วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เก็บไว้ เมื่อกาลครั้งหนึ่ง

เก็บไว้ เมื่อกาลครั้งหนึ่ง
            ช่วงเดือนที่ผ่านมา ได้รับรู้ถึงความทุกข์ของผู้คนว่ามีมากขึ้นทุก ๆ วัน หลายคนที่รู้จักกำลังเผชิญกับปัญหาที่ก่อทุกข์ หลายคนที่คุ้นเคยกำลังจมอยู่ในกองทุกข์ เป็นความทุกข์ที่เกิดจากโรคภัยไข้เจ็บ บ้างก็ทุกข์จากความสัมพันธ์ระหว่างคนกันเอง อีกหลายคนที่ทุกข์เพราะไม่ได้ดังที่คาดหวัง ไม่มีความสะดวกสบายเพียงพออย่างที่ควรจะเป็น คนทุกข์นั้นสิ่งที่ต้องการ ณ เวลาถึงขีดสุดคือหาคนที่จะฟัง คนที่พร้อมยอมให้ระบายเพื่อปลดปล่อยให้ความทุกข์หลุดลอยไปบ้าง ในสังคมยุคตัวใครตัวมัน ย่อมยากยิ่งที่จะหาใครสักคนมานั่งฟัง มานั่งเคียงข้างให้กำลังใจ เพราะต่างคนต่างคิดว่า เวลาสบายไม่เห็นจะมาบอกกล่าวเล่าขาน มาแบ่งปันสุขให้กันบ้างเลย พอเกิดทุกข์กลับมาเรียกร้อง ใช่หรือไม่ล่ะคนสบายดีย่อมไม่ต้องการหมอหรอก

            บนความทุกข์มักฝังรอยความทรงจำยาวนานกว่าช่วงแห่งความสุขหรรษา พลอยทำให้หลายคนคิดไปว่าในชีวิตจริงของผู้คนมีความทุกข์มากกว่า แต่ถ้าลองมานั่งตรองนั่งวิเคราะห์ดู ชีวิตเรามีทั้งสุขและทุกข์ แต่ความสุขนั้นมักผ่านไปเร็วกลายเป็นกาลครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว เอาเข้าจริงทุกวันเวลาล้วนมีความสุขปนอยู่ หากเราจะลองทบทวนและเก็บรักษา ต่อยอดสุขให้ผลิบาน บางทีทุกข์ท้อแท้อาจจะลดน้อยลง ในช่วงเวลาความทุกข์หากมีเพื่อนสักคนมานั่งฟัง มาให้ความช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ คอยเพิ่มกำลังใจ นั่นแหละ คือความสุขอีกชนิดหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในห้วงระทมนั้น เก็บสิ่งที่ผ่านมาเป็นบทเรียนอย่าให้ผ่านไป เมื่อมองย้อนกลับไป ความงามของชีวิตล้วนมีมาให้เราสัมผัสได้เสมอ
            ในขณะนั่งดูภาพถ่ายครั้งเมื่อได้เดินทางไปเยี่ยมชมกังหันลมโบราณในเนเธอร์แลนด์เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ดินแดนที่เต็มไปด้วยสีสัน ทำให้คิดได้ว่า สิ่งสร้างเหล่านี้นั้นล้วนเคยสร้างชีวิตคนให้มีความสุขมาแล้วนักต่อนัก แต่วันนี้เป็นเพียงสิ่งเก่าเล่าเรื่องราวให้ผู้คนผ่านมาได้ชื่นชม ในเรื่องราวนั้นมีแง่มุมให้คิดเพื่อสร้างมุมงามในการดำเนินชีวิตอยู่ไม่น้อย

            ได้กล่าวไว้เมื่อตอนที่แล้วว่าเนเธอร์แลนด์หรือ ฮอลแลนด์นี้มีพื้นที่ 1 ใน 4 ของประเทศต่ำกว่าระดับน้ำทะเล  ดังนั้นเนเธอร์แลนด์จึงต้องปรับพื้นที่โดยสร้างเขื่อน สร้างทางระบายน้ำ และสถานีสูบน้ำจำนวนมากสูบน้ำออกจากพื้นที่เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้  และได้คิดค้นพัฒนากังหันลมแบบต่างๆ เพื่อเป็นแหล่งพลังงานในการสูบน้ำ ความจริงแล้วกังหันลมไม่ได้ประดิษฐ์โดยชาวดัตช์ กังหันลมได้ถูกคิดค้นขึ้นมาตั้งแต่ในยุคสมัยโบราณ แต่ชาวดัตช์นี่แหละที่ทำให้กังหันลมกลายเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีคุณประโยชน์นานาประการ  ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบ  มีลมพัดผ่านอยู่แทบจะตลอดเวลา จึงได้นำกังหันลมมาใช้กันอย่างมากมาย
            คุณประโยชน์ของกังหันลมนั้นใช้เป็นโรงโม่ โดยใช้พลังงานลมในการบดอัดธัญพืชหรือเมล็ดพันธุ์ให้ละเอียด ช่วยสูบน้ำออกจากทะเลสาบหลายแห่ง และทำให้กลายเป็นที่โล่งแห้งเพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการทำเกษตรกรรม ที่สำคัญยังช่วยปกป้องประเทศเนเธอร์แลนด์จากภัยน้ำท่วมอีกด้วย กังหันลมในปัจจุบันกำลังจะค่อย ๆ หมดพลังลงเรื่อย ๆ เพราะความเจริญของเมืองที่มากขึ้นมีตึกสูงสร้างรายล้อมทำให้กังหันลมรับแรงลมไม่ได้มากเหมือนที่เคย ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ในที่สุดวันหนึ่งกังหันลมเหล่านี้ก็กลายเป็นตำนาน ให้ผู้คนกล่าวขานถึง  ไม่มีบทบาทหน้าที่มากเหมือนเมื่อกาลครั้งโน้น

           
และถ้าหากว่าเราสร้างกังหันสุขขึ้นมาใช้ในชีวิตจริงได้ เมื่อมีความทุกข์พัดผ่านเข้ามา กังหันนี้ก็จะบด ก็จะทด ทำให้เกิดเป็นพลังบางอย่าง เพื่อปกป้องไม่ให้ชีวิตของเราอ่อนแอและถูกทำลายลง หรือว่าแท้จริงชีวิตเรากำลังจะกลายเป็นกังหันลมในตำนาน เป็นสิ่งหนึ่งที่ถูกเก็บไว้ให้ด้อยค่าลง เพราะถูกความเจริญทางวัตถุ ถูกจูงด้วยค่านิยมสมัยใหม่ ถูกถาโถมด้วยความอยากได้ใคร่มี ไร้ภูมิต้านทานต่อสิ่งเย้ายวนใจ ไปต่อไม่เป็น เดินก้าวไปไม่ไหว ในวันที่ทุกข์มาเยือน จิตวิญญาณใช้การไม่ได้ ปล่อยให้เป็นสิ่งเก่าของกาลเวลา ซึ่งไม่ช่วยให้เราอยู่ในโลกแห่งความงามได้เลยแม้สักวินาที ชีวิตมีค่ามากกว่าปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไป ช่วยกันบำรุงรักษาชีวิตทั้งของตัวเองและคนรอบข้าง ช่วยกันสร้างสุขผ่อนทุกข์ ปลุกชีวิตให้เป็นกังหันลมที่พร้อมจะแปลเปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นแรงผลักดัน ให้เป็นแรงบันดาลใจของกันและกัน เพื่อวันใหม่ ฟ้าใหม่ ชีวิตใหม่บนความงามอันเดิมอย่างเลอค่าตลอดไป

ไม่มีความคิดเห็น: