มโนโซเชียล
เวลาของผู้คนบนโลกใบนี้หมดไปกับการสื่อสารระหว่างกันมากทีเดียว ยิ่งในยุคที่เครื่องมือสื่อสารมีความทันสมัยมากขึ้นเท่าไร
ความรวดเร็วในการส่งผ่านไวขึ้นเท่าไร ความง่ายในการติดต่อกันก็มากขึ้นเท่านั้น
ความเหลื่อมล้ำนำหน้าด้านข้อมูลข่าวสารก็ลดลงตามมา
นับวันเรายิ่งเห็นผู้คนวุ่นวายกับการสื่อสารบนเครื่องในมือที่ถืออยู่ วัฒนธรรรม
การกระทำ พฤติกรรมแปลก ๆ ก็เกิดขึ้นตามมา ทำให้นึกย้อนไปเมื่อเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา
ได้ยินคำว่า New Media ก็ยังออกอาการงงงวยกับคำนี้
จนกระทั่งมีโอกาสได้รับการอบรมจากคุณพ่อ ปีแอร์ บาแบง ที่เมืองลีออง
ประเทศฝรั่งเศส คุณพ่อได้ให้การอบรมในหัวข้อ New Media New Culture สื่อใหม่กับวัฒนธรรมใหม่
ในวันนั้นพวกเราคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าสิ่งที่คุณพ่อนำเสนอคืออะไร??? จนกระทั่งเมื่อ
5 - 6 ปีที่ผ่านมา
จึงได้เห็นสิ่งที่คุณพ่อเคยกล่าวไว้ได้เกิดขึ้นเป็นจริงแล้วในวันนี้
ภาพ : อินเตอร์เน็ต |
ในด้านของความดีงาม สังคมโลกจะถูกหลอมรวมให้เป็นหนึ่งเดียวกันมากยิ่งขึ้น
เกิดวัฒนธรรม การใช้ภาษาเข้าใจกันได้มากขึ้น
ร่วมมือร่วมใจกันในความทุกข์ยากได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
และสิ่งที่แสดงให้เห็นแล้วอย่างเป็นรูปเป็นร่างคือ การช่วยเด็กติดถ้ำที่ขุนน้ำนางนอน
จ.เชียงราย เป็นปรากฏการณ์ของโลกที่ทุกคนร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวเกี่ยวก้อยร้อยใจ
ร่วมแรงแข็งขันไร้การแข่งขัน เพื่อให้ท่วงทันต่อเวลา
และสายน้ำที่ล้นหลากเข้าท่วมถ้ำ
เราในฐานะเจ้าของพื้นที่ที่เป็นศูนย์ของความสามัคคีแห่งนานาชาติ ย่อมรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
และปรารถนาให้สิ่งนี้คงอยู่ เป็นบทเรียนเป็นบทนำเพื่อใช้ช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกในกาลครั้งต่อไปหากมีภัยมา
เป็นความยิ่งใหญ่อย่างหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
ในขณะที่เราได้เรียนรู้ความยิ่งใหญ่ในโลกที่จารึกชื่อประเทศไทยไว้ในประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวันนี้
แต่คนในสังคมไทยเราเกิดอาการใหม่ เป็นวัฒนธรรมใหม่ ๆ ที่เรียกว่า “อาการหลงใหลในออนไลน์” หรือเรียกง่าย
ๆ ว่าชอบสร้างมโนและนำไปโชว์ในโซเชียล ชอบโพสต์ภาพถ่ายที่ถูกตบแต่งด้วยแอพพลิเคชั่น
ทำให้หน้าตาทุกคนบนโลกนี้สวยหล่อ
จนกระทั่งเราชาวโซเชียลชอบใช้กล้องจากมือถือมากกว่าการชอบส่องกระจก
หลายคนหลงการถ่ายภาพ ถ่ายกันเรี่ยราด ถ่ายแบบไม่รู้กาลเทศะ ด้วยความง่ายแค่ยกและกด
ก็ได้ภาพ ส่งขึ้นไปโชว์ในสื่อทันที
ทำให้เรากลายเป็นนักข่าวนักถ่ายภาพที่หลงว่าเราสามารถที่จะทำได้
โดยไม่ต้องอาศัยผู้ชำนาญการ จากถ่ายภาพตัวเองก็ขยายออกไปถ่ายมันทุกเวลา
กินก็ต้องถ่ายโชว์ว่ากินอะไร บางครั้งเราก็ลืมที่จะสวดก่อนกิน แต่ไม่ลืมที่จะถ่ายก่อนตักเข้าปาก
เท่านี้ยังไม่พอ หลายคนอาการหนักกว่าไปหารูปอาหารหรูจากร้านดัง โรงแรมเด่น
และมโนเอาว่าไปนั่งกิน เป็นการอิ่มออนไลน์
ถึงกับหลอกตัวเองก็มีทำได้ในโลกเสมือนจริง
และยังหลอกให้คนอื่นเห็นการกินหรูอยู่แพง เป็นการหลอกลวงเสมือนจริง แต่ความจริงแล้วนี่เป็นการหลอกตัวเอง ก็ถือว่าเป็นความสุขของแต่ละคน
ก็อย่าได้ไปหมั่นไส้ให้เกิดบาปอิจฉากันเลย ถ้าเราไม่ชอบก็อย่าไปใส่ใจ
หาอะไรที่เป็นประโยชน์จากสื่อใหม่ หาความดีในวัฒนธรรมนี้เสีย
ภาพ : อินเตอร์เน็ต |
นอกจากนี้แล้ววัฒนธรรมเช็คอินถิ่นอื่นหลอกว่าไปเที่ยวที่นั่นที่นี่
แรก ๆ อาจจะทำเพื่อความสนุกกันในหมู่เพื่อนฝูง หลัง ๆ
ทำไปทำมาเกิดสนุกและมโนแจ่มโชว์รวย เลยกดเช็คอินเป็นว่าเล่น
แต่ลืมหาทางที่จะไปสวรรค์
และเป็นเรื่องที่หลายคนพลาดที่สุดในเวลาที่ออกท่องเที่ยวในสถานที่จริง ๆ แทนที่เราจะชื่นชมความสวยงามตามธรรมชาติ
ได้ใกล้ชิด ถึงความอัศจรรย์ของสิ่งสร้าง
แต่เรากลับมัวมุ่งแต่ใส่ใจอยู่กับภาพผ่านเลนส์และใช้เวลาไปกับการจัดภาพจัดแสงจุดโฟกัสเราจึงแคบในโลกที่กว้างความงามจากตาเห็นจากจมูกสูดกลิ่นไอดิน
ถูกละเลยไป หลายสิ่งรอบกายถูกมองข้ามผ่าน เราหลงอยู่กับภาพเล็ก ๆ ตรงหน้า
มิได้ใยดีกับความไพศาลรอบตัว
และด้วยว่าเราอยู่ในสังคมของคนพูด มากกว่าคนลงมือทำ
หากใครหรือเรามีภาพอะไรที่ต่างจริตจากคนอื่น
เราก็จะกลายเป็นศูนย์ของการวิพากษ์วิจารณ์อย่างเมามัน ในหลายเหตุการณ์
ยังไม่รู้ความจริง ก็มีคนมาบอกเล่าเป็นตุเป็นตะ
มีคนออกมาให้ความรู้ทางวิชาการที่ออกจะเกินเลย และที่สำคัญก็มีคนเชื่อข้อมูลเหล่านั้นไปแล้ว
มีหลายคนโชว์เก่งอวดอ้าง สร้างมโนเกินจินตนาการ
แล้วก็หลงในข้อมูลนั้นแบบยึดติดห้ามใครโต้แย้ง
ต้นไม้แห่งการอวดดีจึงเจริญงอกงามเต็มพื้นที่สาธารณะ
ภาพ : อินเตอร์เน็ต |
ใช่หรือไม่ เราตกอยู่ในกระแสที่ต้องมีตัวตน เป็นคนเรียบ ๆ ง่าย ๆ
อยู่อย่างอิสระกันไม่เป็น จึงต้องสร้างพื้นที่สำหรับรองรับ ทั้ง ๆ
ที่เราไม่จำเป็นต้องมี ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้นก็ได้ แต่… ความกดดันกลับทำให้เราถอยห่างจากความจริง เมื่อความจริงเป็นไปไม่ได้
ก็ใส่มโนเอาในโลกเสมือนจริงนี่แหละเป็นการใช้เป็นพื้นที่ปลดปล่อย
จนทำให้เราหมดสำนึก ไร้มโนธรรมสำนึก เข้าข้างตัวเอง รักตัวเองแบบผิด ๆ
จึงรักคนอื่นไม่เป็น หลอกกระทั่งตัวเอง
แล้วคนอื่นจึงเป็นเรื่องเล็กที่จะหลอกลวงกัน ในยุคที่ความจริงใจจริงจังหายากกว่าเม็ดทราย
เราจึงสร้างมโนเทียมขึ้นมา พี่น้อง เราควรสร้างวัฒนธรรมใหม่ในสื่อใหม่ด้วยความดี
ความงาม และความจริงแท้ ช่วยกันรักษามโนธรรมให้คงอยู่กับตัวเอง
เพื่อให้สัจธรรมอยู่คู่โลกต่อไป หากเราไม่ทำในวันนี้ ไม่นานสิ่งเทียมจะเข้ามาทำร้ายจิตวิญญาณแห่งความจริงให้พ่ายแพ้
นี่ไม่ใช่มโน มันคือเรื่องจริงที่กำลังเกิดขึ้นแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น