วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เมืองในฝัน


เมืองในฝัน
ความฝันของใครหลายคน คือ การได้ไปท่องเที่ยวเยี่ยมชมเมืองที่มีชื่อเสียงต่างๆ ของโลก เช่น กรุงโรม ปารีส ฯลฯ บางคนก็ทำความฝันให้เป็นจริงได้ ด้วยความขยันหมั่นเพียรเก็บเงินเก็บทองเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน ซื้อทัวร์ไปท่องเที่ยว มีหลายคนทำเมืองในฝันหล่นหายด้วยหลายๆเหตุผล มีบ้างบางคนมีจังหวะเวลามาลงตัวพอดี มีโอกาสได้ไปยังที่เคยแอบฝันอย่างไม่คาดฝัน ชีวิตคนเราก็เป็นเช่นนี้ มีเรื่องมากมายหลากหลายเกิดขึ้น เพียงแต่ว่าเราจะอ่านออกและนำมาเป็นเครื่องชี้นำทางชีวิตได้อย่างไร !!!!

ในขณะที่กำลังอยู่บนเครื่องบินเพื่อมุ่งสู่เมืองที่หมาย เห็นเส้นตัดขอบฟ้าอันงดงามยามรุ่งเช้า แสงรำไรกำลังจะเริ่มโผล่พ้นฟ้า ความฝันถึงเมืองที่กำลังจะได้ไปเยือนใกล้เข้ามา จะได้เห็นเป็นภาพจริง นั่งนึกวาดไว้ว่าจะงดงามเหมือนภาพในนิยตสารท่องเที่ยวหรือเปล่า ใช่หรือไม่ สิ่งที่อยู่ในความฝันมักเป็นสิ่งที่สวยงามสมอ
การเดินทางในครั้งนี้มีอยู่สามเมืองที่ถือว่าเป็นเมืองในฝันของหลายๆคนในคณะ ที่ต้องการเห็นเป็นประจักษ์ต่อหน้าต่อตาถึงความสวยงาม เริ่มต้นที่เมืองบูดาเปสต์ Budapest เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐฮังการี  นอกจากจะเป็นเมืองหลวงของประเทศแล้วยังเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮังการี มีแม่น้ำดานูบ (Danube) ไหลผ่านใจกลางเมือง มีปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก้ ตั้งอยู่บนเนินสูงที่ด้านหนึ่งของแม่น้ำ และเป็นศูนย์กลางทางการเมือง ศิลปะ วัฒนธรรม ธุรกิจ และการคมนาคม
มีโอกาสนั่งเรือล่องแม่น้ำดานูบ ท่ามกลางความหนาวสุดขั้ว คลอด้วยเสียงเพลง บลูดานูบ ของคีตกวี โยฮัน สเตร้าส์ ที่แต่งเอาไว้ บทเพลงนี้เป็นเพลงอมตะเหมือนสายน้ำนี้ยังอยู่ในหัวใจคนรักเสียงดนตรีทั่วโลกนั่นเอง แม่น้ำดานูบ เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านประเทศฮังการีมีความยาวกว่า 400 กิโลเมตร สองฟากฝั่งคือเมืองบูดา ซึ่งอยู่ฝั่งตะวันตกและเมือง เปสต์ อยู่ทางฝั่งตะวันออก  และนี่คือที่มาของคำว่าบูดาเปสต์
กรุงปราก (Prague) คือเมืองที่หลายคนถวิลหา แต่เมื่อไปถึงแล้วหลายคนคงจำไม่รู้ลืม เพราะต้องใช้วิธีเดินเยี่ยมชมเมืองเก่า ใช้เวลาเดินเป็นชั่วโมง บูดาเปสต์ และกรุงปราก ทั้งสองเมืองมีลักษณะภูมิประเทศ ภูมิทัศน์คล้ายๆกัน กรุงปราก เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ค ซึ่งเป็นประเทศที่เพิ่งเกิดขึ้นในโลกนี้เพียงไม่ถึง 20 ปีที่ผ่านมานี้เอง แต่แท้จริงแล้วดินแดนแถบนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี  
เป้าหมายของการเดินชมเมือง คือ สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) เป็นสัญลักษณ์ของกรุงปราก เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ร้านขายของ นักวาดภาพเหมือน นักดนตรี กรุงปราก ตั้งอยู่บนสองฝั่งแม่น้ำวัตตาวา (Vltava)   สะพานชาร์ลส์ เป็นสะพานเก่าแก่ที่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.. 1357 เพื่อทดแทนสะพานแห่งเดิมที่พังทลายจากน้ำท่วม สองข้างสะพานประดับไปด้วยรูปปั้นของนักบุญทั้งหมด 30 รูป จากสะพานเราต้องรีบเดินเข้าย่านกลางเมืองเก่า เพื่อไปชมหอนาฬิกาโบราณ ที่มีรูปปั้นอัครสาวกทำท่าประทานพรให้   ผ่านช่องตรงใจกลางตัวนาฬิกา ในทุก ๆ ชั่วโมง มีอีกหลายคนพลาดโอกาสเสี้ยวนาทีนั้น ก็ต้องรออีกหนึ่งชั่วโมงถัดมา การรอคอยเช่นนี้เป็นความสุขที่ผ่านมาเพียงเศษเสี้ยวของชั่วโมงแต่ทุกคนพร้อมที่จะรอ
และเมืองสุดท้าย คือ กรุงเวียนนา หนึ่งในบรรดาแหล่งประวัติศาสตร์ที่งดงามที่สุดในยุโรป ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก้ด้วย ตัวเมืองเก่ามีศิลปะแบบโกธิค วัดนักบุญสเตเฟน ตั้งเด่นเป็นสง่า  มีหอคอยทางทิศใต้ที่มีความสูงถึง 136.7 เมตร ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 75 ปี ตามประวัติจริงๆ แล้วควรจะมีหอคอยคู่กันทางทิศเหนือด้วย แต่ขาดแคลนเงินในการสร้างต่อ จึงทิ้งไว้ที่ความสูง 65 เมตรก่อน  พอเวลาผ่านไปศิลปะแบบโกธิคกลายเป็นสิ่งล้าสมัย  ก็เลยสร้างเป็นโดมครอบไว้แทน และตรงนี้เองเป็นศูนย์กลางของเขตเมืองเก่า เป็นที่มั่นหมายของเหล่าบรรดานักช้อป เวลาสามชั่วโมงดูจะน้อยไปในการวิ่งออกร้านโน้นร้านนี้
จากนั้นมีโอกาสถ่ายรูปหน้าพระราชวังเบลเวเดียร์ (Belvedere Palace)  สร้างขึ้นตามศิลปะบาร็อก เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อนของเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย ผู้นำกองทัพที่ทำสงครามจนได้รับชัยชนะต่อพวกเติร์กที่เข้ามารุกราน ออสเตรียเคยเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในยุโรป เป็นที่ชุมนุมของนักคิด นักประพันธ์ ศิลปินในแขนงต่างๆ ซึ่งผลิตผลงานไว้มากมาย และทิ้งไว้เป็นมรดกแก่ชาวโลก
สุดท้ายคลายเมื่อยกันที่ Stadtpark คือสวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงกลางกรุงเวียนนาที่สวนนี้นอกจากจะปลูกไม้ดอกไม้ประดับอย่างสวยงามแล้ว ยังมีรูปปั้นคีตกวี ราชาเพลงวอลซ์ โยฮัน สเตร้าส์ สีทองเหลืองอร่าม ตั้งอยู่ในซุ้มที่แทบทุกคนต้องไปยืนถ่ายรูปด้วย วันที่เราไปเยือนนั้น แสงแดดยามเย็นสวยงามมาก
ในชีวิตเรามีเมืองในฝันอีกมากมายที่เราอยากไปเยือนไปเยี่ยมชม และยังมีเมืองอีกเมืองหนึ่งซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเราทุกคน และเป็นฝันของทุกคนที่จะไปให้ถึง นั่นคือ เมืองสวรรค์ และเพื่อเราจะไปให้ถึงเมือง วันนี้เราได้เตรียมตัวพร้อมหรือยัง สะสมความดีงามไว้มากเพียงใดแล้ว เพื่อเป็นใบเบิกทางให้เข้าสู่เมืองแมนแดนสวรรค์เมืองในฝันแห่งนั้น...

ไม่มีความคิดเห็น: