องในพระคริสตเจ้า จึงเป็นสำนึกมโนธรรมคริสตชนที่ดี การโลภมากในบุญก็เป็นสิ่งที่จะก่อให้เกิดความทุกข์
มีสิ่งดีงามที่เกิดขึ้นในชีวิตเรามาจากความใจบุญใจกุศล และบางเรื่องอาจจะเกิดขึ้นกับเราอย่างกับปาฏิหาริย์
หญิงม่ายคนหนึ่ง
มักทำขนมเปาะเปี้ยะให้คนทั้งบ้านกิน แต่เธอจะทำเผื่อ 1 อันใว้ให้คนหิวโซที่เดินผ่านไปมา
เธอนำเปาะเปี้ยะที่ทำเผื่ออันนั้นตั้งไว้บนขอบหน้าต่างนอกบ้าน
เพื่อให้คนต้องการหยิบไปกินเองได้
และทุกวันจะมีขอทานเฒ่าหลังค่อมเป็นผู้มาหยิบไปทุกครั้ง
แต่ขอทานเฒ่าไม่เคยกล่าวขอบคุณแม้แต่ครั้งเดียว และเมื่อเดินห่างออกไป
ยังมีการบ่นงึมงำไปตลอดทางด้วย จับใจความได้ว่า 所做之恶, 在身边..... 所做之善, 回到身边 (สอจ่อจืออัก
เหล่าต่อซิงเปียง....สอจ่อจือเสียง ห่วยเก๊าซิงเปียง) แปลว่า บาปที่กระทำเก็บไว้กับตัว
กุศลที่ได้ทำย้อนกลับมาหาตัว
วันเวลาผ่านไปเช่นนี้ทุก ๆ วัน
ขอทานเฒ่าหยิบแผ่นเปาะเปี้ยะแล้ว จะบ่นซ้ำ ๆ คำนี้
และเดินห่างออกไปเรื่อย ๆ นานวันเข้านางรู้สึกไม่ค่อยพอใจ จนสะสมถึงจุด ๆ หนึ่ง
ที่เริ่มคิดในใจว่า แม้แต่คำขอบคุณสักคำก็พูดไม่เป็นหรือไร
เอาของไปกินทุกวันไม่เคยขอบคุณ แถมยังบ่นอีกต่างหาก
มันหมายความว่ายังไงหรือตาเฒ่า ???
จนวันหนึ่ง
นางสะสมความโกรธจนระเบิดออกมา คิดอยากจะสลัดขอทานเฒ่าออกจากขนมเปาะเปี้ยะแผ่นนี้
(นางคิดว่าตาเฒ่าแย่งคนอื่นมาหยิบไปกินทุกวัน) ความคิดชั่วร้ายผุดขึ้นมาในใจวูบหนึ่ง
เอายาเบื่อใส่เปาะเปี้ยะให้มันกินก็หมดเรื่อง ระหว่างเอาเปาะเปี้ยะผสมยาเบื่อไปวางบนขอบหน้าต่าง
พลันฉุกคิดได้ว่า แอ๊ะ เรากำลังทำอะไรไปนะ พอคิดได้
ก็รีบเอาเปาะเปี้ยชิ้นนั้น โยนเข้าไปในเตา เผาทิ้งจนหมด แล้วรีบทำแผ่นใหม่ วางบนขอบหน้าต่างอีกครั้ง
ถึงเวลาขอทานเฒ่าก็มาหยิบเอาไปเหมือนเช่นเดิมทุกครั้ง พร้อมบ่นงึมงำ ๆ
แต่ครั้งนี้ฟังได้ความชัดมาก ว่า...สอจ่อจืออัก,
ฉุ่งหลิ่วซิงเปียง..สอจ่อจือเสียง, ห่วยเก๊าซิงเปียง...นางสังเกตเห็นขอทานเฒ่าบ่นงึมงำ
อย่างคนมีความสุข ไม่ปรากฏว่าจะเป็นการด่าให้ร้ายใคร ๆ เลย ช่วงที่เธอเอาเปาะเปี้ยะวางบนขอบหน้าต่าง
สายตาก็จะมองออกไปบนทางเดินที่เข้าหมู่บ้าน โดยมีความหวังว่า
จะได้เห็นหน้าลูกชายที่หลายเดือนก่อนออกจากหมู่บ้าน
ไปหางานทำในเมืองและไม่เคยส่งข่าวกลับมาให้เธอทราบเลย เธอได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่ง
ลูกชายคงจะส่งข่าวกลับมาหาเธอบ้าง
คืนวันนั้น
มีเสียงเคาะประตู เมื่อเธอเปิดออกมา ก็ต้องตกใจอย่างมาก
เห็นลูกชายยืนอยู่หน้าประตู ทั้งซูบผอมเสื้อผ้าก็ขาดรุ่งริ่งหิวโซและอ่อนล้าสุด ๆ
พอพบหน้าแม่ลูกชายก็พูดขึ้นว่า
“แม่ ที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้ได้นับว่าเป็นปาฏิหาริย์มากแล้ว
ตอนก่อนจะถึงบ้านซักกิโลเมตรกว่า ๆ ผมหิวจนเป็นลม ล้มลงกับพื้น
โชคดีเจอขอทานหลังค่อมคนหนึ่งผ่านมา ผมขอให้เขาแบ่งของกิน
อะไรก็ได้ให้ผมกินหน่อย แค่เศษ ๆ ก็พอ แต่ขอทานหลังค่อมใจดีมาก
กลับยื่นเปาะเปี้ยะให้ผมทั้งแผ่น และยังพูดกับผมว่า นี่เป็นอาหารที่เขาใช้ยังชีพทุกวัน
แต่วันนี้จะให้ผม เพราะผมต้องการมันมากกว่าเขา”
ฟังถึงตรงนี้
หญิงม่ายหน้าซีดขาวเผือด ยืนนิ่งอึ้งอยู่ตรงประตู หวนคิดถึงตอนเช้า
ถ้านางเอาเปาะเปี้ยะใส่ยาเบื่อให้ขอทานเฒ่า งั้นคนที่ตายย่อมเป็นลูกชายตัวเองแน่นอน
ถึงตอนนี้ นางเพิ่งเข้าใจความหมายในคำบ่นของขอทานเฒ่าว่า
“สอจ่อจืออัก,หลิ่วต่อซิงเปียง (บาปที่กระทำเก็บไว้ที่ตัว) สอจ่อจือเสียง ,
ห่วยเก๊าซิงเปียง (บุญกุศลที่ได้ทำย้อนกลับมาหาตัว)”
นี่เป็นนิทานที่ดีเรื่องหนึ่งเป็นคติสอนใจว่า
การทำบุญ ทำกุศลต้องไม่คาดหวังและเลือกทำ มิเช่นนั้นอาจกลายเป็นการทำบาปโดยไม่รู้ตัว
(บทความจาก ชู๊บุ๋งทีแอ๋แปล และเรียบเรียง โดย เจงเอี่ยม แซ่อึ้ง 黄振炎 ) ฝากไว้เป็นข้อคิดข้อเตือนใจในการที่เราจะร่วมทำบุญทำทานในช่วงเวลามหาพรตนี้
ทำบุญต้องได้บุญ อย่าทำบุญเพื่อเพิ่มบาปนะครับ....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น