วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555

พ่อใหญ่ใจดี


พ่อใหญ่ใจดี
ในทุกๆปีที่มีการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงคุณพ่อในวัดของเรา ก็มักรู้สึกเศร้าๆเหงาๆอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งต้องเขียนอำลาคุณพ่อที่คุ้นเคยด้วยแล้ว รู้สึกใจหายในทุกๆครั้ง ก็เข้าใจดีถึงระบบการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนหน้าที่รับผิดชอบในงานอภิบาลของพระสงฆ์ ส่วนหนึ่งคือการยืนยันถึงความนบนอบที่มีต่อผู้ใหญ่ เป็นคำสัญญาข้อสำคัญข้อหนึ่งของศักดิ์สงฆ์ ประการต่อมาเป็นการสอนให้เราต้องไม่ยึดติดถือครองกับตัวบุคคลในนามของผู้รับใช้ที่พร้อมรับใช้ทุกคนในทุกสถานที่และสถานการณ์ ท้ายสุดนั่นคือ การสอนให้เรารับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงอันเป็นนิรันดร์ แต่คำสอนของพระคริสต์มิมีวันเปลี่ยนไป หากเราเชื่อมั่นในพระคริสตเจ้า ใย...เลยเราจะกลัวและไม่กล้าเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง..
แน่ล่ะ ตามประสามนุษย์ผู้อ่อนแอ ย่อมรู้สึกใจหายเมื่อต้องกล่าวคำอำลา ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกรา ชีวิตของคนเราก็คงจะเป็นเช่นนั้น  ไม่ว่าจะทำอะไรหรือไปอยู่ที่ไหน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องชั่วครั้งชั่วคราว ที่จะต้องมีเลิกรายุติและจบลงไม่วันใดก็วันหนึ่ง  หากเปรียบชีวิตเป็นดั่งละคร มีหรือที่จะไม่มีวันเดินทางถึงตอนอวสาน ความจริงข้อนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรู้สึกหรือความต้องการของใคร  ถึงจะชอบหรือไม่ชอบก็ต้องเป็นไปอย่างนั้นอยู่ดี  แต่ใช่หรือไม่... การจากลากันอย่างมิตรภาพและยังยึดโยงในสายสัมพันธ์ มันคือสิ่งที่ทำให้เราได้หวนรำลึกถึงคุณงามความดีที่ได้ร่วมก่อร่างสร้างสรรค์กันไว้ เหมือนได้ร่วมสร้างสวรรค์บนแผ่นดินมาด้วยกัน ...
ครั้งนี้เป็นวาระของ คุณพ่อศักดิ์ชัย ทรัพย์อัประไมย พ่อใหญ่เจ้าอาวาสผู้ใจดีของเรา ต้องเปลี่ยนหน้าที่ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดพระคริสตประจักษ์ ที่เกาะใหญ่ เมืองอยุธยา คุณพ่อก็ไม่ได้ถูกปล่อยเกาะ แต่คุณพ่อกำลังจะกลายเป็นเกาะใหญ่ให้ผู้เดือดร้อนได้อาศัยด้วยความใจดีและใจกว้างของคุณพ่อ ถึงแม้หน้าที่จะเปลี่ยนไป แต่หัวใจแห่งสงฆ์ของคุณพ่อจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ความศรัทธา การสวดภาวนาของคุณพ่อไม่ว่าจะอยู่ที่ใดคุณพ่อกระทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ภาพหนึ่งที่เห็นอยู่บ่อยๆคือ ภาพที่คุณพ่อจะเดินเข้าไปสวดภาวนาเฝ้าศีลในวัดเป็นประจำ ในการเทศน์สอนของคุณพ่อก็มีเสน่ห์ด้วยความรู้ด้านประวัติศาสตร์และเรื่องราวของโลกยุคใหม่อย่างแตกฉาน ผสมผสานกับพระวรสาร เกี่ยวร้อยเรื่องราว ให้สามารถนำไปปฏิบัติบนหนทางชีวิตคริสตชนได้อย่างมีคุณภาพ ถือได้ว่าคุณพ่อมีชีวิตจิตที่แนบแน่นเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้าผู้กลับคืนชีพ อย่างแท้จริง
และอีกสิ่งหนึ่งที่เรามิอาจจะลบเลือนจากความทรงจำได้เลย ในเรื่องความใจดีของคนเป็นพ่อ ที่ลูกๆขออะไรพ่อก็มักให้สิ่งนั้น หลายคนจึงเรียกคุณพ่อว่า พ่อใหญ่ใจดี ถึงแม้จะมีบ้างบางคนอาศัยความใจดีของคุณพ่อมาฉกฉวยผลประโยชน์แห่งตนไปครอบครอง เมื่อรู้ความจริงคุณพ่อก็มิเคยโกรธเคือง อภัยให้ได้เสมอ หรือแม้เวลาที่เกิดปัญหาความขัดแย้งเล็กๆน้อยๆ คุณพ่อก็พร้อมน้อมตนถ่อมตัวไปช่วยไกล่เกลี่ยปัญหา การอยู่ร่วมกับคนหมู่มาก ไม่ว่าจะต่างพื้นฐานกันมากน้อยเพียงใด ย่อมจะต้องมีความขัดแย้งหรือความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้นบ้างเป็นธรรมดา  การคลี่คลายปัญหาที่ว่านี้ต้องอาศัยการเปิดใจให้กว้าง  ไม่เอาแต่ความเห็นของตนเองเป็นเครื่องตัดสินแต่ฝ่ายเดียว และพยายามทำความเข้าใจรากฐานที่มาของคนนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  
มีกวีคนหนึ่งเปรียบความสัมพันธ์ระหว่างคนเราเอาไว้ว่า เหมือนท่อนไม้สองท่อนที่ล่องลอยมาพบเจอกันกลางทะเล  ครั้นพอเจอคลื่นลมทำให้แต่ละท่อนหักเหทิศทางไป ไม้ทั้งสองท่อนก็แยกห่างจากกัน และไม่มีใครรู้ว่ามันจะหวนกลับมาพบกันอีกหรือไม่....  ฟังๆดูแล้วน่าเศร้าใจ  แต่หากหันมามองอีกมุมหนึ่งก็จะเห็นว่าเป็นความจริงของชีวิตที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้
และในช่วงเวลาแห่งการพบเจอกันนั้นหากเราตอบกับตัวเองได้ว่า เราได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว และแม้มันจะมีข้อบกพร่องผิดพลาดเกิดขึ้นบ้าง ก็เป็นธรรมดาของปุถุชน  ยิ่งถ้าเราไม่ได้มีเจตนาที่จะมุ่งร้ายหรือเบียดเบียนใคร  ก็ถือได้ว่าดีที่สุดเท่าที่จะพึงทำได้แล้ว สำหรับพ่อใหญ่ของเราผู้มิเคยคิดมุ่งร้ายต่อใคร แต่คุณพ่อยังเปี่ยมด้วยการเป็นผู้ให้อยู่ตลอดเวลา ใครเดือดร้อน ใครมาขอความช่วยเหลือ เพียงแค่เอ่ยปาก คุณพ่อก็พร้อมมอบสิ่งที่ดีมีค่าให้ได้เสมอ
การเดินทางจากที่แห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่ง และการพลัดพรากจากคนกลุ่มหนึ่งเพื่อไปพบปะกับคนอีกกลุ่มหนึ่ง โดยที่อาจมีหรือไม่มีวันหวนคืนมาพบกันอีก จึงไม่ใช่เรื่องน่าเศร้าโศก  หากแต่ว่าเป็นเรื่องที่น่าเบิกบานใจ เพราะเมื่อคิดย้อนหลังไปในคราใด เราย่อมพบแต่ความสุข ความชื่นใจ ความสบายใจที่ได้อยู่ร่วมกันอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขอบพระคุณคุณพ่อใหญ่ใจดี ที่ช่วยให้ได้เรียนรู้ความจริงของชีวิตมากขึ้นและลึกซึ้งยิ่งขึ้น ตามแนวทางแห่งพระวรสาร
การพบเจอกันแห่งสายสัมพันธ์ในพระคริสต์ผู้เป็นศูนย์กลาง ทำให้เรามีทิศทางเดียวกัน แม้ว่าในช่วงเวลาหนึ่งเราอาจจะร่วมทางกันนานสักหน่อย แต่ในทุกครั้งของการสวดภาวนา เราก็ได้ร่วมทางกันแล้ว เป็นการร่วมทางของมิตรภาพและภราดรภาพในพระเจ้าองค์เดียวกัน นั่นเป็นการพบเจอกันทางจิตวิญญาณ และเราจะหมั่นสวดภาวนาให้คุณพ่อเสมอ ดั่งที่คุณพ่อมักสวดภาวนาเพื่อพวกเรา การลาจากกันครั้งนี้ จึงเป็นการจากลาด้วยรอยยิ้ม และความทรงจำที่งดงาม เราจะขอ เกาะ คุณพ่อ ใหญ่ ของเราไว้ในคำภาวนาตลอดไป เราสัญญา...

ไม่มีความคิดเห็น: