เกิดนี้มีเพื่ออะไร
คริสต์มาสเวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง
ลมหนาวพัดมาเยือนอีกครั้งหนึ่ง แม้จะเป็นช่วงสั้น ๆ แต่ก็ทำให้คนเมืองหลวงเมืองร้อนได้เปลี่ยนบรรยากาศ
ได้ซึมซับรับลมหนาวที่แวะมาเยี่ยมเยียน นี่คือ สัญญาณแห่งกาลเวลาที่มาตักเตือน
ที่มาบอกกล่าวเราว่า เวลาของเราใกล้เข้ามาทุกที ๆ
แล้วสิ่งที่เราได้กระทำในวันเวลาที่ผันผ่านมานั้นได้ก่อเกิดประโยชน์อันใดบ้าง
ได้ให้อะไรกับใครผู้ใด? หรือมีแต่ทำร้ายจิตใจกันจนกลายเป็นนิสัยไปแล้ว และหรือพากันคิดว่าสิ่งที่ทำไปนั้นดีที่สุด
(จริงหรือ) โดยไม่เคยจะฟังน้อมรับคำตักเตือนจากมโนธรรม จากจิตสำนึกตน จากคนอื่นบ้าง แก่นกลางความสำคัญของคริสต์มาสอยู่ที่การให้
ไม่ใช่ไถ่ถามหาการให้จากผู้อื่น หากไม่เคยคิดที่จะให้ผู้อื่นก็อย่าเรียกร้องจากผู้อื่น
เพราะจะยิ่งทำให้สังคมคนรอบข้างมีแต่ความหนาวใจเย็นจิต
คริสต์มาสจึงควรเกิดขึ้นบ่อย ๆ ในชีวิตจริงของเรา ในทุกฤดูกาล ในทุกวันเวลา
เพราะการเกิดมาของเราทุกคนเพื่อเติมเต็ม เพื่อให้โลกนี้สมบูรณ์
แต่...ใช่หรือไม่
หลายคนคิดไปว่าตัวเองเกิดมาเป็นศูนย์กลางจักรวาล จนมีอาการหยิ่งผยอง
สนองเพียงเพื่อตัวเองได้เด่น ดัง ให้คนทั้งโลกโจษจัน เป็นสิ่งน่าขบขันของคนคิดเยี่ยงนี้ที่หลงทาง
หลงตัวเอง คนแบบนี้นับวันยิ่งทียิ่งมีมากขึ้น
เราในฐานะที่มีพระคริสต์ผู้ถ่อมองค์ลงมา จากสูงสุดสู่ต่ำสุดเพียงเพื่อช่วยทุกคน
เป็นต้นธารธรรม ความรัก ความเมตตา การให้จึงต้องเป็นเอกลักษณ์คงอยู่คู่ชีวิตเราคริสตชนตราบสิ้นลมหายใจไม่ใช่ปล่อยชีวิตไปตามกระแส
และไม่แยแสต่อคนรอบข้าง และผู้ร่วมงานกับเรา อย่าให้ความสำคัญกับเงินทอง จนลืมมองคนรอบกาย
อย่าหลงในตำแหน่งจนไม่นำพาเสียงเตือนแห่งความสุขใจ อย่ามัวเมากับเปลือกที่ฉาบฉวย
เพราะนั่นคือมายาที่เสื่อมสลาย
วันเวลาผ่านไปทุกวัน
“ตอบได้ไหมว่า จะหยุดหาเงินเมื่อใด... เท่าไหร่คุณถึงจะบอกว่า
พอแล้ว...ร้อย พัน หมื่น ล้าน สิบล้าน... พอรึยังไม่ทราบ? ต่อให้คุณมีไร่นานับพันไร่
คุณก็กินข้าวได้แค่วันละสามจาน แม้นมีคฤหาสน์นับพันหลัง
คุณก็ต้องการพื้นที่หลับนอนยามค่ำคืน
เพียงแปดตารางเมตรดังนั้น..ตราบใดที่คุณยังมีข้าวปลาอาหารกินอย่างเพียงพอ
มีเงินพอใช้สอยได้ทุกวันเพียงเท่านี้ก็ดีเหลือหลายแล้ว
อายุเท่านี้แล้ว
คุณควรอยู่อย่างเป็นสุข ทุกบ้านต่างก็มีปัญหาของตนเอง อย่ามัวไปคิดเปรียบเทียบ
แก่งแย่งแข่งดีกัน ไม่ว่าชื่อเสียง ฐานะในสังคม หรือความก้าวหน้าของเด็กๆ ฯลฯ สิ่งที่ควรจะแข่งกัน
ทำกันจริง ๆ นั้นคือ แข่งกันมีความสุข แข่งกันมีสุขภาพดีและอายุยืนนาน
ส่วนอะไร ที่เราเปลี่ยนมันไม่ได้ ก็อย่าไปฝังอกฝังใจให้ป่วยการ
และทำลายสุขภาพตัวเองเลย ทุกวันวานที่ผ่านไป คุณจะสูญเสียไป ๑ วัน
แต่ถ้ามันผ่านไปอย่างเป็นสุข วันนั้นคือกำไรชัด ๆ เลย จิตใจที่ดี
จะช่วยรักษาโรคภัยได้ ถ้าจิตใจเป็นสุข โรคก็จะหายเร็วขึ้น” (ส่วนหนึ่งบทความ “เฉลียงชีวิต” เปลว สีเงิน)
นอกจากนี้เราในฐานะศิษย์พระคริสต์
เราจะอยู่ในโลกร่วมกับทุกคนอย่างมีคุณค่าอย่างไร? สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องรู้จักให้
ต้องมีเมตตากิจต่อคนอื่น เหมือนอย่างพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส
ที่มอบแนวทางกับเราในเรื่องการช่วยเหลือผู้ยากไร้ และทางวาติกันได้นำแนวคิดนี้มาจัดเป็นถ้ำหน้าพระมหาวิหารนักบุญเปโตรเพื่อสอนให้เราเห็นแก่นการบังเกิดมาขององค์กุมารน้อย
พระองค์ปรารถนาให้เราทำคริสต์มาสครั้งนี้อย่างมีคุณค่า ซึ่งประกอบด้วยรูปปั้นการให้เสื้อผ้านุ่งห่มแก่ผู้ยากไร้
รูปปั้นการเยี่ยมเยียนผู้ป่วย รูปปั้นการเยี่ยมเยียนผู้ต้องขัง และการช่วยฝังศพคนยากไร้
ใช่หรือไม่ในยุคปัจจุบัน
คนเราขาดน้ำจิตน้ำใจต่อกัน เราจึงไม่พบความสุขในชีวิตเท่าที่ควร
เรามีเสื้อผ้าเต็มตู้แต่เราก็ใส่อยู่ไม่กี่ชุด
เรามีรองเท้าไม่รู้กี่คู่ต่อกี่คู่ก็ใส่ได้ครั้งละสองข้าง ก็ลองลดจำนวนเสื้อผ้าที่ดี
ๆ ที่เราไม่ค่อยสนใจจะนำมาสวมใส่ให้กับผู้ที่จำเป็นต้องใช้ดูบ้าง
รองเท้าที่มีกระเป๋าที่เก็บ ของที่ตั้งไว้นานปีไม่เคยได้ใช้
แบ่งปันให้กับผู้ที่ใช้ได้ จะเป็นการใช้ทรัพยากรโลกอย่างมีประโยชน์ยิ่ง
เรามีเวลามากขึ้นแต่เราก็ปล่อยไปอย่างไร้ค่า
ใช้ไปกับเรื่องกิเลส แทนที่เราจะให้เวลากับผู้อื่นบ้าง
เรากลับมุ่งเพียงเพื่อตัวเอง โรคที่กำลังเป็นกันมากในวันนี้คือโรคซึมเศร้า
เหงาในจิต ชีวิตโดดเดี่ยว ไร้เพื่อนแท้ ชีวิตถูกกักขังอยู่ในเรือนจำเสมือนจริง
มีทุกอย่างที่ขาดคือความสุข จึงจำเป็นที่เราต้องออกจากตัวเองมาพบพูดคุยกัน
ให้กำลังใจกัน รับฟังแบ่งปันทุกข์สุขแก่กัน นี่ก็เป็นการเยี่ยมเยียนผู้ป่วยและผู้ต้องขังยุคดิจิตอลครองเมืองได้อย่างแท้จริง ความเมตตาที่สังคมสมัยใหม่ต้องการมากที่สุด
คือ การไม่ซ้ำเติมกัน ในวันที่ใครพลาดใครพลั้งไม่ได้ จะถูกถล่มให้จมหายตายจากกันไปข้าง
การฝังผู้อื่นแบบนี้ไม่ได้ทำให้โลกน่าอยู่ เราจำเป็นต้องให้อภัย และลดการกดขี่
เพราะการให้อภัยจะเป็นการช่วยให้ผู้คนจากลาโลกนี้ไปได้อย่างสงบสุข
คริสต์มาสครั้งนี้ เราต้องหาคำตอบให้กับชีวิตเราว่า “เกิดมาเพื่ออะไร?” แล้วสิ่งนั้นเราทำผ่านมาได้มากน้อยเพียงใด
อย่าปล่อยให้คริสต์มาสปีนี้ผ่านไปเพียงเพื่อรอคริสต์มาสในปีถัดไป เพราะเราไม่รู้ว่าจะอยู่ได้ถึงหรือไม่
สุขสันต์วันพระคริสตสมภพครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น