พ่อใหญ่ใจดี
ในทุกๆปีที่มีการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงคุณพ่อในวัดของเรา
ก็มักรู้สึกเศร้าๆเหงาๆอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งต้องเขียนอำลาคุณพ่อที่คุ้นเคยด้วยแล้ว
รู้สึกใจหายในทุกๆครั้ง ก็เข้าใจดีถึงระบบการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนหน้าที่รับผิดชอบในงานอภิบาลของพระสงฆ์
ส่วนหนึ่งคือการยืนยันถึงความนบนอบที่มีต่อผู้ใหญ่
เป็นคำสัญญาข้อสำคัญข้อหนึ่งของศักดิ์สงฆ์
ประการต่อมาเป็นการสอนให้เราต้องไม่ยึดติดถือครองกับตัวบุคคลในนามของผู้รับใช้ที่พร้อมรับใช้ทุกคนในทุกสถานที่และสถานการณ์
ท้ายสุดนั่นคือ การสอนให้เรารับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงอันเป็นนิรันดร์
แต่คำสอนของพระคริสต์มิมีวันเปลี่ยนไป หากเราเชื่อมั่นในพระคริสตเจ้า
ใย...เลยเราจะกลัวและไม่กล้าเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง..
แน่ล่ะ ตามประสามนุษย์ผู้อ่อนแอ
ย่อมรู้สึกใจหายเมื่อต้องกล่าวคำอำลา ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกรา
ชีวิตของคนเราก็คงจะเป็นเช่นนั้น
ไม่ว่าจะทำอะไรหรือไปอยู่ที่ไหน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องชั่วครั้งชั่วคราว
ที่จะต้องมีเลิกรายุติและจบลงไม่วันใดก็วันหนึ่ง
หากเปรียบชีวิตเป็นดั่งละคร มีหรือที่จะไม่มีวันเดินทางถึงตอนอวสาน
ความจริงข้อนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรู้สึกหรือความต้องการของใคร ถึงจะชอบหรือไม่ชอบก็ต้องเป็นไปอย่างนั้นอยู่ดี แต่ใช่หรือไม่...
การจากลากันอย่างมิตรภาพและยังยึดโยงในสายสัมพันธ์
มันคือสิ่งที่ทำให้เราได้หวนรำลึกถึงคุณงามความดีที่ได้ร่วมก่อร่างสร้างสรรค์กันไว้
เหมือนได้ร่วมสร้างสวรรค์บนแผ่นดินมาด้วยกัน ...
ครั้งนี้เป็นวาระของ คุณพ่อศักดิ์ชัย ทรัพย์อัประไมย
พ่อใหญ่เจ้าอาวาสผู้ใจดีของเรา
ต้องเปลี่ยนหน้าที่ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดพระคริสตประจักษ์ ที่เกาะใหญ่ เมืองอยุธยา คุณพ่อก็ไม่ได้ถูกปล่อยเกาะ
แต่คุณพ่อกำลังจะกลายเป็นเกาะใหญ่ให้ผู้เดือดร้อนได้อาศัยด้วยความใจดีและใจกว้างของคุณพ่อ
ถึงแม้หน้าที่จะเปลี่ยนไป แต่หัวใจแห่งสงฆ์ของคุณพ่อจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
ความศรัทธา การสวดภาวนาของคุณพ่อไม่ว่าจะอยู่ที่ใดคุณพ่อกระทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
ภาพหนึ่งที่เห็นอยู่บ่อยๆคือ
ภาพที่คุณพ่อจะเดินเข้าไปสวดภาวนาเฝ้าศีลในวัดเป็นประจำ
ในการเทศน์สอนของคุณพ่อก็มีเสน่ห์ด้วยความรู้ด้านประวัติศาสตร์และเรื่องราวของโลกยุคใหม่อย่างแตกฉาน
ผสมผสานกับพระวรสาร เกี่ยวร้อยเรื่องราว
ให้สามารถนำไปปฏิบัติบนหนทางชีวิตคริสตชนได้อย่างมีคุณภาพ
ถือได้ว่าคุณพ่อมีชีวิตจิตที่แนบแน่นเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้าผู้กลับคืนชีพ
อย่างแท้จริง
และอีกสิ่งหนึ่งที่เรามิอาจจะลบเลือนจากความทรงจำได้เลย
ในเรื่องความใจดีของคนเป็นพ่อ ที่ลูกๆขออะไรพ่อก็มักให้สิ่งนั้น
หลายคนจึงเรียกคุณพ่อว่า “พ่อใหญ่ใจดี”
ถึงแม้จะมีบ้างบางคนอาศัยความใจดีของคุณพ่อมาฉกฉวยผลประโยชน์แห่งตนไปครอบครอง
เมื่อรู้ความจริงคุณพ่อก็มิเคยโกรธเคือง อภัยให้ได้เสมอ
หรือแม้เวลาที่เกิดปัญหาความขัดแย้งเล็กๆน้อยๆ
คุณพ่อก็พร้อมน้อมตนถ่อมตัวไปช่วยไกล่เกลี่ยปัญหา การอยู่ร่วมกับคนหมู่มาก
ไม่ว่าจะต่างพื้นฐานกันมากน้อยเพียงใด
ย่อมจะต้องมีความขัดแย้งหรือความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้นบ้างเป็นธรรมดา การคลี่คลายปัญหาที่ว่านี้ต้องอาศัยการเปิดใจให้กว้าง ไม่เอาแต่ความเห็นของตนเองเป็นเครื่องตัดสินแต่ฝ่ายเดียว
และพยายามทำความเข้าใจรากฐานที่มาของคนนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
มีกวีคนหนึ่งเปรียบความสัมพันธ์ระหว่างคนเราเอาไว้ว่า
เหมือนท่อนไม้สองท่อนที่ล่องลอยมาพบเจอกันกลางทะเล ครั้นพอเจอคลื่นลมทำให้แต่ละท่อนหักเหทิศทางไป
ไม้ทั้งสองท่อนก็แยกห่างจากกัน
และไม่มีใครรู้ว่ามันจะหวนกลับมาพบกันอีกหรือไม่.... ฟังๆดูแล้วน่าเศร้าใจ แต่หากหันมามองอีกมุมหนึ่งก็จะเห็นว่าเป็นความจริงของชีวิตที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้
และในช่วงเวลาแห่งการพบเจอกันนั้นหากเราตอบกับตัวเองได้ว่า
เราได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว และแม้มันจะมีข้อบกพร่องผิดพลาดเกิดขึ้นบ้าง
ก็เป็นธรรมดาของปุถุชน
ยิ่งถ้าเราไม่ได้มีเจตนาที่จะมุ่งร้ายหรือเบียดเบียนใคร ก็ถือได้ว่าดีที่สุดเท่าที่จะพึงทำได้แล้ว
สำหรับพ่อใหญ่ของเราผู้มิเคยคิดมุ่งร้ายต่อใคร
แต่คุณพ่อยังเปี่ยมด้วยการเป็นผู้ให้อยู่ตลอดเวลา ใครเดือดร้อน
ใครมาขอความช่วยเหลือ เพียงแค่เอ่ยปาก คุณพ่อก็พร้อมมอบสิ่งที่ดีมีค่าให้ได้เสมอ
การเดินทางจากที่แห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่ง
และการพลัดพรากจากคนกลุ่มหนึ่งเพื่อไปพบปะกับคนอีกกลุ่มหนึ่ง โดยที่อาจมีหรือไม่มีวันหวนคืนมาพบกันอีก
จึงไม่ใช่เรื่องน่าเศร้าโศก
หากแต่ว่าเป็นเรื่องที่น่าเบิกบานใจ เพราะเมื่อคิดย้อนหลังไปในคราใด
เราย่อมพบแต่ความสุข ความชื่นใจ
ความสบายใจที่ได้อยู่ร่วมกันอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขอบพระคุณคุณพ่อใหญ่ใจดี
ที่ช่วยให้ได้เรียนรู้ความจริงของชีวิตมากขึ้นและลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ตามแนวทางแห่งพระวรสาร
การพบเจอกันแห่งสายสัมพันธ์ในพระคริสต์ผู้เป็นศูนย์กลาง
ทำให้เรามีทิศทางเดียวกัน แม้ว่าในช่วงเวลาหนึ่งเราอาจจะร่วมทางกันนานสักหน่อย
แต่ในทุกครั้งของการสวดภาวนา เราก็ได้ร่วมทางกันแล้ว เป็นการร่วมทางของมิตรภาพและภราดรภาพในพระเจ้าองค์เดียวกัน
นั่นเป็นการพบเจอกันทางจิตวิญญาณ และเราจะหมั่นสวดภาวนาให้คุณพ่อเสมอ
ดั่งที่คุณพ่อมักสวดภาวนาเพื่อพวกเรา การลาจากกันครั้งนี้
จึงเป็นการจากลาด้วยรอยยิ้ม และความทรงจำที่งดงาม เราจะขอ “เกาะ” คุณพ่อ “ใหญ่” ของเราไว้ในคำภาวนาตลอดไป เราสัญญา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น