วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

มโนโซเชียล


มโนโซเชียล
เวลาของผู้คนบนโลกใบนี้หมดไปกับการสื่อสารระหว่างกันมากทีเดียว ยิ่งในยุคที่เครื่องมือสื่อสารมีความทันสมัยมากขึ้นเท่าไร ความรวดเร็วในการส่งผ่านไวขึ้นเท่าไร ความง่ายในการติดต่อกันก็มากขึ้นเท่านั้น ความเหลื่อมล้ำนำหน้าด้านข้อมูลข่าวสารก็ลดลงตามมา นับวันเรายิ่งเห็นผู้คนวุ่นวายกับการสื่อสารบนเครื่องในมือที่ถืออยู่ วัฒนธรรรม การกระทำ พฤติกรรมแปลก ๆ ก็เกิดขึ้นตามมา ทำให้นึกย้อนไปเมื่อเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ได้ยินคำว่า New Media ก็ยังออกอาการงงงวยกับคำนี้ จนกระทั่งมีโอกาสได้รับการอบรมจากคุณพ่อ ปีแอร์ บาแบง ที่เมืองลีออง ประเทศฝรั่งเศส คุณพ่อได้ให้การอบรมในหัวข้อ New Media New Culture สื่อใหม่กับวัฒนธรรมใหม่ ในวันนั้นพวกเราคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าสิ่งที่คุณพ่อนำเสนอคืออะไร??? จนกระทั่งเมื่อ 5 - 6 ปีที่ผ่านมา จึงได้เห็นสิ่งที่คุณพ่อเคยกล่าวไว้ได้เกิดขึ้นเป็นจริงแล้วในวันนี้ 

ภาพ : อินเตอร์เน็ต

ในด้านของความดีงาม สังคมโลกจะถูกหลอมรวมให้เป็นหนึ่งเดียวกันมากยิ่งขึ้น เกิดวัฒนธรรม การใช้ภาษาเข้าใจกันได้มากขึ้น ร่วมมือร่วมใจกันในความทุกข์ยากได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และสิ่งที่แสดงให้เห็นแล้วอย่างเป็นรูปเป็นร่างคือ การช่วยเด็กติดถ้ำที่ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เป็นปรากฏการณ์ของโลกที่ทุกคนร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวเกี่ยวก้อยร้อยใจ ร่วมแรงแข็งขันไร้การแข่งขัน เพื่อให้ท่วงทันต่อเวลา และสายน้ำที่ล้นหลากเข้าท่วมถ้ำ เราในฐานะเจ้าของพื้นที่ที่เป็นศูนย์ของความสามัคคีแห่งนานาชาติ ย่อมรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง และปรารถนาให้สิ่งนี้คงอยู่ เป็นบทเรียนเป็นบทนำเพื่อใช้ช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกในกาลครั้งต่อไปหากมีภัยมา เป็นความยิ่งใหญ่อย่างหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว 
ในขณะที่เราได้เรียนรู้ความยิ่งใหญ่ในโลกที่จารึกชื่อประเทศไทยไว้ในประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวันนี้ แต่คนในสังคมไทยเราเกิดอาการใหม่ เป็นวัฒนธรรมใหม่ ๆ ที่เรียกว่า อาการหลงใหลในออนไลน์หรือเรียกง่าย ๆ ว่าชอบสร้างมโนและนำไปโชว์ในโซเชียล ชอบโพสต์ภาพถ่ายที่ถูกตบแต่งด้วยแอพพลิเคชั่น ทำให้หน้าตาทุกคนบนโลกนี้สวยหล่อ จนกระทั่งเราชาวโซเชียลชอบใช้กล้องจากมือถือมากกว่าการชอบส่องกระจก หลายคนหลงการถ่ายภาพ ถ่ายกันเรี่ยราด ถ่ายแบบไม่รู้กาลเทศะ ด้วยความง่ายแค่ยกและกด ก็ได้ภาพ ส่งขึ้นไปโชว์ในสื่อทันที ทำให้เรากลายเป็นนักข่าวนักถ่ายภาพที่หลงว่าเราสามารถที่จะทำได้ โดยไม่ต้องอาศัยผู้ชำนาญการ  จากถ่ายภาพตัวเองก็ขยายออกไปถ่ายมันทุกเวลา กินก็ต้องถ่ายโชว์ว่ากินอะไร บางครั้งเราก็ลืมที่จะสวดก่อนกิน แต่ไม่ลืมที่จะถ่ายก่อนตักเข้าปาก เท่านี้ยังไม่พอ หลายคนอาการหนักกว่าไปหารูปอาหารหรูจากร้านดัง โรงแรมเด่น และมโนเอาว่าไปนั่งกิน เป็นการอิ่มออนไลน์ ถึงกับหลอกตัวเองก็มีทำได้ในโลกเสมือนจริง และยังหลอกให้คนอื่นเห็นการกินหรูอยู่แพง เป็นการหลอกลวงเสมือนจริง แต่ความจริงแล้วนี่เป็นการหลอกตัวเอง ก็ถือว่าเป็นความสุขของแต่ละคน ก็อย่าได้ไปหมั่นไส้ให้เกิดบาปอิจฉากันเลย ถ้าเราไม่ชอบก็อย่าไปใส่ใจ หาอะไรที่เป็นประโยชน์จากสื่อใหม่ หาความดีในวัฒนธรรมนี้เสีย

ภาพ : อินเตอร์เน็ต

นอกจากนี้แล้ววัฒนธรรมเช็คอินถิ่นอื่นหลอกว่าไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ แรก ๆ อาจจะทำเพื่อความสนุกกันในหมู่เพื่อนฝูง หลัง ๆ ทำไปทำมาเกิดสนุกและมโนแจ่มโชว์รวย เลยกดเช็คอินเป็นว่าเล่น แต่ลืมหาทางที่จะไปสวรรค์ และเป็นเรื่องที่หลายคนพลาดที่สุดในเวลาที่ออกท่องเที่ยวในสถานที่จริง ๆ แทนที่เราจะชื่นชมความสวยงามตามธรรมชาติ ได้ใกล้ชิด ถึงความอัศจรรย์ของสิ่งสร้าง แต่เรากลับมัวมุ่งแต่ใส่ใจอยู่กับภาพผ่านเลนส์และใช้เวลาไปกับการจัดภาพจัดแสงจุดโฟกัสเราจึงแคบในโลกที่กว้างความงามจากตาเห็นจากจมูกสูดกลิ่นไอดิน ถูกละเลยไป หลายสิ่งรอบกายถูกมองข้ามผ่าน เราหลงอยู่กับภาพเล็ก ๆ ตรงหน้า มิได้ใยดีกับความไพศาลรอบตัว
และด้วยว่าเราอยู่ในสังคมของคนพูด มากกว่าคนลงมือทำ หากใครหรือเรามีภาพอะไรที่ต่างจริตจากคนอื่น เราก็จะกลายเป็นศูนย์ของการวิพากษ์วิจารณ์อย่างเมามัน ในหลายเหตุการณ์ ยังไม่รู้ความจริง ก็มีคนมาบอกเล่าเป็นตุเป็นตะ มีคนออกมาให้ความรู้ทางวิชาการที่ออกจะเกินเลย และที่สำคัญก็มีคนเชื่อข้อมูลเหล่านั้นไปแล้ว มีหลายคนโชว์เก่งอวดอ้าง สร้างมโนเกินจินตนาการ แล้วก็หลงในข้อมูลนั้นแบบยึดติดห้ามใครโต้แย้ง ต้นไม้แห่งการอวดดีจึงเจริญงอกงามเต็มพื้นที่สาธารณะ

ภาพ : อินเตอร์เน็ต

ใช่หรือไม่ เราตกอยู่ในกระแสที่ต้องมีตัวตน เป็นคนเรียบ ๆ ง่าย ๆ อยู่อย่างอิสระกันไม่เป็น จึงต้องสร้างพื้นที่สำหรับรองรับ ทั้ง ๆ ที่เราไม่จำเป็นต้องมี ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้นก็ได้ แต่ ความกดดันกลับทำให้เราถอยห่างจากความจริง เมื่อความจริงเป็นไปไม่ได้ ก็ใส่มโนเอาในโลกเสมือนจริงนี่แหละเป็นการใช้เป็นพื้นที่ปลดปล่อย จนทำให้เราหมดสำนึก ไร้มโนธรรมสำนึก เข้าข้างตัวเอง รักตัวเองแบบผิด ๆ จึงรักคนอื่นไม่เป็น หลอกกระทั่งตัวเอง แล้วคนอื่นจึงเป็นเรื่องเล็กที่จะหลอกลวงกัน ในยุคที่ความจริงใจจริงจังหายากกว่าเม็ดทราย เราจึงสร้างมโนเทียมขึ้นมา พี่น้อง เราควรสร้างวัฒนธรรมใหม่ในสื่อใหม่ด้วยความดี ความงาม และความจริงแท้ ช่วยกันรักษามโนธรรมให้คงอยู่กับตัวเอง เพื่อให้สัจธรรมอยู่คู่โลกต่อไป หากเราไม่ทำในวันนี้ ไม่นานสิ่งเทียมจะเข้ามาทำร้ายจิตวิญญาณแห่งความจริงให้พ่ายแพ้ นี่ไม่ใช่มโน มันคือเรื่องจริงที่กำลังเกิดขึ้นแล้ว  

ไม่มีความคิดเห็น: