ณ ริมคลอง มองดูความงาม
หลังมิสซารอบเที่ยงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ได้มีโอกาสได้ไปเยี่ยมคนคุ้นเคยที่โรงพยาบาลร่วมกับเพื่อนคุ้นชินกลุ่มหนึ่ง เนื่องจากห้องคนป่วยที่ไปเยี่ยมนั้น
เป็นห้องรวมที่เต็มไปด้วยคนป่วยสูงอายุเต็มทุกเตียง ทำให้ตระหนักถึงการเกิด แก่ เจ็บ
ตาย เกิดกับตายนี่เราทุกคนมีเท่ากัน คนละหนึ่งครั้ง ความแก่ก็แล้วแต่อายุขัยของแต่ละคน
อายุยืนก็จะแก่ได้นาน ส่วนเรื่องความเจ็บ ล้วนแต่ต้องเผชิญกันทุกผู้คน แล้วไม่รู้ว่าในชีวิตหนึ่งนั้นจะต้องเจ็บสักกี่ครั้ง
เจ็บป่วยจากโรคภัยก็ชนิดหนึ่งซึ่งต้องพบเจอกันเสมอ การเจ็บอีกชนิดหนึ่งซึ่งอาจจะนำความทุกข์มาสู่ชีวิตได้
นั่นคืออาการเจ็บป่วยใจ เจ็บป่วยจากข้างในมักจะลุกลามทำให้ร่างกายพลอยต้องล้มป่วยไปด้วย
ฉะนั้นแล้วการรักษาสภาพจิตใจให้มั่นคงแข็งแรง ย่อมเป็นภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บที่คุ้มค่าที่สุด
คลองหลังบ้านนั้นเป็นคลองขนาดเล็ก
เป็นคลองปิดทั้งสองฝากฝังและหัวท้าย คล้าย ๆ เป็นสระน้ำธรรมชาติ มีท้องร่องอยู่สองข้างถูกกั้นด้วยทางดินที่พอเดินได้คนเดียว
สุดทางซึ่งไม่ไกลนักเป็นทางกลับเรือเพื่อสู่อีกร่องหนึ่ง หลังจากนำเรือน้อยลงสู่ลู่ร่องน้ำ
เตรียมไม้พาย จัดให้ทั้งคู่นั่งลงในเรือเรียบร้อย ก็ปล่อยให้เรือแล่นไปตามท้องร่อง
ทำให้เด็กพายเรือแล่นไปได้ไม่ยากนัก เมื่อทั้งสองลงเรือลำเดียวกันก็ต้องช่วยกันพายพาเรือมุ่งสู่ข้างหน้า
ใช่หรือไม่ในชีวิตเราก็ลงเรือลำเดียวกันกับหลากหลายผู้คน ต่างเวลาต่างวาระ แล้วในเรือลำนั้น
เรามีส่วนร่วมพายให้เรือเดินหน้ามากน้อยแค่ไหน หรือมีบ้างบางหนคนเราเมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้วกลับกลายไม่ช่วยเหลือกัน
แถมซ้ำร้ายมือก็ไม่พาย เท้ายังลาน้ำอีก ทำให้เรือมีปัญหาเดินหน้าอย่างเชื่องช้า เรือชีวิตจึงย้ำย่ำอยู่กับที่
เมื่อเรือของสาวน้อยทั้งสองไปถึงทางกลับ
ก็ไปติดแหง็ก ไม่รู้จะต้องบังคับเรือไปทางไหน ทั้งคู่จึงส่งเสียงส่งสายตาเว้าวอนขอความช่วยเหลือ
ความจริงเพียงลงเดินไปตามคันดินก็สามารถที่จะไปช่วยให้เรือหันสู่อีกท้องร่องหนึ่งได้
แต่ในใจก็อยากจะลองให้ทั้งสองคิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้าดู ด้วยการให้กำลังใจว่า “พวกหนูทำได้ค่อย
ๆ ช่วยกันคิดว่าจะพายอย่างไรให้หัวเรือเลี้ยวมาทางขวา” ไม่นานเรือก็ค่อย ๆ เบนหัวเข้าสู่ร่องน้ำทางตรงได้
แม้ว่าจะต้องเสียเวลา ถอยไปถอยมา หัวเรือเสียบเข้าพงหญ้าไปบ้าง
ในชีวิตจริงไม่มากก็น้อยที่ต้องเสียเวลากับจุดเปลี่ยนจุดหักเห
จุดเลี้ยว ชีวิตติดหล่ม เข้ารกเข้าพงหนาม ต้องลองผิดลองถูก กว่าจะก้าวข้ามผ่านมาได้
และหากได้มีใครสักคนช่วยแนะนำ ใส่ความพยายาม มานะ อดทน จุดเปลี่ยนนั้นจะกลายเป็นจุดเริ่มสู่เป้าหมาย
เป็นจุดที่เติมเพิ่มพลัง ประสบการณ์นั้นอาจจะมีเจ็บป่วยบ้าง โศกเศร้า ท้อแท้บ้าง
แต่มักนำมาซึ่งความชำนาญและความเข้มแข็ง
และแล้วเหตุการณ์ที่นำมาซึ่งน้ำตาของสาวน้อย
เมื่อพายของคนหนึ่งพลาดไปโดนศีรษะของอีกคนหนึ่ง แต่ไม่ได้ร้ายแรงอะไร คงเป็นเพราะความตกใจน้ำตาจึงไหลออกมา
อีกฝ่ายหนึ่งจึงรีบขอโทษ บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ เป็นอุบัติเหตุ เรื่องราวจึงผ่านไปทั้งคู่จึงพายต่อไม่นานเรือก็เทียบท่า
พักสักครู่ ทั้งสองก็ลองใหม่ ผลปรากฏว่า รอบนี้ทำได้ดีมาก มีแต่เสียงหัวเราะและเริงร่า
นี่แหละการเรียนรู้ของชีวิตที่งดงามของเด็ก ๆ
การขอโทษต่อกันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเดินหน้าต่อไป
การให้อภัยกันเป็นสิ่งที่ผลักดันให้ชีวิตสู่ความสมบูรณ์ ในชีวิตจริงมีน้ำตาได้
ย่อมมีเสียงหัวเราะได้เช่นกัน สิ่งที่ผ่านมาคือปัญหาที่นำไปสู่การมีปัญญา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น