วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2561

แจ้งเตือน


แจ้งเตือน
ในโทรศัพท์มือถือที่เรียกว่า สมาร์ตโฟน มักมีเครื่องมือหนึ่งที่ตั้งเตือนให้เห็นความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ เคยคิดว่าหากเครื่องมือเหล่านี้ตั้งค่าเตือนให้เราสามารถควบคุมอารมณ์ได้คงดีมิใช่น้อย แต่ก็อีกนั่นแหละ หน้าที่และความรับผิดชอบความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์คือการรู้จักควบคุมตัวเองให้ได้ในทุกเรื่องทุกด้านโดยอาศัยจิตสำนึกที่คอยแจ้งเตือนตน ยอมรับเลยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมารู้สึกว่าอารมณ์ตัวเองออกจะหงุดหงิดง่าย อาจจะมาจากความไม่มั่นคง ความอดทนที่หายไป ด้วยการที่เราคิดอย่างหนึ่ง คิดว่าทำดีที่สุดแล้ว พอต้องเจอกับความดื้อรั้น ไม่น้อมรับความคิดของคนอื่น ยึดถือตัวเองเป็นที่ตั้งของหลายคน อธิบายอย่างไรก็ไม่รับฟัง ก็พยายามอดทนอดกลั้น ถอยออกมาอย่างเงียบ ๆ กับบางคนก็แค่ยิ้มให้แล้วเดินจากมา แปลกใจที่คนเราสมัยนี้มักไม่ค่อยเคารพในความคิดเห็นกันและกัน ถือว่าใคร ๆ ก็ทำได้ สุดท้ายก็เกิดอาการเบื่อที่จะมีปฏิสัมพันธ์กัน ต่างคนต่างอยู่กันไป ใช่ ความคิดของเราก็ใช่ว่าถูกทั้งหมดเสียทีเดียว สิ่งที่เราทำไม่ได้ประสบผลสำเร็จก็มี พลาดบ้าง หลุดบ้าง หากว่าเราต่างคอยแต่จะจับจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ มาสร้างความไม่เชื่อถือต่อกัน สังคมแบบนี้ก็อยู่ยาก สังคมที่ไร้ความเคารพในความเชี่ยวชาญของกันและกัน สังคมที่คิดว่าตัวเองเก่งอยู่คนเดียว สังคมที่เลือกเชื่อถือคนที่มีดีกรี คนที่มีตำแหน่งนำหน้า สังคมแห่งความอาทรจางหายไป ในทางกลับกันสังคมที่เคารพให้เกียรติกัน สังคมนั้นจะนำความร่มเย็นมาสู่ ณ ที่นั่น

ภาพ : อินเตอร์เน็ต

สังคมสมัยใหม่มีความรวดเร็วรวบรัดเร่งสูงขึ้นมาก นำมาซึ่งความบีบรัดในทุกเรื่อง ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วจนหลายต่อหลายคนปรับเปลี่ยนตามไม่ทัน เมื่อไม่ทันก็ทำไม่ได้ดังใจ อารมณ์หงุดหงิด ก็ตามมาเป็นระลอก จิตใจไม่สามารถที่จะควบคุมร่างกายและสมอง ยิ่งถ้าไม่เคยถูกจัดระบบระเบียบก็เกิดระเบิดกระเจิดกระเจิง ฆ่าแกงกันง่ายๆ ความสัมพันธ์ต่อกันก็จางหาย การช่วยเหลือเกื้อกูลกันนับวันน้อยลงทุกที เพราะทุกการกระทำต่อกันต้องมีผลตอบแทน เรื่องแมน ๆ ที่ทำโดยไม่มีความมุ่งหวังนั้นหาน้อยลง เราสอนเด็กทำจิตอาสาเพื่อแลกคะแนน เราสอนลูกหลานด้วยรางวัลล่อหลอก การรอคอยเฝ้ารอเป็นเรื่องเสียเวลา ความอดทนของคนในวันนี้ดูเหมือนจะกลายเป็นสิ่งที่ได้รับการดูแคลนไปเสียแล้ว
ยุคสงครามกลางเมืองของสองพรรคต่างขั้วในประเทศจีน เหตุการณ์ความรุนแรงทำท่าจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ พ่อค้าใหญ่ท่านนี้ตัดสินใจยุติธุรกิจของเขาทั้งหมด แล้วนำเอาเงินทองส่วนใหญ่ไปแลกเป็นตั๋วแลกเงิน ระหว่างนั้นเขาก็ไปสั่งทำร่มมาคันหนึ่ง แล้วก็นำเอาตั๋วแลกเงินทั้งหมดซ่อนเก็บไว้ในช่องลับของแกนร่ม สุดท้ายเขาก็แต่งตัวเป็นแบบชาวบ้านธรรมดาทั่วไป นำเอาร่มและสัมภาระเท่าที่จำเป็นเดินทางกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอนเพื่อหลบภัยสงคราม

ภาพ : อินเตอร์เน็ต

ระหว่างทาง เขาแวะพักเหนื่อยในศาลาข้างทาง เผลองีบหลับไปเดี๋ยวเดียว พอตื่นมาก็พบว่าร่มได้หายไปแล้ว แม้จะตกใจอย่างมาก แต่จากประสบการณ์การต่อสู้ในวงการค้าขายมาหลายสิบปี ช่วยให้เขาสามารถควบคุมสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว เขารีบสำรวจสัมภาระรอบตัว ก็พบว่าไม่มีอะไรสูญหายนอกจากร่มคันนั้น เขาแน่ใจว่าคนที่หยิบเอาร่มไปนั้น ต้องไม่ใช่เป็นพวกโจรมืออาชีพ แต่คงเป็นคนที่เดินผ่านมา แล้วก็ถือวิสาสะหยิบเอาร่มของเขาไปใช้เป็นการส่วนตัว คน ๆ นี้น่าจะเป็นชาวบ้านในระแวกนั้น
พ่อค้าตัดสินใจปักหลักหาบ้านอยู่อาศัยแถวนั้น เขาไปหาซื้ออุปกรณ์ซ่อมร่มมาครบคัน แล้วก็เริ่มอาชีพใหม่เป็นช่างซ่อมร่ม เฝ้ารอด้วยความอดทนว่าสักวันต้องมีคนเอาร่มของตนมาซ่อม ฤดูกาลเปลี่ยนไป จากร้อนเป็นหนาว จากหนาวเป็นร้อน สองปีที่รอคอย แต่ยังไร้วี่แววที่จะเจอร่มของตน พ่อค้าต้องนั่งตรึกตรองใหม่อีกครั้ง เขาสังเกตว่าพอร่มเริ่มใช้การไม่ค่อยได้ ผู้คนก็มักจะตัดสินใจซื้อใหม่แทนที่จะเอามาซ่อม
พ่อค้าจึงตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธใหม่ เขาเริ่มรายการ "ร่มเก่าแลกร่มใหม่" ผู้คนสามารถนำร่มคันเก่ามาแลกใหม่โดยไม่มีข้อแม้ ไม่ต้องจ่ายเงินสักแดงผู้คนนำร่มคันเก่ามาแลกกันมากมายไม่ขาดสาย ไม่นานเกินรอ ก็มีผู้ชายวัยกลางคนนำร่มกลางเก่ากลางใหม่มาขอแลก พ่อค้ามองดูก็รู้ทันทีว่า นี่คือร่มคันที่เขาเฝ้ารอมาเป็นเวลากว่าสองปี เขารับร่มจากชายผู้นั้นด้วยใจระทึก แกนร่มยังอยู่ในสภาพแข็งแรงเหมือนเดิม ไม่มีรอยถูกงัดแงะ พ่อค้าหยิบร่มคันใหม่ส่งให้ชายผู้นั้นด้วยความโล่งใจอย่างที่สุดพอคนแลกร่มออกจากร้านไป พ่อค้ารีบเดินเข้าไปหลังร้าน หยิบเอาสัมภาระติดตัวเท่าที่จำเป็นพร้อมร่มคันนั้นออกจากร้านไป แล้วก็ไม่มีใครในถิ่นนั้นได้เคยพบเจอแกอีกเลย ขจรศักดิ์แปลและเรียบเรียง

ภาพ : อินเตอร์เน็ต

ความอดทน เป็นเครื่องมือที่เราสามารถที่จะฝึกฝนได้ ความอดทนนั้นมักมากับความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน ยอมรับและเคารพซึ่งกันและกัน สังคมเดินหน้าพัฒนามาถึงวันนี้ได้ ต้องผ่านความอดทนของผู้คนมามากต่อมาก อย่างน้อยท่านแหละที่อดทนจนยอมพลีชีวิต น้อมยอมรับผิดติดกางเขนเพื่อแจ้งเตือนให้เรารู้ว่า หากไม่มีความอดทน ความรักและความสงบสันติ ก็จะไม่บังเกิดขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น: