วันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2560

คุณ-ค่า-คน

คุณ-ค่า-คน
เมื่อการเดินทางไปไหนมาไหนในปัจจุบันดูเหมือนง่ายกว่าสมัยก่อน เดินทางด้วยเครื่องบินก็แสนจะสะดวกสบาย จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ทำให้เราได้รู้จักได้พบปะกับผู้คนได้มากขึ้น สามารถที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการมองดูผู้คน เข้าใจคนอื่นได้มากขึ้นเช่นกัน ในทุก ๆ ที่ที่ไป ย่อมมีสิ่งใหม่ให้เราเรียนรู้ได้เสมอ บางครั้ง บางที่เราอาจจะเห็นน้ำใจที่แสนงดงามของผู้คน ในขณะบางแห่งเราพบกับคนที่ดื้อรั้นและยึดติดกับความคิดของตัวเอง ไม่เปิดรับเปิดใจในสิ่งใหม่ ๆ หรือกระทั่งยึดโยงกลัวความเปลี่ยนแปลงที่มาจากคนอื่นก็มีให้เห็นอยู่เป็นประจำ ในโลกยุคปัจจุบันทำให้เรารู้จักคน รับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ได้มากขึ้น โลกเปิดกว้างในการติดต่อสื่อสาร แต่กระนั้นก็ดีบางทีมันก็นำมาซึ่งความยึดติดยึดโยงในข้อมูลข้างเดียว แล้วก็นำมาโต้เถียง เอียงข้างที่ตัวเราได้รับรู้ โดยคิดว่านั่นคือคุณค่าที่คู่ควร และแอบดูหมิ่นหยามหยันความคิดเห็นของผู้อื่นในที 


ในโลกแห่งความเป็นจริงไม่มีสิ่งใดเป็นที่หนึ่งตลอด ไม่มีอันใดเป็นที่สุด ไม่มีใครที่จะยืนยงอยู่คู่โลก ทุกคนย่อมมีที่มีทางเป็นของตัวเอง เราอาจจะมีความสามารถอย่างหนึ่งที่คนอื่นไม่มี ในขณะที่เราก็เห็นคนอื่นมีดีตามแบบของเขา สังคมจะราบรื่นและร่มเย็นได้ด้วยการที่เราเห็นคุณค่าของกันและกัน ช่วยกันนำคุณค่านั้นออกมาเพื่อประโยชน์ส่วนรวม โลกนี้มีคนเก่งมากมาย แต่มักจะตายไปหรือพ่ายแพ้ต่อความเห็นแก่ตัว เพราะการแข่งขันและการวัดค่าคนที่ผิดเพี้ยนไป คนเราวันนี้มักถือดีถือตัวเองเป็นที่ตั้ง คนที่มีข้อมูลมากก็คิดว่าตัวเก่งเกินคน ใครที่มีอำนาจมากก็ใช้ไปบีบบังคับข่มขู่ ใครที่มีเงินมีทองมากก็อาจจะไม่สนใจฟังความคิดเห็นของคนอื่น โลกวันนี้ดูเหมือนกว้างแต่ก็ถูกขวางทางกันจนตีบตัน อันที่จะสร้างสรรค์ก็กลับถอยหลัง เพราะต่างคนต่างมองข้ามคุณค่าของคนอื่นไปหมด 
นิทสึ ฮารุโกะ เป็นลูกครึ่งจีน-ญี่ปุ่น ด้วยความที่ไปอยู่เมืองจีนตั้งแต่ยังเล็ก เธอจึงพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ค่อยได้ การศึกษาก็ไม่สูงนัก เธอเหลือทางเลือกเพียงอาชีพพนักงานทำความสะอาดสนามบิน เป็นงานที่หนักและเป็นงานที่สกปรก งานที่ไม่มีใครอยากทำและอายที่มีอาชีพนี้
ฮารุโกะตั้งใจเรียนรู้วิธีการทำความสะอาดพื้นต่าง ๆ การใช้น้ำยาขจัดคราบจากเจ้านาย เธอเพียรสังเกต ใส่ใจ และมุ่งมั่นทำความสะอาด ทำให้ดีที่สุด สะอาดที่สุด แม้ไม่มีลูกค้าคนใดหันมาชื่นชม แต่เธอตั้งใจทำงานเอง เพราะทุกครั้งที่เธอลงมือทำความสะอาด เธอจะจินตนาการถึงผู้ใช้
“หากเด็กเล็กลงไปคลานกับพื้นสกปรก แล้วเด็กไม่สบายล่ะ? หรือถ้านักธุรกิจคนนั้นกำลังจะขึ้นเครื่องไปเจรจาธุรกิจสำคัญ แต่ถ้าพื้นยังสกปรก เขาคงรู้สึกขุ่นข้องหมองใจอย่างบอกไม่ถูกเป็นแน่แท้ ฉันคงรู้สึกแย่นะ”

ภาพ  : https://www.krungsri.com
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฮารุโกะก็ตั้งใจทำงานตรงหน้าให้ดีที่สุด ดีจนถึงขั้นประดิษฐ์อุปกรณ์ทำความสะอาดและแปรงต่าง ๆ ขึ้นมาเองเพื่อให้ทำความสะอาดได้ดีที่สุด
ฮารุโกะได้รับการโปรโมทขึ้นเป็นหัวหน้าพนักงานทำความสะอาด โดยมีลูกน้องกว่า 5 พันคน เธอยังได้รับเชิญไปบรรยายตามที่ต่าง ๆ ทั้งด้านทัศนคติการทำงาน และในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาด  เรื่องราวของเธอถูกนำมาสร้างเป็นสารคดีของ NHK
“แม้ทำความสะอาดเสร็จ แต่หากใครทำสกปรกก็ไม่เป็นไร เพราะหากยังคงสภาพสะอาดตลอด ฉันก็คงไม่มีงานทำ พอฉันเริ่มคิดได้แบบนี้ ฉันก็สบายใจนะ จริง ๆ แล้ว งานทำความสะอาดเป็นงานที่ตัดสินง่ายนะคะ แค่มองด้วยตาก็รู้แล้วว่างานเราดีพอหรือยัง เวลาใครอุทานว่า “สะอาดจัง” ฉันก็ดีใจ ดิฉันคิดว่า หากเราพยายามมองในแง่ดี เราก็จะมีแรงบันดาลใจในการทำงานค่ะ”
ข้อมูลจาก: SUUMO





ในวันนี้จะมีสักกี่คนที่เป็นเหมือนฮารุโกะคนนั้น ที่เห็นคุณค่าคนทั้งของตัวเองและของผู้อื่น การมองเห็นความต้องการของผู้อื่นช่วยส่งเสริมให้เห็นคุณค่าของคนอื่นตามความสามารถของเขาเช่นกัน ใช่หรือไม่ เราเองก็มีค่าในตัวเองด้วยกันทุกคน หากเราทำหน้าที่ด้วยความดี ด้วยความรักเมตตา ลดละความเห็นแก่ตัว การโอ้อวด เอาตัวเองเป็นที่ตั้งลงบ้าง เพียงแค่นี้คุณค่าในความเป็นมนุษย์ก็จะบังเกิดขึ้น และคุณค่าที่เรามีนั้นไม่อาจจะนับเป็นอัตราค่าเงินค่าทองได้ เพราะนั่นเป็นเพียงเกณฑ์สมมติเท่านั้น คุณค่าที่แท้จริง นั่นคือสันติสุขในจิตใจ เราอย่าทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยของดีมีค่าที่ตั้งอยู่ในตู้โชว์เลย แต่ต้องช่วยกันทำให้เติบโตด้วยคุณค่าของคำว่า สายโลหิตในพระคริสตเจ้าเดียวกัน

ไม่มีความคิดเห็น: