วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เราต่างก็โชคดี


เราต่างก็โชคดี
ด้วยความที่มีอะไรให้ต้องทำต้องแก้ไขปัญหาอยู่หลายวัน ทำให้บางคืนถึงกับนอนไม่เต็มตื่น อยากจะมีเวลาทำให้เรื่องนั้นเรื่องนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ตามใจปรารถนา แต่ก็อีกนั่นแหละ ความสมบูรณ์หามีไม่ ตราบยังมีลมหายใจ มีแต่ความสุขใจเท่านั้นแหละที่เราพึงต้องพยายามสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นมาในชีวิต การแก้ปัญหาอย่างดีที่สุด แก้ให้ได้ แม้อาจจะต้องเสียเวลาสักหน่อย ไม่ยอมพ่ายแพ้สิ้นหนทาง เป็นที่มาของปัญญาและการเรียนรู้ใหม่ ๆ ไม่จมอยู่กับความคุ้นชิน จนวนเวียนอยู่ในวงจรเดิม ๆ ของชีพจรในโลกนี้

 และด้วยความที่ว่าวันเวลาที่ผ่านมาในชีวิตทวีขึ้นทุกวัน จะให้มีพลังทำงานเหมือนเมื่อครั้งวัยวานหนุ่มแน่นนั้นยากยิ่ง นั่งทำงานได้ไม่นานก็เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว พักบ้างทำบ้าง มีครั้งหนึ่งพักด้วยการออกมาเดินเล่นซื้อของกินที่ตลาดนัดแถวบ้าน เห็นแม่ค้าพ่อขายขะมักเขม้นเรียกลูกค้าอย่างอึกทึก มีหลายเสียงก็บ่นถึงความยากไร้ การขายของไม่ได้ คุยกันว่าอยากถูกหวยจะได้เลิกจน เลิกขายของเสียที ในจังหวะนั้น เห็นชายที่ไร้อวัยวะที่ใช้เดินเหิน ขอรับบริจาคเงินทอน เงินเหรียญจากผู้มีจิตเมตตา โลกนี้ช่างมีความบังเอิญเสียจริง คนที่บ่นจนยังมีทางเลือก คนที่ไร้ทางเลือกกลับนิ่งสงบ ทำให้คิดถึงเรื่องหนึ่งที่ได้อ่านและได้นำมาไตร่ตรองกับชีวิตกลางตลาดสดยามนี้
เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งมักจะบ่นกับใคร ๆ เสมอว่า ตนเองนั้นช่างอาภัพ เกิดมายากจน วันหนึ่ง ชายชราได้ถามเขาว่า
พ่อหนุ่มทำไมดูเธอเหมือนไม่มีความสุขเลย?”
ผมไม่เข้าใจ! ทำไมผมถึงจน! เด็กหนุ่มตอบ
จนเหรอ? เธอรวยต่างหากล่ะ! ชายชราตอบ
คุณตาเอาอะไรมาพูด ผมเนี่ยนะรวย ดูจากตรงไหนครับ?" เด็กหนุ่มย้อนถามด้วยความสงสัย
หากมีคนมาขอซื้อนิ้วเธอหนึ่งนิ้ว และให้เงินเธอนิ้วละ1พันเธอจะขายไหม?
จะบ้าเหรอครับใครจะขายเล่าครับคุณตา!เขาตอบออกไปเสียงดัง
สมมุติว่ามีคนมาขอซื้อมือของเธอข้างละ1หมื่นเธอจะขายไหม? ชายชราถามต่อ
ไม่ขายๆ
สมมุติมีคนมาขอซื้อลูกตาของเธอข้างละแสนเธอขายไหม? ชายชราถาม
ไม่ขาย!
สมมติมีคนสามารถทำให้เธอกลายเป็นคนแก่อายุสัก 80 แล้วให้ค่าจ้างเธอ 1 ล้านเธอจะเอาไหม?
ไม่เอาครับ
สมมุติมีคนมาขอซื้อชีวิตของเธอ ให้เธอตาย ณ เวลานี้ แล้วให้ค่าจ้างเธอ 10 ล้าน เธอจะเอาไหม? ชายชราถาม
โธ่คุณตาเป็นคุณตาจะเอาไหมล่ะ? เป็นผม ผมไม่เอาด้วยหรอกครับ
นี่ยังไงล่ะที่ตาบอกว่าเธอรวย ตอนนี้ตัวของเธอมีมูลค่าถึง 10 ล้านเลยนะแล้วเธอจะบ่นไป
ทำไมว่าเธอยากจน!” ชายชราหัวเราะแล้วก็เดินจากไป เด็กหนุ่มได้ฟังดังนั้นก็เข้าใจในบัดดล (คัดจากหนังสือ เรียนทำทั้งชีวิต)


เราทำให้ชีวิตเรามีความสุขได้เสมอถ้าเรานำสิ่งที่พระเจ้ามอบให้ ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นลมหายใจ ไม่ว่าจะสติปัญญา ใช้ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตัวเองและผู้คนรอบข้าง อย่าเอาแต่บ่นว่าและกล่าวหาถึงความยากไร้ ลองพิจารณาดูตื่นนอนขึ้นมาเราก็มีลมหายใจ มีอาหารกิน มีภารกิจให้ทำ มีขาให้เดินก้าวหน้า มีแขนเพื่อโอบกอดโอกาสที่ผ่านมาถึง มีสายตาที่จะมองให้ไกลออกไปและมองดูความงามของสิ่งสร้าง มีหูที่จะรับฟังเสียงบรรเลงของสรพพสิ่งที่สั่นไหว มีปากลิ้นรับรสอาหาร และเปล่งเสียงสรรเสริญความดี มีหัวใจที่เต้นระบำนำความมีชีวิตชีวาท่ามกลางวันเวลา สิ่งเหล่านี้ใช่หรือไม่ที่ทำให้เรามีความรักความเมตตาต่อกัน เราโชคดีเพียงใดที่เรามีในสิ่งที่หลายคนไม่มี แต่เรากลับว้าวุ่น วุ่ยวาย วนเวียน เที่ยวหาให้มีมากขึ้นและมากขึ้นจนเกินความจำเป็น และบ่นว่า โชคไม่ดีการมีชีวิตอยู่คือที่สุดของความโชคดี แต่จะให้ดีต้องมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความดีโดยไม่ต้องพึ่งพาโชคลาภ ที่จะนำความโลภมาขวางทาง มาทำให้สะดุด ยิ่งเรามี เราต้องช่วยผู้อื่น นำสิ่งที่มีที่เป็น


และเมื่อไรที่เรามองเห็นถึงความที่เรามีพระพร ไม่มีขาดในสิ่งใดเลย เราจำต้องแบ่งปันให้กับผู้คนรอบข้าง หรือผู้ยังยากไร้ พระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ท่ามกลางสงครามแย่งชิง ท่านกลับเลือกที่จะมอบเมตตาต่อผู้ไร้ที่พึ่ง นำความมีพร้อมของท่านไปช่วยเหลือผู้คน นักบุญหลุยส์ กษัตริย์แห่งฝรั่งเศส ผู้เป็นต้นแบบให้เรา แล้ววันนี้เราผู้โชคดีได้นำความดีให้กับผู้ใดบ้าง

ไม่มีความคิดเห็น: