วันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

คุณค่าลมหายใจ

คุณค่าลมหายใจ
โลกทุกวันนี้เราเสพติดสื่อกันตั้งแต่ลืมตาตื่น ส่วนใหญ่เป็นข่าวที่หาสาระประโยชน์ต่อจิตวิญญาณได้น้อยมาก มักเป็นเรื่องความขัดแย้ง หย่าร้าง ฆ่ากัน นาน ๆ จะมีสารที่ทำให้รู้สึกถึงคุณค่าของชีวิต เฉกเช่นจดหมายสุดท้ายจากสาวป่วยมะเร็ง เมื่อใกล้ถึงวันที่ความตายจะมาเยือน เธอได้เขียนข้อความ ที่เหมือนเป็นการแนะนำทางชีวิต สร้างความสะเทือนใจไปทั่วโลกออนไลน์ วันนีจึงขอขอนำมาเสนอ ไตร่ตรองกันดู


 "มันก็แปลกอยู่นะที่ฉันจะต้องยอมรับความตายในวัยแค่ 26 ปี ความตายเป็นสิ่งที่คนหนุ่มสาวอย่างเรามักจะเพิกเฉย เพราะเราคิดว่ายังจะมีวันพรุ่งนี้เสมอ เราจะมีชีวิตไปเรื่อย ๆ ความตายเป็นเรื่องของวันข้างหน้าที่ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่ ฉันนึกภาพตัวเองตอนแก่ หน้าเหี่ยว ผมหงอกเต็มหัว อยู่ท่ามกลางครอบครัวที่อบอุ่น มีหลาน ๆ วิ่งเต็มบ้าน ฉันอยากจะสร้างครอบครัวกับคนรักอย่างที่ฝันไว้
ฉันอยากได้ชีวิตแบบนั้น
             คิดแล้วก็ทรมานเหลือเกิน
ชีวิตที่เรารักนี้มันเปราะบาง คาดเดาอะไรไม่ได้เลย ทุกวันที่มีชีวิตคือของขวัญต่างหาก ไม่ใช่การดำรงอยู่เพราะเรามีสิทธิที่จะมีชีวิตต่อไปอย่างที่เข้าใจ ตอนนี้ฉันอายุ 27 ปีแล้ว ฉันรักชีวิตของฉัน ฉันมีความสุขกับมัน ฉันมีความรักที่ดี แต่ไม่มีใครควบคุมชะตาชีวิตได้ทั้งนั้น ฉันเขียนโพสต์นี้ก่อนฉันจะตาย ความตายน่ากลัว แต่เราต่างก็มองข้ามและพยายามไม่คิดถึงมัน  ฉันก็เคยคิดว่ามันคงไม่ได้จะเกิดกับตัวเองหรือใครในเร็ววัน การคิดถึงความตายเป็นเรื่องที่แย่จริง ๆ


สิ่งที่ฉันอยากจะบอกคือ คุณเลิกกังวลกับปัญหางี่เง่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ความเครียดที่ไม่ได้สลักสำคัญที่เกิดกับชีวิตเสียเถอะ และพึงระลึกว่าเราต่างต้องเผชิญกับโชคชะตาทั้งนั้น สิ่งที่เราทำได้ควรจะเป็นการใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยความรู้สึกที่ดี มีคุณค่าในตัวเอง ตัดเรื่องปัญญาอ่อนออกไปเหอะ
ฉันใช้เวลาคิด ไตร่ตรองชีวิตของตัวเองในวาระสุดท้ายนี้ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และมันมักจะโผล่ขึ้นมากลางดึกซะด้วย ในช่วงเวลาที่คุณเอาแต่บ่นกระปอดกระแปด ขอให้รู้ว่าคนอื่นก็เจอปัญหาแบบเดียวกับคุณและอาจจะอยู่ในเงื่อนไขที่แย่กว่า โยนมันทิ้งไปเถอะ
ต้องยอมรับนะว่าบางเรื่องมันก็กระทบจิตใจและสร้างความรำคาญให้ชีวิต แต่อย่าแบกมันเอาไว้ เพราะตัวคุณเองก็จะส่งต่อผลกระทบทางลบไปที่ชีวิตของคนอื่นรอบข้างด้วย
 เมื่อคุณเริ่มเหวี่ยงหรือปล่อยพลังลบให้คนอื่น ขอให้เดินออกมาจากตรงนั้นก่อน หายใจเข้าลึก ๆ ให้เต็มปอด ดูท้องฟ้าที่ยังสดใส ดูความเขียวชอุ่มของต้นไม้ เห็นไหมว่ามันสวยงามมากเลย คุณโชคดีแค่ไหนแล้วที่คุณยังมีชีวิตและหายใจได้ในตอนนี้
วันที่คุณเซ็งกับรถติดหรืออาจจะนอนน้อยเพราะลูกปลุกคุณทั้งคืน ช่างตัดผมตัดให้คุณสั้นเกินไป เล็บที่ไปต่อมาเป็นรอยไม่สวย คิดว่าตัวเองนมเล็กเกินไป หรือคุณอาจกังวลกับเซลลูไลต์ที่ต้นขาและพุงที่น่าเกลียดของตัวเอง
คุณปล่อยเรื่องบ้า ๆ พวกนี้ทิ้งไปเหอะ
ฉันสาบานว่าคุณจะไม่มีวันคิดเรื่องพวกนี้อีกถ้าคุณกำลังจะตายในอีกไม่ช้า เป็นเรื่องสำคัญนะที่คุณจะต้องถอยออกมาแล้วมองชีวิตแบบภาพรวมทั้งหมด ตัวฉันเองเห็นร่างกายของตัวเองเสื่อมสลายไปต่อหน้าต่อตา โดยที่ฉันทำอะไรกับมันไม่ได้เลย สิ่งที่ฉันต้องการคือ ฉันอยากจะอยู่ให้ถึงวันเกิดของตัวเองหรือวันคริสต์มาสที่ได้ใช้เวลากับครอบครัว วันที่ฉันจะได้เล่นกับหมา มีความสุขกับคนที่รัก


แค่อีกสักครั้งเท่านั้น
ฉันได้ยินคนเอาแต่บ่นเรื่องปัญหาจากการทำงาน หรืออ้างแต่ว่าไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย จงสำนึกในตอนนี้เถอะว่ามันดีแค่ไหนแล้วที่ร่างกายคุณยังทำงานหรือขยับเขยื้อนได้ แต่ละวันที่คุณทำงานหรือแต่ละก้าวที่คุณออกวิ่ง มันดูเหมือนเรื่องเล็กน้อยมาก ๆ นะ แต่มันจะมีค่ามาก ถ้าคุณพบกับวันที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยอีกต่อไป
ฉันพยายามที่จะดูแลตัวเอง นั่นเป็น Passion ของฉันเลยล่ะที่อยากจะมีสุขภาพแข็งแรง จงรักร่างกายของตัวเองเถอะ แม้ว่ารูปร่างเราอาจจะไม่ได้เป๊ะอย่างที่อยากก็ตาม ดูความมหัศจรรย์ของมัน กินอาหารที่สดและเป็นประโยชน์ รักตัวเอง แต่อย่าหลงใหลมันเกินเหตุนะ
จำเอาไว้ คำว่าสุขภาพที่ดีความหมายกว้างกว่าการมีร่างกายแข็งแรง สิ่งที่สำคัญคือสุขภาพจิต อารมณ์ และความสุขในระดับจิตวิญญาณต่างหาก เมื่อกลับมามองใหม่ คุณจะพบว่าเรื่องที่มีสาระยังมีมากกว่าการมีรูปร่างที่ดีไว้อวดในโซเชียลมีเดีย ไปลบหรือ unfollow เพจที่คุณอ่านแล้วทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ซะ หรือกระทั่งเลิกยุ่งเกี่ยวกับเพื่อนหรือใครก็ตามทีที่ทำให้คุณภาพชีวิตคุณตกต่ำ
จงดีใจเถอะถ้าวันนี้ร่างกายคุณยังแข็งแรงดีอยู่ หรืออาจจะแค่เป็นหวัด เมื่อยหลัง หรือข้อเท้าเคล็ดก็ตาม อาการพวกนี้ไม่ทำให้ถึงตายหรอก เดี๋ยวก็หาย
บ่นให้น้อยลง แล้วเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเถอะ
โปรดให้ ให้ และให้ผู้อื่นเสมอ เรามักจะมีความสุขเวลาที่ทำสิ่งดี ๆ ให้คนอื่นมากกว่าตอนที่ทำเพื่อตัวเองเสมอล่ะ ตัวฉันเองก็ยังอยากจะทำดีกับคนอื่นให้มากกว่านี้
ตั้งแต่ป่วยมา ฉันพบกับสิ่งวิเศษ ผู้คนที่จิตใจดีทั้งคนรู้จักและคนแปลกหน้า ความรักและกำลังใจจากครอบครัวที่ยอดเยี่ยมของฉัน พวกเขาให้ฉันมากเหลือเกิน มากกว่าที่ฉันจะตอบแทนได้หมด ฉันจะไม่มีวันลืมพวกเขาและสิ่งดี ๆ นี้เลย
เรื่องเงินก็ด้วย บทจะตายจริง ๆ ฉันไม่ได้คิดเรื่องการใช้เงินเลย มันไม่ใช่เวลาที่เราจะออกไปช้อปปิ้งและซื้อของที่ชอบ ซื้อชุดใหม่ที่อยากใส่ ตัวฉันเองคิดได้ว่าตัวเรานี่ใช้เงินไปเยอะมากกับเรื่องเสื้อผ้าและเรื่องสิ้นเปลืองอื่น ๆ ในชีวิต ตลอดช่วงที่ผ่านมา



             วัน ๆ คุณอาจจะคิดแต่เรื่องการซื้อชุดใหม่ ของสวยงาม เครื่องประดับที่จะใส่ไปงานแต่งงานของเพื่อนครั้งต่อไป โดยที่คุณไม่รู้หรอกว่า 1. ไม่มีใครมานั่งดูหรอกว่าคุณใส่ชุดซ้ำหรือเปล่า 2. เป็นเรื่องที่ดีกว่าที่จะเอาเงินไปใช้ชีวิต กินข้าว ได้อยู่กับเพื่อน ๆ อาจจะซื้อต้นไม้ หรือชุดสวย ๆ ไปให้พวกเขา หรือจะหากิจกรรมดี ๆ ด้วยกันก็ได้จงเห็นคุณค่าในเวลาชีวิตของคนอื่น อย่าปล่อยให้พวกเขารอคุณเพราะนิสัยสายเสมอของคุณ เพื่อน ๆ อยากใช้เวลากับคนที่ไปถึงก่อนเวลาและแชร์สิ่งที่ดีกับพวกเขา ตัวคุณเองก็จะได้รับความเคารพจากพวกเขาเช่นกัน
ปีนี้ ครอบครัวของฉันไม่ได้ให้ของขวัญกันหรือตกแต่งต้นคริสต์มาสเหมือนเคย มันก็ดีเหมือนกันนะ จะได้ไม่ต้องกดดันว่าต้องไปหาซื้อของหรือเขียนการ์ดให้คนอื่น แต่ฉันก็แอบคิดนะว่าฉันน่าจะได้ของขวัญ มันอาจจะดูเหยาะแยะ แต่พวกการ์ดอวยพรที่เขียนให้กันมีความหมายกับฉันมากกว่าของขวัญที่ซื้อกันช่วงเทศกาลเสียอีก แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่กว่าคริสต์มาสที่มีความหมายหรอก
ใช้เงินของคุณไปกับประสบการณ์ที่ดีเถอะ หรืออย่างน้อยก็อย่าผลาญเงินไปจนหมดจนคุณไม่ได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์เลย คุณอาจจะขับรถไปชายหาดสักที่ จุ่มเท้าในน้ำหรือแทรกมันลงในกองทราย ให้น้ำทะเลเปื้อนหน้าบ้าง


จงอยู่กับธรรมชาติ
ดื่มด่ำกับสิ่งรอบตัวในช่วงเวลาที่ดี ไม่ใช่เอาแต่ถ่ายรูปหรือเล่นมือถืออย่างเดียว ชีวิตจริงไม่ใช่ความเคลื่อนไหวที่หน้าจอหรือคอยแต่มามุมถ่ายรูปที่สมบูรณ์แบบ ใช้ชีวิตกับมัน อยู่ตรงนั้น มีความสุขกับช่วงเวลานั้นเถอะ ไม่ต้องเผื่อแผ่คนอื่น
เรื่องที่ฉันไม่เข้าใจคือ ทำไมผู้หญิงต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงเพื่อแต่งหน้าทำผมในแต่ละวัน หรือกระทั่งคืนที่ออกไปเที่ยวก็ตาม ลองตื่นให้เช้าขึ้นสิ ฟังเสียงนกร้องและดูความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้น ฟังเพลง ฟังมันจริง ๆ ถึงรายละเอียด การบำบัดด้วยดนตรีมันดีจริงนะ
เล่นกับหมาที่คุณเลี้ยงด้วย
            แย่จัง ฉันจะไม่ได้ทำมันแล้ว
คุยกับเพื่อน เลิกสนใจมือถือ ใส่ใจหน่อยว่าชีวิตเพื่อนคุณโอเคหรือเปล่า
ทำงานเพื่อเลี้ยงชีพ อย่าพลีชีพเพื่อการทำงาน
คุณต้องทำให้หัวใจของคุณมีความสุข
กินเค้กเหอะ ไม่ต้องรู้สึกผิด
ไม่ต้องไปไล่ตามคนอื่น ไม่ต้องพยายามเติมเต็มชีวิตแบบที่คนอื่นทำ คุณอาจต้องการแค่ชีวิตพื้น ๆ สบาย ๆ เท่านั้น มันโอเคนะ !


บอกรักคนที่คุณรักทุกครั้งที่มีโอกาส รักในทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณมี
และเมื่อมีสิ่งใดที่ทำให้คุณทุกข์ คุณสามารถเปลี่ยนมันได้ จะเรื่องงาน เรื่องความรักหรือเรื่องอะไรก็ตามที คุณเปลี่ยนมันได้แน่ คุณไม่รู้หรอกว่าคุณเหลือเวลาอยู่บนโลกใบนี้อีกนานแค่ไหน อย่าไปเสียเวลากับปัญหาเลย ทุกคนพูดประโยคนี้กันหมดและมันเป็นเรื่องจริงที่สุด
เอาเถอะ ถือว่าเป็นคำแนะนำจากฉัน คุณจะสนใจหรือไม่ก็ตามที
โอ้..และสิ่งสุดท้าย ถ้าคุณสามารถทำอะไรดี ๆ เพื่อเพื่อนมนุษย์อย่างเช่นการบริจาคเลือด มันจะทำให้คุณรู้สึกยอดเยี่ยมที่ได้ช่วยชีวิตคนอื่น การบริจาคแต่ละครั้งช่วยผู้ที่ต้องการมันได้ถึง 3 คนแน่ะ มันทำง่ายและผลของมันยิ่งใหญ่จริง ๆ 
ฉันมีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้ก็เพราะเลือดบริจาคของคนอื่นนี่แหละ ทำให้ฉันอยู่ต่อได้อีกตั้งปีหนึ่ง ปีที่ฉันตั้งใจจะใช้ชีวิตอย่างดีที่สุดบนโลกใบนี้กับครอบครัว เพื่อน และหมาที่ฉันรัก อีกสักปีที่จะยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของฉัน
หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะ   : ฮอล"

ขอบคุณเพจ BizKlass by Lek Monchai จดหมายฉบับสุดท้ายของ ฮอลลี่ บัตเชอร์ ได้โพสต์ลงบนเฟซบุ๊กของเธอ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2561 ก่อนที่อีกเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมงจากนั้น เธอก็จากโลกนี้ไปอย่างสงบ


ไม่มีความคิดเห็น: