คุณ-ค่า-คน
เมื่อการเดินทางไปไหนมาไหนในปัจจุบันดูเหมือนง่ายกว่าสมัยก่อน เดินทางด้วยเครื่องบินก็แสนจะสะดวกสบาย
จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ทำให้เราได้รู้จักได้พบปะกับผู้คนได้มากขึ้น
สามารถที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการมองดูผู้คน เข้าใจคนอื่นได้มากขึ้นเช่นกัน ในทุก
ๆ ที่ที่ไป ย่อมมีสิ่งใหม่ให้เราเรียนรู้ได้เสมอ บางครั้ง บางที่เราอาจจะเห็นน้ำใจที่แสนงดงามของผู้คน
ในขณะบางแห่งเราพบกับคนที่ดื้อรั้นและยึดติดกับความคิดของตัวเอง ไม่เปิดรับเปิดใจในสิ่งใหม่
ๆ หรือกระทั่งยึดโยงกลัวความเปลี่ยนแปลงที่มาจากคนอื่นก็มีให้เห็นอยู่เป็นประจำ
ในโลกยุคปัจจุบันทำให้เรารู้จักคน รับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ได้มากขึ้น โลกเปิดกว้างในการติดต่อสื่อสาร
แต่กระนั้นก็ดีบางทีมันก็นำมาซึ่งความยึดติดยึดโยงในข้อมูลข้างเดียว แล้วก็นำมาโต้เถียง
เอียงข้างที่ตัวเราได้รับรู้ โดยคิดว่านั่นคือคุณค่าที่คู่ควร
และแอบดูหมิ่นหยามหยันความคิดเห็นของผู้อื่นในที
ในโลกแห่งความเป็นจริงไม่มีสิ่งใดเป็นที่หนึ่งตลอด ไม่มีอันใดเป็นที่สุด
ไม่มีใครที่จะยืนยงอยู่คู่โลก ทุกคนย่อมมีที่มีทางเป็นของตัวเอง
เราอาจจะมีความสามารถอย่างหนึ่งที่คนอื่นไม่มี ในขณะที่เราก็เห็นคนอื่นมีดีตามแบบของเขา
สังคมจะราบรื่นและร่มเย็นได้ด้วยการที่เราเห็นคุณค่าของกันและกัน ช่วยกันนำคุณค่านั้นออกมาเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
โลกนี้มีคนเก่งมากมาย แต่มักจะตายไปหรือพ่ายแพ้ต่อความเห็นแก่ตัว
เพราะการแข่งขันและการวัดค่าคนที่ผิดเพี้ยนไป คนเราวันนี้มักถือดีถือตัวเองเป็นที่ตั้ง
คนที่มีข้อมูลมากก็คิดว่าตัวเก่งเกินคน ใครที่มีอำนาจมากก็ใช้ไปบีบบังคับข่มขู่
ใครที่มีเงินมีทองมากก็อาจจะไม่สนใจฟังความคิดเห็นของคนอื่น
โลกวันนี้ดูเหมือนกว้างแต่ก็ถูกขวางทางกันจนตีบตัน อันที่จะสร้างสรรค์ก็กลับถอยหลัง
เพราะต่างคนต่างมองข้ามคุณค่าของคนอื่นไปหมด
นิทสึ ฮารุโกะ เป็นลูกครึ่งจีน-ญี่ปุ่น
ด้วยความที่ไปอยู่เมืองจีนตั้งแต่ยังเล็ก เธอจึงพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ค่อยได้
การศึกษาก็ไม่สูงนัก เธอเหลือทางเลือกเพียงอาชีพพนักงานทำความสะอาดสนามบิน เป็นงานที่หนักและเป็นงานที่สกปรก
งานที่ไม่มีใครอยากทำและอายที่มีอาชีพนี้
ฮารุโกะตั้งใจเรียนรู้วิธีการทำความสะอาดพื้นต่าง
ๆ การใช้น้ำยาขจัดคราบจากเจ้านาย เธอเพียรสังเกต ใส่ใจ และมุ่งมั่นทำความสะอาด
ทำให้ดีที่สุด สะอาดที่สุด แม้ไม่มีลูกค้าคนใดหันมาชื่นชม
แต่เธอตั้งใจทำงานเอง เพราะทุกครั้งที่เธอลงมือทำความสะอาด
เธอจะจินตนาการถึงผู้ใช้
“หากเด็กเล็กลงไปคลานกับพื้นสกปรก
แล้วเด็กไม่สบายล่ะ? หรือถ้านักธุรกิจคนนั้นกำลังจะขึ้นเครื่องไปเจรจาธุรกิจสำคัญ
แต่ถ้าพื้นยังสกปรก เขาคงรู้สึกขุ่นข้องหมองใจอย่างบอกไม่ถูกเป็นแน่แท้
ฉันคงรู้สึกแย่นะ”
ภาพ : https://www.krungsri.com |
เมื่อคิดได้เช่นนั้น
ฮารุโกะก็ตั้งใจทำงานตรงหน้าให้ดีที่สุด ดีจนถึงขั้นประดิษฐ์อุปกรณ์ทำความสะอาดและแปรงต่าง
ๆ ขึ้นมาเองเพื่อให้ทำความสะอาดได้ดีที่สุด
ฮารุโกะได้รับการโปรโมทขึ้นเป็นหัวหน้าพนักงานทำความสะอาด
โดยมีลูกน้องกว่า 5 พันคน เธอยังได้รับเชิญไปบรรยายตามที่ต่าง ๆ
ทั้งด้านทัศนคติการทำงาน และในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาด เรื่องราวของเธอถูกนำมาสร้างเป็นสารคดีของ NHK
“แม้ทำความสะอาดเสร็จ
แต่หากใครทำสกปรกก็ไม่เป็นไร เพราะหากยังคงสภาพสะอาดตลอด ฉันก็คงไม่มีงานทำ
พอฉันเริ่มคิดได้แบบนี้ ฉันก็สบายใจนะ จริง ๆ แล้ว
งานทำความสะอาดเป็นงานที่ตัดสินง่ายนะคะ
แค่มองด้วยตาก็รู้แล้วว่างานเราดีพอหรือยัง เวลาใครอุทานว่า “สะอาดจัง” ฉันก็ดีใจ
ดิฉันคิดว่า หากเราพยายามมองในแง่ดี เราก็จะมีแรงบันดาลใจในการทำงานค่ะ”
ข้อมูลจาก: SUUMO
ข้อมูลจาก: SUUMO
ในวันนี้จะมีสักกี่คนที่เป็นเหมือนฮารุโกะคนนั้น ที่เห็นคุณค่าคนทั้งของตัวเองและของผู้อื่น
การมองเห็นความต้องการของผู้อื่นช่วยส่งเสริมให้เห็นคุณค่าของคนอื่นตามความสามารถของเขาเช่นกัน
ใช่หรือไม่ เราเองก็มีค่าในตัวเองด้วยกันทุกคน หากเราทำหน้าที่ด้วยความดี
ด้วยความรักเมตตา ลดละความเห็นแก่ตัว การโอ้อวด เอาตัวเองเป็นที่ตั้งลงบ้าง
เพียงแค่นี้คุณค่าในความเป็นมนุษย์ก็จะบังเกิดขึ้น
และคุณค่าที่เรามีนั้นไม่อาจจะนับเป็นอัตราค่าเงินค่าทองได้ เพราะนั่นเป็นเพียงเกณฑ์สมมติเท่านั้น
คุณค่าที่แท้จริง นั่นคือสันติสุขในจิตใจ เราอย่าทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยของดีมีค่าที่ตั้งอยู่ในตู้โชว์เลย
แต่ต้องช่วยกันทำให้เติบโตด้วยคุณค่าของคำว่า “สายโลหิตในพระคริสตเจ้าเดียวกัน”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น