หัวใจผู้ปกครอง
สายลมเย็นๆ บางเบาในยามเช้าพัดผ่านใบหน้า
ทำให้นึกขึ้นได้ว่านี่ก็ใกล้สิ้นปีอีกแล้ว เผลอแป๊บเดียวเรากำลังย่างเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี
ยิ่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่วันเวลายิ่งรวดเร็ว วัน ๆ หนึ่งผ่านไปกับสายลมเพียงพริบตา
แม้ว่าฤดูกาลจะผกผัน ลมหนาวจะมาช้าหรืออาจจะมาให้ลิ้มรสเพียงไม่กี่วัน แต่มันก็ยังส่งสัญญาณเตือนให้เราระลึกถึงวันเวลาที่มีค่าของชีวิต
และซ่อนความตระหนักรู้เอาไว้ว่า วันเวลาของเรานั้นเหลืออีกไม่มากแล้ว มีสิ่งใดที่จะทำทิ้งไว้แทนตนบ้างหรือยัง
หรือว่ายังมัวแต่ระเริงหลงใหลเสพสิ่งสร้างสุขในโลกนี้จนลืมไปว่า เรามิอาจจะครอบครองมันไว้ให้อยู่คู่เราตลอดไปได้
ภาพ : อินเตอร์เน็ต |
ในโลกวันนี้เรามักพบเห็นว่าผู้คนต่างอยากจะเป็นผู้ปกครองผู้อื่นอยู่ร่ำไป
โดยมิได้เรียนรู้ในอดีตที่ผ่านมาว่าผู้ปกครองนั้นควรมีหัวใจเยี่ยงไร แน่ล่ะ มีบ้างที่บางยุคบางสมัยมีผู้ปกครองที่หัวใจไร้ธรรม
แล้วผลแห่งการปกครองนั้น ส่วนมากก็ต้องล่มสลายหายสูญสิ้นจนไม่มีใครหวนคิดถึง แต่ผู้ปกครองที่เราตราตรึง
รำลึกถึงอยู่เสมอคือ ผู้ปกครองที่มีหัวใจเป็นธรรม ไม่โอ้อวด ไม่ยโส รักและดูแลทุกผู้คน
เคารพความเป็นมนุษย์ของทุกผู้ทุกนาม ไม่มีใครต่ำเตี้ย ต่ำต้อยกว่ากัน หัวใจที่แท้จริงของผู้ปกครองที่ดีต้องมีเมตตาเป็นหลักชัย
เศรษฐีทองคำใช้คุณธรรมและเงินทองของตนทำนุบำรุงหมู่บ้าน
และดูแลความเป็นอยู่ของชาวบ้านให้อยู่กินดีเสมอมา ชาวบ้านจึงเคารพรักใคร่ ท่านมีลูกสาวแสนสวยคนหนึ่ง
ชื่อว่า ดอกแก้ว เมื่อถึงเวลาสมควรเศรษฐีทองคำจึงอยากจะเลือกเฟ้นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน
เศรษฐีทองคำจึงให้คนไปป่าวประกาศเพื่อรับสมัครคนที่จะมาสืบทอดตำแหน่งและแต่งงานกับลูกสาวตน
เมื่อมีประกาศนี้ออกไป พวกผู้ชายที่รู้ข่าวต่างพากันตื่นเต้นดีใจ
รวมทั้ง “ขนุน” หนุ่มน้อยคนยากที่อาศัยอยู่ตรงกระต๊อบปลายนาด้วย
เมื่อถึงวันเลือกคู่ ขนุนรีบไปที่บ้านของเศรษฐีทองคำแต่เช้า
เมื่อไปถึงก็ปรากฏว่าที่นั่นเต็มไปด้วยบุรุษมากหน้าหลายตา และทุกคนก็เหมือนจะเป็นบุรุษจากครอบครัวผู้มีฐานะดี
มีการศึกษาสูง ยกเว้นขนุนที่ดูต่ำต้อย ไร้สกุลรุนชาติ และไม่มีการศึกษาที่สูงส่งอะไร
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว
เศรษฐีทองคำตั้งคำถามว่า “ทุกท่านจงบอกถึงความสามารถของท่านให้เราได้รู้ว่า หากท่านเข้ามาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านแล้ว
ท่านมีดีอันใดในตัวเอง ที่จะนำมาใช้ดูแลหมู่บ้านนี้ต่อจากข้า ขอจงบอกมาให้ข้ารู้”
บางคนก็โอ้อวดว่าจะใช้เงิน
บ้างก็ว่าจะใช้กำลัง ใช้ปัญญา การศึกษาชั้นสูง บ้างก็จะสร้างเมืองให้สวยงาม และมากมายที่ต่างล้วนแต่เป็นเรื่องภายนอกทั้งนั้น
ต่างก็กล่าวอ้างถึงคุณสมบัติพิเศษในตัวเองให้เศรษฐีทองคำพิจารณาทีละคน ๆ จนกระทั่งมาถึงขนุนในลำดับสุดท้าย
ขนุนกล่าวอย่างนอบน้อมว่า “ข้าน้อยขนุน
เป็นเพียงคนต่ำต้อย แต่ข้าน้อยกล้ายืนยันว่าตัวข้าน้อยนั้นยึดมั่นความดีเป็นที่ตั้ง
และข้าน้อยจะใช้ความดีอันเป็นสิ่งเดียวที่ติดตัวข้าน้อยอยู่ตลอดเวลา มาดูแลความทุกข์ร้อนของชาวบ้านด้วยความเมตตาขอรับ”
ภาพ : อินเตอร์เน็ต |
“ใช่แล้ว” เศรษฐีทองคำพูด
“แม้เจ้าจะเป็นขนุนคนต่ำต้อย แต่การกระทำของเจ้าได้พิสูจน์ให้ข้าเห็นแล้วว่า แท้จริงเจ้านั้นสูงส่งยิ่งกว่าคนร่ำรวย
นักรบ หรือแม้แต่ผู้มีการศึกษาดีแต่ไม่สามารถช่วยหมู่บ้านนี้ได้ยามมีภัยเดือดร้อน ดังนั้น
เจ้าจึงเหมาะที่จะเป็นลูกเขยข้า และเป็นผู้นำหมู่บ้านแห่งนี้ สืบต่อไป”
ชาวบ้านทุกคนก็พากันโห่ร้องแสดงความยินดีต้อนรับว่าที่หัวหน้าหมู่บ้านคนใหม่
เพราะซึ้งน้ำใจขนุนคนต่ำต้อย ผู้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ไม่รังเกียจงานต่ำต้อย จนช่วยให้ชาวบ้านรอดพ้นความเดือดร้อนในครั้งนี้(คัดย่อจาก นิทานสีขาว ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา)
แล้วหัวใจเราเล่าเป็นเยี่ยงไรในฐานะที่เราล้วนเป็นผู้ปกครองคนอื่น
...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น