ความดีมิใช่ความว่างเปล่า
ข่าวการค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง
เป็นข่าววิทยาศาสตร์ที่เขย่าโลก
เป็นการค้นพบที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายสิบปี โดยไลโก้ (Laser Interferometer
Gravitational-Wave Observatory (LIGO) หอสังเกตการณ์คลื่นความโน้มถ่วงด้วยเลเซอร์อินเตอร์เฟอรอมีเตอร์) ได้ยืนยันการตรวจพบคลื่นความโน้มถ่วง
จากการชนกันของหลุมดำเล็ก (black hole) 2
หลุมที่อยู่ห่างจากโลกเราไปเป็น 1.3 พันล้านปีแสง (เป็นเหตุการณ์ในอดีตยาวนานมาก)
จังหวะที่หลุมดำมันปะทะกันรวมเข้าเป็นอันเดียวกันนั้น
คลื่นความโน้มถ่วงก็รวมเข้าด้วยกันแล้วก็กระจายตัวออกอย่างรุนแรง คล้ายๆ
เวลาที่หินตกลงไปในน้ำแล้วเราเห็นเป็นริ้วๆ วงๆ ออกมารอบจุดนั้น
ไอสไตน์
เคยนำเสนอไว้ตั้งแต่ปี 1916 เกือบร้อยปีก่อนเกี่ยวกับคลื่นความโน้มถ่วง
ว่าตามสมการคำนวณแล้ว เมื่อวัตถุขนาดใหญ่ยักษ์ในอวกาศมาปะทะกัน
จะต้องเกิดคลื่นความโน้มถ่วงขึ้น
แต่ขนาดของคลื่นนั้นจะน้อยมากจนแม้แต่ไอสไตน์เองก็บอกว่า
มนุษย์เราไม่น่าจะวัดมันได้ และถ้าคลื่นความโน้มถ่วงมีจริง
จักรวาลของเราจะมีลักษณะเป็นแบบที่ไอสไตน์เสนอไว้ คือ
ไม่ใช่เป็นแค่ที่ว่างเปล่าและมีดาวต่างๆ ลอยอยู่เหมือนลูกโป่งลอยในอากาศ แต่เป็น “กาลอวกาศ”
ที่รวมกันระหว่าง space
และ time (พื้นที่และเวลา)
ภาพ : http://kp.thaibuffer.com/o/img_cms2/user/settawoot/settawoot/aug3/www.jpg |
จากข่าวนี้สิ่งที่มองเห็นมิใช่เป็นการพิสูจน์ว่าจักรวาลนี้ไม่ใช่การสร้างของพระเจ้า
แต่วิทยาศาสตร์กำลังพิสูจน์วิธีการสร้างของพระเจ้าต่างหากขนาดไอน์สไตน์ยังเชื่อว่าพระเจ้าคือธรรมชาติ “อะไรที่ข้าพเจ้าเห็นในธรรมชาติ ล้วนเป็นโครงสร้างมหัศจรรย์
ที่มนุษย์มีความสามารถเพียงเล็กน้อย
เข้าใจแค่ครึ่งๆกลางๆ ไม่รู้จริงหมดสักที
มันเป็นจุดด้อยของเราที่ไม่สามารถทำอะไรกับความลี้ลับนี้ได้
ความเชื่อในศาสนาของข้าพเจ้ามีความชื่นชมนอบน้อมต่อพระเจ้าผู้อยู่สูงเกินจะประมาณ
พระองค์ทรงเปิดเผยตัวเองเพียงเล็กน้อย ที่ความคิดตื้นเขิน ความเข้าใจของพวกเรานั้น
ยังไม่สามารถรู้ซึ้งถึงความจริงได้”
มนุษย์เรามักคิดว่าเราเป็นศูนย์กลางจักรวาล
เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง
คิดว่าตัวเองเก่งกาจและพยายามหาทางครอบครองพื้นที่และเวลาของผู้อื่น ซึ่งความจริงแล้วทุกอย่างมีพื้นที่มีเวลาของมัน
ของแต่ละคน เรามักจะใช้มาตรฐานวัดของตัวเองมาวัดค่าสิ่งนั้นสิ่งนี้
คนนั้นคนนี้จากเรื่องการค้นพบแรงโน้มถ่วงนี้
ทำให้เราต้องมานั่งพินิจพิเคราะห์อย่างจริงจังอีกครั้งว่า แท้จริงแล้วเราก็คือสิ่งเล็กกระจิดริดในจักรวาล
ยังมีเรื่องมีสิ่งต่างๆ อีกมากมายที่เรายังมิอาจหยั่งรู้ได้เลย สิ่งที่แท้ๆ
ในโลกนี้คือ ความดี ความงาม มีอยู่ให้เห็นทุกอณู ที่มิใช่เพียงความว่างเปล่า
ด้วยความดีมีแรงโน้มถ่วงทำให้ด้านร้ายของจิตใจคนเราเปลี่ยนแปลง ความดีมีแรงดึงดูดให้เกิดมวลรวมของพลังมหาศาลที่ขับเคลื่อนโลกให้หมุนอยู่ในความงามเสมอมา
ภาพ : http://4toom.com/wp-content/uploads/2015/07/571103_a401.jpg |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น