วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2558

รองเท้ากลับข้าง

รองเท้ากลับข้าง
ใต้ร่มไม้ชายคา บนเปลที่ขึงไว้ระหว่างเสาบ้าน เป็นอีกหนึ่งเวลาที่กลับมาหาแม่ เพราะด้วยอาการป่วยกะทันหัน ความดันสูงผิดปกติ แต่เมื่อทานยาลดความดันแล้วหมอก็ให้กลับบ้านมาพักผ่อน แม่กลับมานอน แต่ก็ไม่อาจจะอยู่นิ่งเฉยได้ พยายามลุกขึ้นอย่างเชื่องช้าทำนี่ทำนั่น แม้จะช้าลงแต่ก็ขอให้ได้ทำ แรก ๆ ก็รู้สึกว่า “ทำไมแม่ไม่พักบ้าง” พอถามไปแม่กลับตอบว่า ในชีวิตไม่เคยนอนกลางวันเลย มันนอนไม่หลับ ยิ่งไม่ทำอะไรยิ่งกระสับกระส่าย พอชวนคุยเพื่อให้แม่หยุดทำงานบ้าน แม่ก็คุยเรื่องเดิม ๆ วนไปวนมาอยู่หลายรอบ พอหยุดคุยก็ลุกใส่รองเท้า แต่ใส่แบบกลับข้าง แล้วเดินออกไปสอยลูกมะม่วง นั่งมองแม่แล้วก็อดที่จะคิดต่อไปไม่ได้ว่า นี่มัน Slow life ของแท้
วันนี้ชีวิตแม่สอนให้รู้ว่า ช้าลงไม่ใช่ว่าจะหยุดทำทิ้งกิจกรรมทุกอย่างวางไว้ ทำต่อไปแม้จะช้าแต่ก็ยังได้ผลสัมฤทธิ์เหมือนเดิม มีเวลาคิดก่อนทำ มีเวลาคิดให้รอบคอบ ไม่เร่งรีบ ไม่แข่งขันกับใคร รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร บางครั้งในชีวิตจริงเราก็อยากจะทำให้ชีวิตช้าลงบ้าง อยากจะไปนั่งเล่นสบาย ๆ ไม่ต้องไปทำงานทำการ การมีชีวิตแนวนี้มักเป็นที่เข้าใจผิดคิดไปเองว่านี่คือการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ แล้วก็นั่งโพสต์รูปโพสต์สถานที่โชว์ในวงสังคมออนไลน์ นี่มันเป็นการโชว์ไลฟ์หาใช่สโลว์ไลฟ์
แม่พูดซ้ำ ๆ เรื่องเดิม ๆ โดยไม่รู้ตัว และคุยแต่เรื่องพระเรื่องเจ้า การพูดคุยกันในวงสนทนาของเรานั้นสิ่งที่มักหลีกหนีไม่พ้นคือการนินทากัน ไม่เรานินทาเขา เขาก็นินทาเรา หากการพูดคุยกันมันก่อให้เกิดบาป ก็ต้องลองหันกลับมาคุยเรื่องที่ไม่นำเอาชีวิตคนอื่นมาเกี่ยวข้อง ถ้าหยุดไม่ได้ก็พูดให้น้อยลง ฟังให้มากขึ้น คิดให้เยอะขึ้น ชีวิตเราจะได้สุขทวีขึ้น
ก็มีสักหลายครั้งในชีวิตหนึ่ง ที่เราต้องใส่รองเท้ากลับข้าง ในตอนเป็นเด็ก ๆ ที่ยังไม่ประสารู้ซ้ายรู้ขวา เป็นความน่ารักที่ชวนมอง และในชีวิตของคนผู้ล่วงเลยวันวานมาอย่างยาวนาน อาการหลง ๆ ลืม ๆ มาเยือน การใส่รองเท้าผิดข้างถือเป็นเรื่องธรรมดา และมีไม่น้อยคนในวันที่จิตใจเหม่อลอย ไร้สติ เบลอ ๆ ทำอะไรไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ย่อมพลาดใส่รองเท้าสลับข้างได้เสมอ ในชีวิตเราที่ต้องมีสติมีสมองแจ่มใส เพราะจะทำให้รู้ตัวอยู่เสมอว่าด้านไหนด้านซ้ายด้านขวา แต่ก็ใช่ว่าการใส่รองเท้าสลับข้างจะเดินต่อไปไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ถนัดนัก ออกจะฝืน ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ล้มลง ใช่หรือไม่ ตอนเป็นเด็กฝ่าเท้าน้อย ๆ จะถูกยกขึ้น มีมือแม่นี่แหละที่ค่อย ๆ เปลี่ยนรองเท้าให้ถูกข้าง มาวันนี้วันที่แม่ใส่รองเท้าผิดข้างเสียเอง เรากล้าพอไหมที่จะก้มลงยกเท้าท่านแล้วเปลี่ยนข้างรองเท้าให้ท่าน ?

ใต้ร่มไม้ชายคาหลังเดิมนี้ แต่ก่อนเราเคยถามหาแม่ว่า แม่ทำอะไรให้กินบ้าง แต่วันนี้แม่กลับถามแล้วถามอีกว่า กินอะไรหรือยัง จะกินอะไรมั๊ย หิวมั๊ย ถามวันละห้ารอบสิบรอบ ถึงแม้จะหิวแต่ความเป็นห่วงของแม่ก็ทำให้เราอิ่มได้เสมอ ในวันที่แม่เดินไปหาของให้กิน แล้วใส่รองเท้าผิดข้าง...

ไม่มีความคิดเห็น: