โลกเขาไปถึงไหนกันแล้ว
ภาพ : อินเตอร์เน็ต |
ถ้าจะลองสังเกตกันดูสักหน่อย มีความเปลี่ยนแปลงหนึ่งในสังคมกำลังเกิดขึ้นและเพิ่มอัตราเร่งขึ้นในทุกๆ
วัน นั่นคือ การแอบอ้างสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล ใช้การกระทำส่วนตัวที่เห็นแก่ตัวในพื้นที่สาธารณะ
โดยไม่แคร์ความรู้สึกและผิดชอบชั่วดีกันเลย และด้วยเพราะเทคโนโลยีที่ทุกคนมีกล้องประจำตัว
(กล้องจากโทรศัพท์มือถือ) เป็นเครื่องสร้างภาพ
เครื่องส่งข่าวส่วนบุคคล หลายคนเลยนำมาเป็นเครื่องมือที่จะเรียกร้องสิทธิส่วนตัว เพื่อที่จะใช้ข่มขู่อีกฝ่ายหนึ่งนำไปกระจายให้คนอื่นได้รู้
อ้างว่านี่เป็นสิทธิส่วนตัวที่ทำได้ หรือมีบางคนที่นั่งเล่นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คในวัด
แชทกันแชทมาโดยไม่สนใจว่าจะสร้างความวอกแวกให้กับคนอื่นที่ได้มาร่วมพิธีกรรมหรือไม่
ใครไปบอกไปเตือนก็จะโกรธจะเคืองหาเรื่องทะเลาะ เช่นเคยโดยอ้างว่านี่เป็นสิทธิส่วนบุคคล
ในสังคมเมืองเรื่องแบบนี้เริ่มระบาดระบายออกมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านทางสื่อสมัยใหม่ที่ช่วยเป็นตัวเร่งกระแสแชร์ต่อๆกันไป
ภาพ : อินเตอร์เน็ต |
ในวันนี้ที่เกิดเรื่องประเภทนี้ขึ้นมากมาย เพราะเราทำให้ใจที่ตระหนักรู้ จิตใต้สำนึก
มโนธรรมล้มหายตายไปจากตัวเรา ไม่เคยฝึกฝนทำให้เข้มแข็ง และมักหลอกโกหกตัวเอง ฝืนต่อมโนสำนึกจนกลายเป็นความชินชา
อีกประการหนึ่งคือ มองเรื่องเสรีภาพในมุมอับคับแคบ ตีความให้เข้ากับจริตตัวเอง
แล้วก็อวดเก่ง อวดกร่าง สร้างภาพความเป็นฮีโร่ โลกที่ก้าวไกลต้องเป็นโลกที่อุดมไปด้วยคุณธรรมเพื่อสร้างเสรีภาพกับทุกผู้คน
ก่อให้เกิดสันติสุขร่มเย็น
ภาพ : อินเตอร์เน็ต |
ที่มาของปัญหานี้ที่สำคัญน่าจะเกิดมาจากระบบเศรษฐกิจทุนนิยมแบบใหม่ ใช้การตลาดเสรี
ที่ทำให้ผู้คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น เอารัดเอาเปรียบกันมากขึ้น มีการแข่งขันแบบเอาเป็นเอาตาย
มีชีวิตติดเสพมากขึ้น เสพติดเทคโนโลยีมีเงินเดือนไม่กี่บาท แต่ตะเกียกตะกายไขว่คว้าหาโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ราคาแสนแพง
เพียงเพื่อใช้แชทกับเพื่อน และใช้แอพลิเคชั่นไม่ถึง 5 ตัว เพียงเพื่อซื้อมาเล่นเกม
เพียงเพื่อให้ดูโก้เก๋ล้ำสมัย สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้คนมีความแปลกแยกกับชีวิตตัวเองและสังคมมากขึ้น
สร้างโลกส่วนตัว อยู่กับตัวเอง ก้มหน้าก้มตาอยู่กับสิ่งเล็ก ๆ ในมือ แล้วถือว่านี่คือโลกกว้าง ครั้นพอต้องเผชิญกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าผู้คนจริง
ๆ ก็มักแยกไม่ออก ยังคงยึดมั่นในโลกของตัวเองอยู่ร่ำไป ชีวิต “ติดเสพ” ของผู้คนถูกยุยงปลุกปั่นให้เสพติดทุกสิ่งทุกอย่างเกินความจำเป็น
จากธุรกิจสื่อสารยุคใหม่
ภาพ : อินเตอร์เน็ต |
ดังนั้นแล้วกับคำถามที่อวดรู้ระคนเหยียดหยามที่ว่า “โลกเขาไปถึงไหนกันแล้ว”
มันจึงไม่ได้ไปไหนเลยเพราะผู้คนยังจมอยู่กับโลกของตัวเอง ยังไงโลกก็ยังคงอยู่และโลกจะเป็นเช่นไรนั้นก็อยู่ที่เราต้องร่วมกันสร้าง
สร้างไปใน “วิถีทางที่ถูกต้อง” และมีปลายทางที่สันติสุขรอเราอยู่
โลกที่เราต้องเคารพและฟังกันและกันบ้าง เราไม่ได้ยิ่งใหญ่มาจากไหน ก็แค่สิ่งเล็ก
ๆ ที่เดินไปเดินมาบนโลกกว้าง โลกจะไปถึงไหน เรานั่นแหละที่จะช่วยกันให้โลกไปถึงนั่น
อย่าใช้คำว่า “โลก” มาทำให้ความ “โลภ”
ความ “หลง” ของเราเป็นเรื่องถูกต้องเลย ไม่เช่นนั้นสักวันหนึ่งเราคงถูกแส้ไล่ตีให้ออกไปจากโลกอันงดงามแห่งนี้อย่างเจ็บปวด....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น